นี่คือการค้นพบ ตาม"ความเชื่อ"
แบบฝรั่งๆ ครับ
O ciclo
menstrual é dividido em 3 fases determinadas por alterações hormonais
que se
repetem mensalmente. O ciclo menstrual normal dura 28 dias, mas é
possível que o ciclo menstrual regular varie entre 23 e 35 dias,
dependendo do
organismo
de cada mulher.
Ongkana Thongpinit แล้วของแผนไทยเช่นไรคะ ครู
Atthanij Pokkasap
วิเคราะห์งานวิจัยฝรั่งคลิปนี้ก่อน...
สารหลั่งจากสมองที่ว่า...ฝรั่งก็สังเคราะห์ได้แล้วนะ..แต่เมื่อทดลองฉีดเข้าไปแล้ว....ฮ่าาาา...ฝรั่งไม่กล้าเปิดเผยออกมาครับ
มันได้ผลมั่ง..ไม่ได้ผลมั่ง เหมือนตอนทำโคลนนิ่ง....
สุดท้ายต้องเอาไปมั่วกับผสมเทียม ...ต้องตามความคิด(ในการบิดเบือน)ของวิทยาศาสตร์แบบฝรั่งๆให้ทันครับ...สำหรับการค้นพบในเชิงลึกของพระพุทธศาสนา....ขอเก็บไว้ก่อน
...ยังไม่อาจเปิดเผยในช่วงนี้ครับ
ส่วนล่างของฟอร์ม
เฉลิม แสน วิถีการฝึกแบบฝรั่ง น่าเลื่อมใสนักครับ
Atthanij Pokkasap ผู้มีปัญญาของฝรั่ง...เขาทำตัวแบบตัวเอกใน
ซีรีย์ NCIS... สรุปครับ...
ผมเชื่อ...แต่ ต้องพิสูจน์
คือเชื่อเพื่อที่จะเรียนรู้ และพิสูจน์เพื่อให้ได้ซึ่งที่มาของเรื่องราวจริงๆต้นกำเนิดของเรื่อง
เขาจึงมีคนเก่ง...เก่งกว่าต้นตำรับ ที่...อย่างที่ผมเจอตลอดเดือนธันวาที่ผ่านมา
งัยครับ
Wichai Sitthi-ampai
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่และต้องพิสูจน์ ผมมีมุมมองแบบนี้
ก็ไม่รู้ว่าถูกรึเปล่าครับ
Atthanij Pokkasap ไม่เชื่อ..ก็ต้องแสดงเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยความไม่เชื่อออกมาด้วยครับ..ไม่ใช่เอาวิทยาศาสตร์มาเป็นอารมณ์แล้วโอหังเป็นอันธพาล
จนกลายเป็น
ต้องกฎหมายอาญาว่าด้วยการหมิ่นประมาทผู้อื่นเขา...ตามสันดานเลวๆที่คนสมัยนี้ชอบแสดงกัน
นะครับ...แต่พวกเรา..ศึกษา
และที่เฟซผมเสนอ...คือการค้นหาความจริงจากหลักฐานชั้น
คัมภีร์ออริจินัล...ที่เคยสร้างอารยธรรมทองของมนุษชาติมาแล้วทั้งนั้น.....ครับ
Wichai Sitthi-ampai
อืมใช่เลยครับ
รวิสา อริสาวรากุล ชอบค่ะอจ.ขออนุญาติแชร์นะค่ะ
Atthanij Pokkasap ฝรั่ง เชื่อว่า ความฉลาด อยู่ที่สมอง
ที่เป็นฐานประมวลการรับรู้และวิธีคิดขั้นพื้นฐานของจิต....อยู่ นะครับ และลืมที่จะหาความสัมพันธ์จาก
ข้อมูลในสมองไปเกี่ยวอะไรกับข้อมูลภายในเซลล์แต่ละเซลล์ของร่างกาย..
ที่ถูกสร้างด้วย ข้อมูลพลังงานจากจิตในหัวใจ....(เฉพาะการค้นพบของพระพุทธศาสนา)
Atthanij Pokkasap
ร่องรอยทางรูปธรรม...พระพุทธศาสนาไม่จำเป็นต้องไปศึกษาสมองครับ...ศึกษาที่รูป-สี
ของหัวใจ ตับ ถุงน้ำดี ก็รู้แล้วว่า มีปัญญา-ไม่มีปัญญา...!!!!
Atthanij Pokkasap งมงายไสยศาสตร์เท่านั้นที่รู้ว่าวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า...เป็นความรู้แท้จริงของมนุษย์
Panu Wongpanuvut มุดคลอง
Monchai
Sahapornudomkan คนทำได้เป็นความจริง ทำไม่ได้เป็นความเชื่อ
Atthanij
Pokkasap โดยฐานะ...
ศาสนาผู้ค้นพบปรากฏการณ์เวลา "ปัจจุบัน"
อันเป็นวิทยาศาสตร์ของชาวพุทธ
คือ "วิญญาณ" ในห่วงโซ่แห่งปฏิจจสมุปปาท
ต้องพิสูจน์ ด้วยการให้ลมหายใจออก-ลมหายใจเข้า นำสติ ไปประสบ
กำเนิด "วิญญาณ"..ณ พิกัด ที่เรียกว่า "มโนธาตุ, มโนวิญญาณธาตุ"
ซึ่งอยู่ที่..."หัวใจ"
เป็นวิถีแห่งสมาธิพุทธ อันคนเลวเสพไม่ได้ เข้าไม่ถึงล้วนๆ
ปัจจุบันของชาวพุทธแท้ ไม่ใช่อุปาทานที่เอามาพูดกันอย่างเลื่อนลอย
ครับ !!!
Atthanij Pokkasap
"ตารางธาตุ"
การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ที่ปฏิเสธพิธีกรรมการพิสูจน์แบบวิทยาศาสตร์
อย่างเป็นทางการที่สุดของโลก
เมื่อไหร่... สังคมการศึกษาของประเทศไทย จึงจะพัฒนามาถึงเสียที ?!!
เพราะปัจจุบัน มีแต่ผลิตประชากรที่งมงาย
อยู่ในลัทธิบูชาพิธีกรรมทางวิทยาศาสตร์อย่างบ้าคลั่ง..
เพ่นพ่านยั้วเยี้ยเต็มบ้านเต็มเมือง....
Takeda Kosae บูชาวิทย์แบบผิดๆแถมยังเข้าไม่ถึงสายที่ผิดๆอีกด้วยนะครับ
จะโง่ยังโง่ไม่สุดเลยนะคับ แค่จับกระแสมาอวดภูมิ สุดๆละคับ สองต่อเข้าฮอร์ส
กิน(หญ้า)เรียบ คับอาจาร์ย
Atthanij Pokkasap ถึงรู้ว่า มันโง่ และ ฝีมือที่มันอวดอ้างว่ามันมี ก็เหมือนกัน...ก็มี
อย่างโง่ๆ...กาก...เสียจนไม่มีราคาเลยที่จะลงไปโปรด...ฮ่าาาาา
เฉลิม แสน เขาจารู้เรื่องมั๊ยเนีย...
Atthanij Pokkasap ไม่มีสมอง..ก็ไม่รู้เรื่อง
กินเป็นแต่หญ้า เบอร์ 14 ฮ่าาาา
ภูมิปัญญาเบื้องหลังการค้นพบนี้...คือ
ภาวะของจิต ที่เรียกกันว่า "สหัชญาณ(Intuition)" ...ที่มีพฤติ...ที่...พระพุทธศาสนาเรียกว่า "โยนิโสมนสิการ" คือ
เป็นการน้อมไปเองของจิตตื่นรู้...ที่จะไปสู่การรู้ที่ชัดเจนยิ่งๆขึ้น(ไม่ได้เกิดจากการกำหนดจิต
หรือกำหนดรู้ใดๆทั้งสิ้น)....โดยทั่วไปในศาสตร์โบราณทั้งหลาย.(ที่ถูกกล่าวหาว่า
งมงายทั้งหมด น่ะล่ะครับ) ล้วนต้องอาศัย ภาวะจิตแบบนี้เอง เรียกเป็นภาวะรวมๆว่า
"ญาณ" หรือ "องค์ญาณ"....ถ้ไม่บริสุทธิ์
หรือมีอารมณ์อื่นเข้ามาแทรก...อย่างหยาบที่สุด ก็คือ อาการผีเข้า อาการเห็นผี ครับ
Atthanij Pokkasap ฝรั่งเคยพยายามค้นคว้าอยู่ในยุคการศึกษารุ่งเรืองสูงสุดเมื่อ 100 ปีก่อน(ยุคค้นพบ ท.สัมพัทธภาพนะแหละ) เรียกเนื้อหาของวิชานี้ว่า Epistemology
...คือปรัชญาว่าด้วยวิธีการและขอบเขตของความรู้ของมนุษย์ ครับ
Atthanij Pokkasap แต่เท็คนิคของน้อมไปของจิตตื่นรู้ตามหลักปฏิบัติการโยคะของพระพุทธศาสนา
ภายหลังเมื่อปลดปล่อยจิตให้พ้นไปจากการครอบงำโดยข้อมูลของ
อายตนประสาทแล้ว...มีกำหนดอยู่ครับ...คือ
ท่านให้กำหนด
สัญญา(ความจำจากจิตที่ถูกปลดปล่อยแล้วนั้นเองแหละ)...ด้วยแสงสว่าง(อาโลกสัญญา)
ความรู้จึงจะอุบัติขึ้น...ท่านจึงเรียกระดับการอุบัติขึ้นของความรู้โดยจิตบริสุทธิ์นี้ว่า
"สัมโพธิ".....
เฉลิม แสน เสริฟข้าวสวยร้อนๆหอมๆ ไม่กิน
อยากไปกินหญ้าต่อก็ตาม บายนะครับ
Atthanij Pokkasap
สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม...
No comments:
Post a Comment