Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Thursday, December 20, 2018

ชื่อโรคต่างๆในพระไตรปิฎก...หลักสูตรแพทย์แผนไทยที่แยกออกจาก การค้นพบของกรรมฐานฝ่ายพุทธ




Atthanij Pokkasap 


ชื่อโรคต่างๆในพระไตรปิฎก
หรือ รายละเอียด...
ที่รู้จักในนามของ "คิริมานนทสูตร"
มาจาก "อาพาธสูตร"
ข้อ(๖๐) ทสกนิบาต อังคุตตรนิกาย
พระสุตตันตปิฎก ไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่ม ๒๔/๔๕

หลักสูตรแพทย์แผนไทยที่แยกออกจาก การค้นพบของกรรมฐานฝ่ายพุทธ ผู้เกี่ยวข้องกับ
การทำหลักสูตรพึงสำเหนียกให้มากๆ...ว่า ผู้ที่มีความคิดแยกนั้น...ได้กระทำการละเมิด
พระพุทธวจนะ อย่างหยาบช้า ไปแล้ว
ครับ
ท่านไม่ได้มีความรู้ในปฐมเหตุแห่งการแพทย์แผนพุทธดั้งเดิม ที่ได้จารจารึกเก่าแก่ก่อนคัมภีร์ใดๆในโลกเลย
ขอประฌาม
ในความหยาบช้าแห่งอุปาทานในทฤษฎี(ทิฏฐุปาทาน)ของท่าน ขอให้ท่าน ฉิบหายหมดโคตรหมดตระกูลไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะขอทำขมา คืนโทษ แด่พระธรรมรัตนะ
เทอญ !!!








Atthanij Pokkasap  พิสูจน์ อีก โรคหลักๆ สเต็ปต่อสเต็ปก็ได้ครับ

1) โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

2) โรคเบาหวาน ที่พระพุทธศาสนาเรียก "มธุเมโห" และ.....

3) โรคไข้เลือดออก


ครับ....
ผิดพลาดซ้ำซากจะมาหวงอำนาจชี้นำอะไรหนักหนา...?!!!


    Yamamoto Siritamma Amanthika Seiko added a new video: 
    ยาแผนไทยใช้รักษามะเร็งFebruary 27, 2014 · 

    ยาแผนไทยใช้รักษามะเร็งตับระยะสุดท้ายได้ผลดีจนคนแห่ไปรับการรักษากันเป็นอย่างมาก
ดูวีดีโอให้ระเอียดก่อนนะค่ะ และเช็คที่ Google โรงบยาบาลอู่ทอง สมุนไพร   เเล้วเลื่อนดูจะพบว่า(เบญจอำฤตย์) รักษามะเร็งฟรีค่ะ   ยํ้าต้องให้แพทย์แผนไทยตรวจก่อนค่ะ(หากต้องการข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง  ดูที่ดิฉันแนะนำให้ไปแล้วนะค่ะ)

ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลยศเส  ป้อมปราบกรุงเทพและโรงพยาบาลอู่ทอง สุพรรณบุรีค่ะมีไว้ด้านล่างให้อีกตรวจสอบได้เลยค่ะ    แต่ต้องติดต่อสอบถามรายละเอียดไปก่อนเพราะจะต้องไปเช็คเลือดและตรวจร่างกายก่อน   จึงจะรับการรักษาได้นะค่ะ    เมื่อ ปีที่แล้วดิฉันได้ติดต่อเข้าไปยากมาก   แต่เดี๋ยวนี้คงไม่ยากค่ะ   พยายามติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ให้ได้ก่อนนะค่ะ   คงไม่ยากจนเกินไปนะค่ะ   ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกรายละเอียดไว้ก่อน

กราบขอโทษจริงๆค่ะ   ขอให้ทุกท่านมีความสุขและเป็นคนที่โชคดีสำหรับมะเร็งที่มันจะหายไปจากเรา   หากเราเข้าการรักษาอย่างต่อเนื่องและกำลังใจของผู้ป่วยต้องเข้มแข็งไว้นะคะ
Good Luck To You



Panu Wongpanuvut    ชั่วลูกชั่วหลาน



Panu Wongpanuvut    ไม่หมดแผ่นดินไม่มีเจริญ


Atthanij Pokkasap  จะเห็น "เบาหวาน" ท่านเรียกว่า "มธุเมโห" และ สันนิบาต คือการกำเริบที่มี ดี-เสลด-วาตะ เป็นสมุฏฐานร่วมกัน นะครับ


Atthanij Pokkasap  เข้าใจที่มาของโรคที่ท่านเรียกว่า "สันนิบาต" เสียที


Panu Wongpanuvut    ชมรมสันนิบาต


Atthanij Pokkasap  องค์กรสุมหัว


Panu Wongpanuvut    สมาคมกินฟรีด้วมภาษีประชาชน


ญามาวิถี สมุนไพร    โหหนังสืออาจารย์หนูทึ่งมากเลยค่ะ


Yongsak Tantipidoke    เห็นด้วยครับ ผมกำลังเขียนตำราเรียนแพทย์แผนไทยเล่มใหม่ให้กับทางราชการ ทำให้วิชาการแพทย์แผนไทยเชื่อมโยงกับคัมภีร์พุทธครับ อีกไม่ช้าคงออกมา


ปณิตา ถนอมวงษ์    แผนไทยควรรู้ที่มาแห่งพระคัมภีร์ในแพทย์แผนไทย เหตุผลด้วย
ตัว ข้าพเจ้าเองทำวิทยานิพนธ์เมื่อ ปี ๒๕๕๗ เรื่อง " การดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวมด้วยหลักพุทธโภชนศาสตร์ที่ชมรมแพทย์แผนโบราณ วัดบางกร่าง นนทบุรี "

ทำให้ลงลึกไปในพระสูตรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการป่วยไข้ในพุทธกาล เช่น
คิริมานนทสูตร ,อาพาธสูตร  เภสัชขันธกะ การปฏิบัติด้วย สัญญา ๑๐ หรือหลักโพชงค์ และบทบาทของหมอชีวกในการดูแลพระพุทธองค์ ล้วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้นกับคัมภีร์แพทย์แผนไทย ธาตุบรรจบคือจลณสังคหะ ธาตุวิภังค์อยู่ใน ธาตุ ๑๘ มีอติสาร วรโยคสาร ปถมจินดาก็ยกมาจากพระสูตรเรื่องการกำเนิดโลก ไม่ว่าจะเป็นจิตและเจตสิก วิสุทธิมรรค และอื่นๆอีก จึงเป็นสิ่งเดียวที่ข้าพเจ้ามั่นใจและยืนยันในความเชื่อนั้น ขอบคุณ อจ. นิดที่ช่วยอธิบายเสริมค่ะ...และขอบคุณล่วงหน้าที่อจ. ยงจะทำให้แผนไทยไปถูกที่ถูกค่ะ สาธุๆๆ


Atthanij Pokkasap  ขอให้สำเร็จครับ...
เอาใจช่วยเต็มที่ เลย เนื่องจากเป็นงานรวบรวมที่ละเอียดและ ประณีตมากๆ








No comments: