Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Monday, December 31, 2018

ภูมิประวัติ.. อัมพปาลี..โสเภณี ผู้มีกฎหมายคุ้มครอง คนแรกของโลก !!!



Atthanij Pokkasab



#ภูมิประวัติโสเภณีที่มีกฎหมายคุ้มครองคนแรกของโลก

Cr. Atthanij Pokkasab
5 เม.ย.2014 04:48 น.

ภูมิประวัติ.. อัมพปาลี..
โสเภณี ผู้มีกฎหมายคุ้มครอง คนแรกของโลก!!!
ที่มาของ ความงามเลิศ ;
(๑๗๙) ดิฉันเกิดในสกุลกษัตริย์
เป็นภคินีแห่งพระมหามุนีเจ้า
พระนามว่า ปุสสะผู้มีพระรัศมีงามรุ่งเรือง
มีธรรมดังว่า เทริดดอกไม้บนศรีษะ
ดิฉันได้ฟังธรรมของพระองค์แล้ว
มีจิตเลื่อมใส
ถวายมหาทานแล้ว
ปรารถนาซึ่งรูปสมบัติ ฯ
ที่มาของความเป็นโสเภณีทุกภพทุกชาติ ;
..ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้
พระพิชิตมาร พระนามว่า สิขี
(พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า)
ผู้เป็นนายกชั้นเลิศของโลก เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
ครั้งนั้น
ดิฉันเกิดในสกุลพราหมณ์
ในนครอรุณอันน่ารื่นรมย์
โกรธแล้ว ด่าภิกษุณีองค์หนึ่ง
ผู้มีจิตพ้นแล้วจากกิเลส
ว่า "ท่าน เป็นหญิงแพศยา
ประพฤติอนาจาร ประทุษร้ายพระพุทธศาสนา"
ครั้นด่าอย่างนี้แล้ว
ดิฉันได้ไปสู่นรกอันร้ายกาจ
เพรียบพร้อมไปด้วยมหันตทุกข์
เพราะกรรมลามกนั้น
เคลื่อนจากนรกนั้นแล้วมาเกิดในหมู่มนุษย์
เป็นผู้มีธรรมลามก เป็นเหตุให้เดือดร้อน
ครองความเป็นหญิงแพศยา นับหมื่นๆชาติ
ยังมิได้พ้นจากบาปกรรมนั้น
เปรียบเหมือนคนกินยาพิษอันร้ายแรง
ในภัทรกัป นี้
ดิฉันได้บวชเป็นภิกษุณี มีเพศอันประเสริฐ
ในศาสนาแห่งพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงได้ไปเกิดในภพดาวดึงส์
เพราะผลแห่งบรรพชากรรมนั้น
ในภพอันเป็นสุดท้ายของดิฉันนี้
ดิฉันเป็นโอปาติกสัตว์
อุบัติขึ้นเองบนคาคบแห่งต้นมะม่วง
จึงมีชื่อว่า "อัมพปาลี"
(หมายถึง นางผู้ซึ่งต้นมะม่วงได้รักษาไว้)
...ฯลฯ

ขยายความ...
หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ประทาน
อปริหานิยธรรม ๗ ประการ
แก่เจ้าชายมหาลิ (พระราชบิดาของ พระสีวลี)
ราชครูใหญ่ แห่งกษัตริย์ ๘ ราชวงศ์
ผู้สถาปนาแคว้นวัชชี
ข้อที่ ๕ ของ อปริหานิยธรรม ๗ ก็คือ
นโยบายรัฐแห่งแคว้นวัชชี
มีความว่า...
(๕)บรรดากุลสตรีและกุลกุมารีทั้งหลาย
ให้อยู่ดีโดยมิถูกข่มเหง หรือถุกฉุดคร่าขืนใจ
จากนโยบายรัฐข้อที่ ๕ นี้
เมื่ออัมพปาลีเป็นสาวงามเกิด..อุบัติขึ้นมาเองโดยไม่มีใครเป็นเจ้าของ...
ราชา ๘ ราชวงศ์ผู้ปกครองแคว้นวัชชี
จึงต้องประชุมแล้วประทาน"ฉัตรและตราตั้ง"
ยกสวนมะม่วง(อัมพวัน)และแต่งตั้ง
ให้นางอัพปาลี เป็นโสเภณี
ค่าตัว ๕๐๐ กหาปนะต่อหนึ่งวันหนึ่งคืน
ที่ใครคิดจะมาร่วมอภิรมย์
อัมพปาลี จึงเป็นต้นแบบโสเภณี ตราตั้ง
คือมีกฏหมายที่รัฐคุ้มครองเป็นคนแรกของโลก
ที่ต่อๆมา ราชธานีของแคว้นต่างๆสมัยพุทธกาล
ก็มาดูงานโสเภณีตราตั้งที่นครเวสาลีนี้แล้วนำไปพัฒนาระบบโสเภณีในนครของตนกัน
จนทั่วชมพูทวีป..
นี่คือ กฎหมายคุ้มครองหญิง...
ที่ชี้นำโดยคำสอนในพระพุทธศาสนา !!!

ประวัติปลีกย่อยที่สำคัญ ;
นางอัมพปาลี มีลูกกับพระเจ้าพิมพิสาร
ราชาแห่งแคว้นมคธ(ข้ามนครมาใช้บริการบ่อย)
คนหนึ่ง ด้วยปัญหาชาติกำเนิด...
จึงได้มาอยู่ในการอนุเคราะห์ของมหาวิหารเชตวัน สำเร็จเป็นอรหันต์เยาวชน ที่มีชื่อเสียงมากองค์หนึ่ง คือ..ท่านพระวิมลโกณฑัญญะเถระ"
ในบั้นปลาย นางอัมพปาลีได้ออกบวชเป็นภิกษุณี สำเร็จเป็นพระอรหันต์หญิง ดับขันธปรินิพพานเมื่อมีอายุ ๑๒๐ ปี.

จาก (๑๗๙)อัมพปาลีเถริยาปทาน
อัปทาน ขุททกนิกาย
ไตรปิฎก สยามรัฐ เล่ม ๓๓/๔๕

No comments: