Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Sunday, December 23, 2018

พระพุทธเจ้าทรงแสดง "ทานสูตร"...ทำบุญทานอย่างไร ให้ได้อานิสงส์ใหญ่



Atthanij Pokkasab

1 พฤศจิกายน 2015
พระพุทธเจ้าทรงแสดงสูตร...
ทำบุญทานอย่างไร ให้ได้อานิสงส์ใหญ่
ทรงแสดง "ทานสูตร" ข้อ(๔๙) โดยตรัสปุจฉาวิสัชชนากับท่านพระสารีบุตรไว้แล้ว บันทึกอยู่ในหมวด สัตตกนิบาต อังคุตตรนิกาย พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่ม ๒๓/๔๕
ต้องเข้าใจก่อนว่า..
การกระทำทั้งหลาย มีผลต่อวิวัฒนาการของจิตตามนิยามการค้นพบโดยประสบการณ์แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย อย่างใหญ่หลวงโดยตรง
จิตที่ยึดมั่นผูกพันในการหวังผลแห่งการกระทำจะให้ผลหยาบและน้อยที่สุด ต่ำที่สุด
ที่เหมาะสมคือการกระทำที่ประกอบด้วยความเข้าใจในปรากฏการณ์.."จุติ-อุบัติ" ของจิต แล้วให้ความเอื้อเฟื้อ...เป็นองค์แห่งความงดงามประณีตประดับตกแต่งจิต...ยิ่งเข้าใจสถานภาพของจิตมากเท่าไหร่ และเห็นว่า ความงดงามที่จะแต่งเติมให้จิตควรเพิ่มพูนมากได้อย่างไร ล้วนเป็นการเข้าถึงอานิสงส์ใหญ่ๆทั้งสิ้น
ปกติ..การรู้ถึงสถานภาพ และการถึงเครื่องความงดงามเพื่อประดับจิตตามสถานภาพนั้นๆของจิต อาการรู้นี้เองที่พระพุทธศาสนา เรียกว่า "วิญญาณ" อุปมาเป็นเมล็ดพันธุ์พืช
ดี-ไม่ดี เป็นพันธุ์พืชที่จะงอกงามได้ดีขนาดไหน ก็อยู่ที่การศึกษาให้รู้ ตรงส่วนนี้เอง
ส่วนการกระทำที่ประกอบด้วย ผู้รับทักษิณาทาน คือพระภิกษุนั้น..เป็นองค์ประกอบเหมือนดินที่รองรับการงอกของเมล็ดพันธุ์พืชนั้นๆ...ผู้ปราศจากราคะกิเลส หรือมีน้อยมากก็อุปมาดินดีมากด้วยปุ๋ย ที่ไร้วัชพืชจะมารบกวนการงอกงามของเมล็ดพันธุ์
เรียนรู้ "พุทธเศรษฐศาสตร์แห่งกรรม" กันจาก พระพุทธวจนะ อันเป็นออรินัลในธรรมรัตนะสายตรงเถอะครับ
อย่าได้ไปขัดแย้งถกเถียงกับความรู้ลอกแบบ
ที่บิดเบือนธรรมทั้งหลายกันอยู่อีกเลย

No comments: