Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Sunday, May 15, 2022

you see Buddha -11 : Visakha Puja Day = วิสาขบูชา






Visakha Puja Day


อัตถนิชย์ โภคทรัพย์

25 สิงหาคม เวลา 07:44 น. 
ตอน นิยามแห่งปฐมฌานในขณะจิตได้สมาธิ
ปฐมฌาน หรือ ฌานขั้นที่๑ ในสัมมาสมาธิ
เกิดจากการที่จิตและกายสำเร็จในการหลีกเร้นกาม
(เนกขัมมะ, สงัดกาม)
โดยกระบวนการทางอินทรีย์
ซึ่งสำนวนพระบาลี เรียกว่า
"นามรูป"

กระบวนการทางอินทรีย์ที่รองรับขับเคลื่อน
กามคุณ๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็คือ
ปลายทางของระบบประสาท
The Nervous System
มีสำนวนพระบาลีเรียกว่า
"วิสยรูป หรือ โคจรรูป"
อีกชื่อว่า "อายตนะภายนอก"
และต้นทางก็คือ
ตัวของระบบประสาท The Nervous System เอง
เป็น "ปสาทรูป" ประกอบด้วยระยางค์เสาอากาศ
รับและขยายคลื่นผัสสะ
ตา หู จมูก ลิ้น กาย
สำนวนพระบาลีบัญญัติชื่อว่า
"อายตนะภายใน"

โดยวจีสัจจะ
( สำนวนวิชาเรขาคณิตเรียกว่า "สัจพจน์")
ตามกฎอิทัปปัจจยตา/ปฏิจจสมุปบาท
กล่าวไว้ว่า
เมื่ออาหารดับเป็นปัจจัย
กามคุณ๕ ย่อมดับ
นั่นหมายถึงว่า
ข่ายใยประสาททั้งระบบ
หยุดทำงาน เมื่อปราศจากเลือดมาหล่อเลี้ยง
ปกติ ข่ายใยของระบบประสาทเมื่อเลือดมาหล่อเลี้ยง ไม่เพียงพอ หรือขาดเลือด ย่อมเกิดอาการเจ็บป่วย ต่าง ๆ นานา

ดังนี้
เคล็ดลับของเทคนิคกัมมัฏฐาน
โดยการค้นพบของพระพุทธศาสนา
ก็คือ หยุดการทำงาน หรือชลอการทำงานของระบบเลือด เพื่อชลอการทำงานของระบบประสาท โดยร่างกายไม่เสียหาย จึงเกิดสำนวนศัพท์พระบาลีเป็นการเฉพาะว่า
"หลีกเร้นกาม" และ "สงัดกาม" ขึ้น
และผกผันพลังงานจากการผลิตเลือด
พลังงานจากการส่งเลือดไปเลี้ยงระบบประสาท
ขณะข่ายใยของประสาททั้งระบบชลอ
หรือพักหลับ การทำงานของกลุ่มอายตนะภายใน
คือ ตา หู จมูก ลิ้น ลงทั้งหมด
ออกมาเป็น "เจโตสมาธิ" คือ
Mind Over Force Field
จิตเหนือสนามแรงและพลังงานทั้งหลายในทางฟิสคส์
(วัดค่าได้จาก ปริมาณ Oxygen ion ในกระแสเลือด
ที่เลือดลดการไหลเวียนแล้วแต่หัวใจเต้นปกติ
โดยเครื่อง วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในกระแสเลือด
.... Pulse Oximeter จะพบค่า PI% ... Perfusion index
คือค่าฟุ้งกระจายของ Oxygen ion ในกระแสเลือดสูงมากกว่าปกติ ทั้งที่เลือดลดปริมาณการทำงานลง)

การที่หัวใจทำงานปกติ
แต่ไม่มีการสูบฉีดเลือด
ไปเลี้ยงและขยายการทำงานของกลุ่มประสาท
ตา หู จมูก ลิ้น กาย นี้เอง
เป็นอาการที่มาของศัพท์พระบาลีเฉพาะ ว่า
"เอกัคคตาจิต"
เป็นต้นกำเนิดของ ปฐมฌาน
ในสัมมาสมาธิ แห่ง "อริยอัฏฐังคิกมัคค์"
มรรค มีองค์๘

จิต
ย่อมเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางอินทรีย์
ของร่างกาย ก็คือ ที่..สำนวนพระปฏิจจสมุปบาท ว่า
"วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป" และ
"นามรูปเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ"
......เท่านั้น
เป็นคำสอนแห่งการค้นพบตรงของพระพุทธศาสนา
นอกนี้ไป หาใช่ไม่ !!!

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

Sunday, May 8, 2022

The magical talisman and amulet part 3 by Atthanij Pokkasab



* The magical talisman and amulet part 3 
by Atthanij Pokkasab


* เครื่องรางของขลัง แผ่น ๓ ครึ่งหลัง 
โดย อาจารย์ อัตถนิชย์ โภคทรัพย์ (Atthanij Pokkasab) 






THE SECRET OF TANTRA BUDDHISM MEDITATION

  

เคล็ดลับสมาธิ...

<THE SECRET OF TANTRA BUDDHISM MEDITATION>

Breaking Dharma PART 19 ..!!!
ตอบ คุณ Pee Yakkhanugann...
เรื่อง สายปฏิบัติการโยคะของพระพุทธศาสนา ครับ.
จากขั้นตอนการฝึก ใน ข้อ (๙๔) คณกโมคคัลลานสูตร อุปริปัณณาสก์ มัชฌิมนิกาย พระไตรปิฎก เล่ม ๑๔/๔๕ ท่านลำดับ ไว้อย่างนี่....
๏ สัทธา > ศีล > สันโดษ > อินทรียสังวร > โภชเนมัตตัญญุตา > ชาคริยานุโยค
> โยนิโสมนสิการ > วิเวก ฯ๛
ตอบว่า สายปฏิบัติการนั้น ไปแยก ที่ระดับ * โยนิโสมนสิการ * ครับ !!!
(นิพพานที่เป็นสมาบัตินิโรธ มี ๔ ระดับ สมาบัติ ;
๑.เนกขัมมสุขสมาบัติ (ดับวิญญาณ ที่ ฌาน ๑)
๒.วิเวกสุขสมาบัติ (ดับวิญญาณ ที่ ฌาน ๒ ที่มาของ เจ้าแม่กวนอิม,พระอวโลกิเตศวร ฯลฯ)
๓.สมาธิสุขสมาบัติ (ดับวิญญาณที่ ฌาน ๓)
๔.สัมโพธิสุขสมาบัติ (ดับวิญญาณที่ ฌาน ๔)
(ระดับ นิโรธสมาบัติ ๑. ถึง ๓. นั้น เป็นของ เหล่า อนาคามี)
๏ ปฏิบัติการตอน อินทรียสังวร ที่แปลกันทั่วไปว่า สำรวมอินทรีย์นั้น คือการฝึกแยก กลุ่มคลื่นอายตนะทั้ง ทั้ง ๕ ออกจาก การเข้ามา มิกซ์ ของคลื่นอายตนะที่ ๖ (ที่มาของ เห็น สักแต่ว่าเห็น...แต่ยังควบคุมคลื่นVibrations ของอายตนะไม่ได้ ต้องไปจัดระเบียบลมหายใจก่อน)ฯ๛
๏ โภชเนมัตตัญญุตา นั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่จัดลมหายใจให้เป็นระเบียบ คือ ลึก ยาว หยาบ(การหายใจปกติ ถือว่า หยาบมาก) แต่สม่ำเสมอ
...เมื่อสามารถจัดระเบียบลมหายใจหยาบปกติให้ยาวสม่ำเสมอได้ ระบบการย่อยอาหาร และการทำงานของล่ำไส้ ย่อมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ครับ.๚๛
(ลมหายใจอย่าไปกำหนดอุปาทานว่า จะต้องหายใจลึก เท่านั้นเท่านี้ เพราะ ลมหายใจหยาบ จะมีที่สุดระดับหนึ่ง ลมหายใจที่ละเอียดขึ้นมาก็จะมีที่สุดของความลึกอีกระดับหนึ่ง เป็นระดับความลึกที่สัมพันธ์กับระดับความละเอียด ครับ...การไปกำหนด ก็คือ การสร้างอุปาทาน...หลอกตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น...บ้าครับ!!!)
๏ ชาคริยานุโยค ที่หมายถึง การประกอบการตื่นให้มาก คือ นอนเพียง ไม่เกินวันละ ๔ ชม.( ๒๒๐๐ น.-๐๒๐๐ น) จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ ลมหายใจเป็นระเบียบ คือ ลึก ยาว ละเอียดปานกลาง คือ อย่างน้อยก็ละเอียดกว่าขั้นแรกๆขึ้นมา(อันที่เราจะสามารถทำให้ละเอียดที่สุดขณะปัจจุบันน่ะล่ะครับ...แต่ยังไม่ใช่ละเอียดสุดท้าย...เรายังจะต้องพัฒนาต่อไป..)
คำอธิบาย คือ ลมหายใจที่ละเอียด ลึก ดึงอากาศที่มีออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายเพิมขึ้น ในปริมาณอย่างน้อย ก็เท่ากับที่เราเคยใช้พลังงาน "มากที่สุด "ในตอนตื่นทำกิจกรรมต่างๆ ประจำวัน แต่เมื่อลมหายใจละเอียดมากๆ ออกวิเจนจะถูกดึงไปใช้มายมายกว่าหายใจหยาบหลายๆเท่าทำให้ร่างกายตื่นตัวกระฉับกระเฉง...แทบไม่ต้องหลับนอนก็อยู่ได้....๚๛
๏ ก่อนสิ้นสุด ชาคริยานุโยค ไปสู่ สัมมาสมาธิ(ปฐมฌาน > จตุตถฌาน) เป็นเรื่องของการเฟ้นหาเทคนิคเฉพาะตัว ตามวาสนาที่สั่งสมมา เป็นที่มาของการเกิดสายปฏิบัติการ(นิกาย) มีเหตุ ดังนี้ ๚๛
๏ จิตมั่นคงดี ใน "วัตถุ" ใด สติย่อมปรากฏดีใน "วัตถุ" นั้น๚๛
๏...สติ ปรากฏดีใน "วัตถุ" ใด จิตย่อมมั่นคงดีใน "วัตถุ" นั้น ๚๛
๏ ลมหายใจเข้า+ลมหายใจออก ชื่อว่า "วัตถุ" เป็น "กายสังขาร" ๚๛
๏ จับใจความวรรคนี้ให้ดีๆ นะครับ...
" สติ สัมพันธ์กับ จิต ดังนี้ ชื่อว่า "รู้เนื่องด้วยกาย(กายานุปัสสนา)"
จาก ข้อ( ๓๘๘ ) มหานิทเทส ขุททกนิกาย พระไตรปิฎก เล่ม ๒๙/๔๕ ๚๛
๏ หมายความว่า ถ้ายังเชื่อมโยง สติ ให้กับกับ จิต อย่างมั่นคง ไม่ได้ คุณไม่มีโอกาสเกิด "ความรู้" ได้เลย และ...
วัตถุ ที่เป็นตัวเชื่อมโยง สติกับ จิต ก็คือ "ลมหายใจเข้า+ลมหายใจออก" ครับ ๚๛
๏ พวกที่สอนกันทุกวันนี้ เหยียบข้าม วัตถุเชื่อมโยง ทั้งหมดทุกสำนักครับ!!!
เริ่มต้นก็บังคับจิตกันให้รู้...เห็นมั้ยครับ อุปาทาน บ้าๆ ทั้งนั้น...๚๛
๏ และ...สำคัญมาก ความลึก ของลมหายใจนั้น ตัวกำหนด คือ ความละเอียด ครับ ยิ่งละเอียดเท่าใดก็ยิ่งลึกเท่านั้น...จะมากำหนดเองแบบลุแก่อำนาจอย่างที่สอนกันทั่วไปไม่ได้ครับ... กำหนดเอาเองอย่างนั้นโรคเรื้อรังสารพัดถามหาในบั้นปลาย ไม่มีใครตายดีครับ. เพราะ...บทสักกัตวา ท่านแสดงไว้ชัดเจน ว่า
๏ สักกัตวา สังฆรัตนัง โอสถัง อุตตมัง วรัง ...พระสงฆ์ คือ ยาอันประเสริฐสูงสุด ๚๛
๏ อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง สังฆเตเชนะ...ด้วยเดชแห่งการถึงสงฆ์ผู้เป็น ผู้ควรกราบไหว้ ผู้ควรเข้าใกล้ชิด
โสตถินา นัสสันตุปปทวา ขอความสวัสดี ขอความปราศจากไปจาก..๚๛
๏ สัพเพ โรคา วูปสเมนตุ เต...โรคทั้งหมาย พึงมีแก่ ท่านทั้งหลาย๚๛
๏ สรุป คือ ถึงพุทธ หมด ทุกข์ ถึงธรรม หมดภัย และ ถึงสงฆ์หมดโรค ครับ
แล้วพระสงฆ์ป่วยเป็นสารพัดโรคก่อนตาย คืออะไร? ...ผู้ทำลาย บทสวดบทนี้นะสิครับ ๚๛
๏ ขอความเจริญในอริยธรรมตามเป็นจริง จงมีแก่ท่านผู้สนใจและไต่ถามมา ทั้งอยากรู้ได้อ่านตาม ทั่วหน้ากัน เทอญ ๚๛

Atthanij Pokkasap
๙.๒๐ น. วัน พุธ ที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๖

ขุมทรัพย์คัมภีร์สรรพวิทยาการแห่งสยาม

 


นิช อัตถนิชย์ โภคทรัพย์ 

#สำเหนียกรู้ไว้ครับรุ่นใหม่...
ขุมทรัพย์คัมภีร์สรรพวิทยาการแห่งสยาม
ที่เยอรมันเก็บรักษาไว้...ทั้งปริมาณและคุณค่า..มหาศาลเกินกว่า..
นักวิชาการไทยรู้จัก ครับ
ตำรา กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ เพลงไทยเดิม และสาขาอื่นๆ ผูกต้นฉบับ ที่ผู้รู้ไทยไม่รู้จักเลย มีอีกเยอะมากครับ.. ปราชญ์ไทยศึกษาของเยอรมันนี่แหละครับ ที่ยกย่องภาษาไทยว่ามีวิวัฒนาการสูงสุดกว่าทุกภาษาในโลก...
ชาติที่มีตำราพิชัยสงคราม เป็นของตนเอง
มีตำราฝึก ช้างศึก ม้าศึก ส่งขายกรีก
มีตำราผลิตอาวุธสงคราม เป็นของตนเอง
(มีอาวุธปืนไฟใช้ในวรรณคดีลิลิตพระลอ ซึ่งตัวเอกของเรื่องสิ้นชีพิตักษัยด้วยอาวุธปืนตั้งแต่พ.ศ.๑๙๐๐ เศษ น่าจะก่อนใครในโลกด้วย)
มีเกาะเป็นท่าต่อเรือสำเภาขนาดยักษ์แต่อดีต
เป็นของตัวเอง...
มีตำราการแพทย์ดึกดำบรรพ์ที่สูงส่งลี้ลับเป็นของตนเอง
.........ฯลฯ
เสียดาย.....
คนไทยขณะปัจจุบันนี้..มันไม่ใช่!!!
@ Berlin State Library