Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Thursday, December 20, 2018

คาถาธนูมือ ของ พุทธตันตระ (สยาม)




Atthanij Pokkasap


คาถาธนูมือ ของ พุทธตันตระ(สยาม)


เป็นบทฝึกจิตสร้าง กำลังแห่งแขน(พาหาพล) ที่ยุบตัวมาจาก วิชาธนุรเวท ใน ชาดกใหญ่
๔ เรื่อง โดยเฉพาะ "อสทิสชาดก(Asadisajataka)" และ "โชติปาลชาดก(Jotipalajataka)"
ที่มีรายละเอียดของวิชาธนุรเวทมากที่สุด    
นอกนั้นก็แทรกเป็นวิชายิงธนูกระสุน  
วิชาดีดลูกกระสุนของท้าวพันธุมเสนา(เจ้าชายพันธุละมหาเสนาบดีแคว้นโกศล ยุคต้นพุทธกาล)

(ในมังกรหยก คือวิชา พลังเทพดีดนิ้ว-ทั่งจี้ซิ่งกง ของภูตบูรพา อึ้งเอียะซือ)... 

คาถากำกับธนูมือ ของพุทธตันตระสยาม คือ


๑. หัวใจพระวินัยปิฎก อา ปา มะ จุ ปะ
๒. หัวใจพระสุตตันตปิฎก ที มะ สัง อัง ขุ
๓. หัวใจพระอภิธัมมปิฎก สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ
โดยบริกรรม เรียงต่อเนื่อง เป็น อนุโลม

ชนิดของลูกธนูมือ มี ๔ ระดับ

๑. ระดับ ผูกใจ ผูกจิตวิญญาณ เป็นระดับเบื้องต้น เรียกว่า "ศรนาคบาศ ธาตุกมลา"
ขึ้นต้นด้วย หัวใจพระวินัยปิฎก

๒. ระดับแผลงเป็น รูปต่างๆ(จากโชติปาลชาดก) เรียกว่า "ศรพรหมาศ ธาตุเมธา"
ขึ้นต้นด้วย หัวใจพระสูตร(พระสุตตันตปิฎก)

๓. ระดับสังหารกิเลส ถึงขั้นทำลายชีวิตตัวกิเลส เรียกว่า "ศรประลัยวาต ธาตุชีวา"
ขึ้นต้นด้วย หัวใจพระอภิธรรม

๔. ระดับนิพพาน คือ สังหารกิเลส และทำลายขันธ์ เรียกว่า "ศรจันทรวาต ธาตุขันธา"...(จันทรวาต ธาตุอิสสระนะระมะตา)

ใช้ศร กล่าว "มิ อิฯ"
เรียกศรกลับ กล่าว "อิ มิ ฯ"
มัดจิตใจ ใช้รักษาโรค กล่าว "อุรัง สะรัง ฯ" พร้อมชื่อศรขึ้นนำ มีหัวใจพระไตรปิฎก ทั้ง
๓ ตะกร้า เป็นปัจฉาบริกรรม ฯ


เป็นเท็คนิคในประวัติศาสตร์ของวิชา "พาหาพล" ที่ยุบตัวเป็น ไสยศาสตร์ไทยใน
พุทธตันตระสยาม .....
บนพื้นฐาน "กักลมอัสมิตา"
เท่านั้น !!!





Atthanij Pokkasap  @ คุณพี่หมอ Sirimongkol Tobngam
ใช้ดู นะครับ
อย่างเมตตาปราณี...
หงายมือกำหนดอารมณ์สมาธิจากการฝึกฝนกักลมอัสมิตา...แล้วกำหนด หัวใจทั้ง 3 จากพระไตรปิฎก...
อย่างเด็ดขาด...
ตั้งมะเหงกเกร็งนิ้วทั้งหมด คว่ำลง กำหนดอารมณ์กักลมอัสมิตา บริกรรมคาถาหัวใจทั้ง 3 ยิงออกไป....โรคกรรม อยู่ไม่ได้ครับ


Sirimongkol Tobngam    ครับผม เสร็จผมละเดี๋ยวจะดีดนิ้วแบบหนังจีนครับพลังดัชนีนิ้วเพชร


Atthanij Pokkasap  กิมกังจี้ลัก...ดรรชนีนิ้วเพชรแห่งเส้าหลินปรากฏจริง ก็ตอนนี้เอง นิ


ส่วนบนของฟอร์ม



Atthanij Pokkasap  มีไอ้เหี้ยอวดรู้เรื่องไทยศาสตร์ไทยบางตัว อวดภูมิเหี้ยๆเรื่องวิชาธนูมือในตำนานมวยไทย แบบไม่รู้จริง เป็นเหี้ยหลายรังด้วยกัน...


Atthanij Pokkasap  ที่เสือกเข้ามาละเมิด เฟซฯ ด้วยจิตสกปรก ปัญญาโสมมสิ้นดี เพราะ รู้แบบเหี้ยๆ


Panu Wongpanuvut    ฉกตาย
มีทุกสายไล่ตั้งแต่วรรณคดีไปจนถึงสายยุทธ์ อะไรที่เกี่ยวกับพุทธมันพร้อมผูกขาดความโง่เสมอ


Atthanij Pokkasap  มันตั้งมาตราวัดไว้ว่า..ต้องรู้เหี้ยๆแบบมันเท่านั้น...ถึงใช่ นอกจากความรู้เหี้ยๆของมันแล้ว ของคนอื่น ไมใช้ ทั้งสิ้น เหี้ยสุดๆตามสันดานเลย


Panu Wongpanuvut    พรุ่งนี้หาบทความรวมกระบวนท่าแผลงศรธนุรเวทที่ทำไว้มาแปะดีกว่า   แล้วกระบวนท่าใช้นิ้วดีดมูลแพะลงท้อง ดีดกรวดสังหารพระปัจเจกฯ-หงส์ จัดเป็นส่วนหนึ่งของธนุรเวทด้วยไหมครับ?


Atthanij Pokkasap  ไม่


Panu Wongpanuvut    สรภังคชาดก ถ้าจำไม่ผิดก็มีเรื่องการใช้ธนุรเวทด้วยครับ
ในสรภังคชาดก(Sarabhanga jataka) มีชื่อโชติปาลกุมารด้วยครับ


ส่วนล่างของฟอร์ม
Atthanij Pokkasap  ไม่ฝึกกักลมอัสมิตา เรียนรู้ลมในกองธาตุ ทั้ง ๖ กอง .. ก็จะไม่รู้เทคนิคการใช้ครับ


Sirimongkol Tobngam    ครูตอบตรงมากครับ แล้วต้องรู้ในกองลมอย่างละเอียดด้วยสิ ต้องรีบฝึกกักลมอัสมิตากันให้แน่นและมั่นคงด้วยนะครับ (ปาฏิหาริย์จะมีขึ้นกับท่านที่ฝึกจริงๆ เท่านั้นครับ)


Atthanij Pokkasap  สำคัญที่สุด คืออัดให้เต็มหัวไหล่ทั้งสองก่อนที่อื่นๆ..ครับ


Sura Roy    อยุ่ในบทสวด ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกครับ
ต่อด้วย...อุ ปะ กะ ชะ สะ เห ปา สา ยะ โส. โส โส สะ สะ อะ อะ อะ .....


Atthanij Pokkasap  ครับ...เทคนิคการใช้อยู่ในพุทธตันตระสายนักรบอาชีพ
(โยธาชีวสูตร)...ล้วนๆทั้งนั้นครับ
เป็นความจำเป็นอยู่ในรุ่งอรุณ ...ของยุคทวารวดี...การสร้างอาณาจักรในคาบสมุทรทะเลจีนใต้ เพื่อรองรับ..พระพุทธศาสนาสากลบนเส้นทางสายไหม.....ที่เลื่อนไหลครั้งใหญ่นะครับ...
ไสยศาสตร์ไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาชัดเจน ..ต่างจากที่พวกเหี้ยท่องตามๆกันมา..ครับ


อรรถพล อรรถาเพ็ชร   กำลังสนใจอยู่พอดีเลยขอรับ


Atthanij Pokkasap  ต่อจากท่ากำหมัดกดเข่า ก็ฝึกเรียกลมผ่านเอ็นแขนครับ


Yutthana Sirisilp    สอนผมด้วย.....


Takeda Kosae    เรียกลมผ่านเอ็นแขน คือ กักแล้วอัดเหรอคับ?


อรรถพล อรรถาเพ็ชร    ตอนนี้พอลองกักอัดให้แน่นผ่านไหล่และแขน...เวลากระผมแบมือออกมันเหมือนมีมวลไอร้อนบ้างเย็นบ้างมาหมุนวนอยู่กลางฝ่ามือขอรับ...ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?


Printanit Toon Khampa    น้าอรรถ น้าจะโหดไปไหนครับนั่น ! ถ้าต้องสู้กับน้าเห็นทีผมต้องไปสร้างชุดเกราะมั่งแล้วล่ะ


Yutthana Sirisilp    อรรถพล อรรถาเพ็ชร อัดให้แน่นผ่านไหล่และแขน...คือ...เกร็งแขนเร็งไหล่...จังหวะกักลมเข้า...ใช่เปล่าครับ. คุณอรรถ


อรรถพล อรรถาเพ็ชร    มันไม่ใช่การเกร็งขอรับ...แต่เป็นการแผ่ลมที่กักอัดจนแน่นร่างให้ซ่านแทรกไปในอณูกล้ามเนื้อขอรับ ^^


Atthanij Pokkasap  หาเอาเองทุกรูปแบบ...ที่ให้แขนมีกำลังเป็น ซูเป้อร์ไฮดรอลิค
(ความจริงเป็นออกซิเจนแอโรลิค)


Sirimongkol Tobngam    มีแขนที่ซ่อนอยู่ในแขนด้วยครับครู มันมีพลังมากกว่าแขนภายนอกเสียอีกครับ  ครับครูการรับรู้ถึงพลังแขนที่มีมากกับแปลกที่ว่าแขนและคอกับต่างกันเลยยิ่งขึ้นหัวด้วยแล้วโปร่งโล่งเบาแต่มีอำนาจหนาแน่นมากฯครับ


Atthanij Pokkasap  ฝึกสะสมประสบการณ์เอาไว้....กำลังมหาศาลสูงสุดของวิชา พาหาพล คือ กำลังแขนเพื่อวิชาธนุรเวท มีค่าเท่ากับ 1,000 กำลังบุรุษ เป็นกำลังรากแก้วของ เท็คนิคกำจัดกิเลส โดยตรงตามหลักการบรรลุธรรม ครับ



No comments: