.
ในเรื่องการวิเคราะห์นี้ ข้าพเจ้าใช้หลักทางศาสนามาวิเคราะห์ความเป็นไปของการดำเนินไข้พิษไข้กาฬ ที่จับแล้วเข้ามากระทบธาตุภายใน ซึ่งกล่าวในฉันทศาสตร์ และหลักวิสุทธิมรรค ท่านให้พิจารณากายออกเป็นชั้นๆ โดยมีตัวคุมไว้แต่ละชั้น ตามที่เคยเขียนบทความไปแล้ว วันนี้ลองมาพิจารณาแบบการดำเนินโรคที่เข้าไปในชั้นต่างๆกันนะคะ ดังนี้
๑) ผม, ขน, เล็บ, ฟัน, หนัง
๒) เนื้อ, เอ็น, กระดูก, ไขกระดูก, ม้าม
๓) หัวใจ, ตับ, ผังผืด, ไต, ปอด
๔) ไส้ใหญ่, ไส้น้อย, อุทริยัง, กรีสัง, สมอง
.
ตามศาสตร์แผนไทย กำหนดกำลังของธาตุกำเริบ มี ๔ สถานคือ
• ตติยะชวร คือนับจากวันที่เริ่มไข้ ไปจนถึง ๔ วัน
• ดรุณชวร คือนับจากวันที่ ๕ ไปถึงวันที่ ๗
• มัธยมชวร คือนับจากวันที่ ๘ ไปถังวันที่ ๑๕
• โบราณชวร คือนับจากวันที่ ๑๖ ไปถึงวันที่ ๑๗
.
ถึงตรงนี้คงแปลกใจว่าเกี่ยวอะไรกัน โบราณท่านว่าร่างกายเรามีกำเดาเป็นตัวเลี้ยงดูให้กายอุ่น ให้ป้องกันเชิ้อโรคที่แปลกปลอมเข้า ฉนั้นกำเดาจึงป้องกันในชั้นตะโจ(ผิวหนังได้ ๔ วัน)
.
เมื่ออาการไม่ถอยลงเพราะวางยาไม่ถูกกับไข้ จะเกิดอาการเม็ดเลือดแตกจากโลหิตร้อน
.
และถ้ายังไม่ถอยจะเข้าไปในชั้นที่ ๓ มีหัวใจ, ตับ, ผังผืด, ไต, ปอด โบราณสมมุติหวัดเริ่มเพิ่มอาการแทรกเข้าปอด ให้สะบัดร้อนสท้านหนาว ปวดสีสะเปนกำลัง ระวิงระไวไอจามให้น้ำมูกตก ถ้าไข้นั้นรุนแรงอาจเกิดอะไรได้บ้างก็ปอดวาย, ไตวาย, ตับวาย, หัวใจล้มเหลวเป็นต้น
.
ถ้ายังไม่ถอยอาการจะดำเนินไปเรื่อยๆ ในชั้นที่ ๔ เข้าธาตุดินในชั้นที่มีตัวสมองควบคุมในชั้นสุดท้าย มักยากจะรักษาอาจมีอาการชักหมดสติได้ อาการตรงนี้จับเข้าถึงปอด, ไต, หัวใจ, สมองด้วย สังเกตต่อ ให้ตัวร้อนให้อาเจียร ให้ปากแห้งปากเปรี้ยว ปากขมกินเข้าไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอเปนกำลัง แลทำพิษคอแห้งปากแห้งฟันแห้ง จมูกแห้งน้ำมูกแห้ง บางทีกระทำให้น้ำมูกไหลหยดย้อย เหตุดังนี้ เพราะว่ามันสมองนั้นเหลวออกไปหยดออกจากนาสิกทั้งสองข้าง ไปปะทะกับสอเสมหะจึงให้ไอไป แก้มิฟังกลายไปเปนริศดวงมองคร่อหืดไอ แลฝีเจ็ดประการจะบังเกิด อันว่าคนไข้ทั้งหลายก็ดี เมื่อแพทย์วางยามิฟังแล้ว อันว่าความตายจักมีแก่คนไข้นั้น ตัวนี้จะจบในวันที่ ๑๗ เรียกว่าไข้โบราณชวรแล้วค่ะ
.
ถ้าไม่ตายก็ต่ออาการไปอีกจากนี้ ธาตุต่างๆได้พิการไปแล้วทั้ง ๔ ธาตุโดยไม่มีกำหนด วันเวลาว่านานเท่าไร ระยะนี้เราเรียกว่า จัตตุนันทชวร
.
ทั้งหมดเป็นการยกมากล่าวให้เข้าใจแบบคร่าวๆในการดำเนินโรคแบบแผนไทย ที่ต้องรู้กำลังธาตุกับการดำเนินเข้าสู่ร่างกายตามชั้นๆที่วางไว้ และกรณีไข้หวัดนก, ไข้ซาร์ก็เช่นกัน ทั้งหมดเป็นการวิเคราะห์ของข้าพเจ้าเองที่ศึกษาจากไข้เลือดออกระบาดแล้วมีผลให้ต้องผ่าตัดเป็นชั้นๆไป เพื่อรักษาชีวิตเลยตัดขา จากนั้นช่วยด้วยเครื่องช่วยหายใจ เครื่องฟอกไต ,ตัดปอด,
.
หมายเหตุ เป็นเพียงความคิดของข้าพเจ้าเท่านั้นที่แสดงออกมา ถ้ามีอะไรผิดพลาดขอตำหนิข้าพเจ้า แทนการตำหนิหลักของคัมภีร์ค่ะ
.
อ. ปณิตา ถนอมวงษ์
เครดิตภาพ http://www.hibstation.com
No comments:
Post a Comment