Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Monday, December 17, 2018

๘๐ ท่าบท ฤๅษีดัดตน วัดโพธิ์ ฯ






อารัมภบท...
@ ๘๐ ท่าบท ฤๅษีดัดตน วัดโพธิ์ ฯ/

ฤๅษีดัดตน ในภูมิปัญญาแห่งบรรพชนสยาม เป็นหลักฐานทางวิชาการ ที่เชื่อมต่อระหว่างพระพุทธศาสนาสากลบนเส้นทางสายไหม กับ พระเวทดั้งเดิมบนที่ราบลุ่มตอนเหนือของ
แม่น้ำสินธุ ในระหว่าง พุทธศตวรรษที่ ๒ จนถึง พุทธศตวรรษที่ ๑๐
และในปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๙ พ่อขุนพระญาลิไทย(พ.ศ.๑๘๙๐-๑๙๑๗)ได้ประชุมสังคายนายุบ  สรรพวิทยาการจากอารยธรรมสากลแห่งลุ่มแม่น้ำสินธุ ลงเป็นภูมิปัญญาแห่งชนชาติสยาม เป็นครั้งแรก
ท่าโยคะดัดตน...ระหว่าง โยคะของฝ่ายพระเวท กับพระพุทธศาสนา มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้


๑. โยคะของฝ่ายพระเวท 

มีพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ ประกอบด้วย ;

๑.๑ เส้นปธานทั้ง ๑๐

๑.๒ จักระทั้ง ๗

๑.๓ สมาธิแห่งธาตุที่ขับเคลื่อนจักระทั้ง ๗


๒. ฤๅษีดัดตนของฝ่ายพุทธ 

มีพื้นฐานที่ต้องเรียน ประกอบด้วย ;

๒.๑ เส้นปธานทั้ง ๑๐

๒.๒ ลมในกองธาตุ หรือ ธาตุลมภายในทั้ง ๖

๒.๓ อานาปานสติสมาธิ ที่วิเคราะห์...
.....๒.๓.๑ กองลมทั้งปวง เรียกเป็นศัพท์เท็คนิคเฉพาะ "สัพพกาย" ในขั้นที่ ๓ ของ
อานาปานสติสมาธิกถา
.....๒.๓.๒ การบริหารจัดการควบคุมลมหายใจออกลมหายใจเข้า เรียกเป็นศัพท์เทคนิคเฉพาะว่า "การศึกษาการทำกายสังขารสงบรำงับ" เพื่อขับเคลื่อนปัญญาวิจัยไตรลักษณ์
โดย อำนาจแห่งสมาธิที่ได้ รองรับอุตริมนุสสธรรม(ปาฏิหาริย์) ก่อนได้ปัญญาสูงสุดตรงกันทั้ง..ฝ่ายฤๅษีดัดตนของ พระพุทธศาสนาสากล กับฝ่ายโยคะของพระเวท...ต่างเป็นเหตุผลแห่งประจักษ์พยาน เสริมซึ่งกันและกัน ไม่มีส่วนขัดแย้ง


จบ ตอนที่หนึ่ง
ฤๅษีทะเล้น จุก&แกละ กับ ๘๐ ท่าบทฤๅษีดัดตน วัดโพธิ์ แห่งสยาม ฯ/




Yutthana Sirisilp   .....รอตอนที่สองต่อเลย



Takeda Kosae    สองเส้นด้านล่างนี่ถ้าอัดลมลงมาถึงทำให้ฝีเย็บขมิบเองโดยธรรมชาติใช่มั้ยคับ
อาจาร์ย Atthanij Pokkasap



Atthanij Pokkasap  ใช่ครับ...แต่จะให้เกิด หรือดับประสิทธิภาพนั้น ต้องเข้าถึงกองลม พัดลงล่าง พัดขึ้นบน และพัดเคลื่อนทั่วกายเป็นอย่างดีแล้วประกอบด้วย



Takeda Kosae    ยากมากคับ กว่าจะอัดลมลงมาถึง ตอนตื่นเช้าทำยากคับ มม้วนกลับขึ้นมาขัดๆแถวไตด้านหลังปวดเลย แต่ตอนกลางคืนทำได้คล่องดีคับ แปลกเหมือนกัน เหมือนกับว่าตอนเช้าเลือดมันยังไม่เลี้ยงเส้นประสาทอ่ะคับ



Atthanij Pokkasap  พร้อมๆไปกับ ๘๐ ท่าบทฤๅษีดัดตนวัดโพธิ์
จุก&แกละ ฤๅษีทะเล้นตัวน้อยๆ  จะนำแสดง....๑๐๘ ท่าบท ศิลปมวยไทย
หลักสูตร กรมพลศึกษา(กระทรวงธรรมการ) แห่ง ประเทศไทย พ.ศ.๒๔๗๗
ตำรับ บรมครู สุนทร(กิมเส็ง) ทวีสิทธิ์ ที่รวบรวม โดย พ.อ.กฤษณ์ วัชรปราการ
จากเอกสารเนื่องในงาน ฌาปนกิจบรมครูท่าน  แจกจ่าย ณ วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๔
เตรียมศึกษากันให้ดีนะครับ  ท่านเรียก "ศิลปมวยไทย" เป็นชื่อเต็มๆ
ชื่อดั้งเดิม...ที่ปัจจุบันยุบตัวลงเป็น "มวยไทย"
หาที่มาที่ไปไม่เจอ...ไปแล้ว !!!

นี่คือ ที่จะนำถวาย ท่านครูบาฯ และพร้อมให้ อรรถพล .... เป็นเคล็ดฝึกภายใน.. ของ
หลักวิชาย่างสามขุมพระเจ้าตรึงไตรภพ โดยเฉพาะ ขุมที่ ๒ พระเจ้าบังโลก และ
ขุมที่ ๓ พระเจ้าตรึงไตรภพ.... ครับ



Atthanij Pokkasap  คำตอบที่ว่า ทำไมพระอริยบุคคลชั้นสกทาคามี ขึ้นไป จึงอาจหาญไม่กลัวอาวุธทรงอานุภาพสูงสุดของขุนศึกนักรบชั้นนำของโลกเลย ดังตัวอย่างที่พระนางสามาวดี หยุดและบังคับลูกศรอันทรงอานุภาพแห่งวิชาธนุรเวทของพระจ้าอุเทน...ให้ย้อนกลับหาพระจ้าอุเทนคืนได้ เป็นเหตุให้พระจ้าอุเทนถามหาอาจารย์ของพระนางสามาวดี...เมื่อพระนางตอบ..ทำให้พระจ้าอุเทนประกาศนับถือศาสนาพุทธทันที...



Atthanij Pokkasap  พระนางสามาวดีตรัสตอบว่า..อาจารย์ของพระนางก็คือ บิดา.ของ
พระนางเอง..ชื่อ ว่า "พระพุทธเจ้า"..เป็นบิดาโดยธรรม และสอนธรรมให้พระนางดังที่
พระเจ้าอุเทนทรงได้เห็นอานุภาพธรรมนี้แล้ว...นี่เอง



วิชา พันทัพ    ขออนุญาติ คัดลอกภาพเพื้อใช้ศึกษาครับ



Atthanij Pokkasap  ทำความเข้าใจให้ได้นะครับ...กัก แล้วอัด กับ อัด แล้วกัก....



Atthanij Pokkasap  วิชา พันทัพ... ด้วยความยินดี ครับ ผู้สนใจและพร้อมอนุรักษ์ภูมิปัญญาบรรพชน อันเป็นเท็คนิคจาก "อกาลิโก" ธรรม


อรรถพล อรรถาเพ็ชร    เห็นภาพนี้แล้วเริ่มเข้าใจขึ้นมาล่ะขอรับ,,.กระผมจะลองทบทวน
การ กัก แล้วอัด..กับ อัดแล้ว กัก...เพื่อเตรียมไว้ไปพบท่านอาจารย์และพระครูบาเหนือชัยขอรับ 



ลุงรักชาติ ราชบุรี    สวยงามมากครับ..ขออนุญาตคัดลอกไว้ศึกษาด้วยครับ..



Atthanij Pokkasap  ด้วยความยินดีครับ คุณลุงวี



Atthanij Pokkasap  ระดับ 60/60 ขึ้นไป เข้าถึงเท็คนิคตรงนี้...ตลอดเรือนร่างรับ
การกระหน่ำฟาดจากไม้เบสบอลล์...ไม่สะเทือน ครับ ไม้แหลกกระจุย...



Atthanij Pokkasap  ในภาพเหมือนลมพัดในกระเพาะอัดแผ่ซ่านไปทั้งร่าง.....ความจริง..ไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ฝึกใหม่ๆ เราจะรู้สึกว่าเป็น... แต่ที่เป็นจริง ลมกุจฉิฯ..เป็นแค่ลมอัด ชี้นำ กองลมส่วนอื่นๆที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ให้ทำหน้าที่ละเอียดขึ้นตามความรู้สึกที่เข้าควบคุมลมในกระเพาะ(กุจฉิฯ) ครับ



Takeda Kosae    ถ้าได้เจอท่านอาจาร์ยคงมีวาสนาเข้าใจบทตอนนี้....เพราะแค่รุ้สึกว่าเป็น แต่ยังไม่จริง แล้วอย่างไรถึงจะเป็นจริงต้องมีการแสดงให้ดูครับ



Sura Roy    อัดแล้วกัก เข้าใจครับ แต่กักแล้วอัดคือยังไงครับ อ.ณิช



Atthanij Pokkasap  ลมเบ่ง...งัยครับ เบ่งแต่ไม่ออก เรียกว่า กักแล้วอัด



Atthanij Pokkasap  อัดแล้วกัก..คือไล่ลม(ออกซิเจนที่เสื่อมสภาพเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และความชื้น)ที่ตกค้างให้กระจายออก
กักแล้วอัด...คือรัดให้แน่น เพื่ออัดลมใหม่(ออกซิเจนใหม่)ให้ซ่านเข้าไป



Atthanij Pokkasap  กักลมอัสมิตา...อัด..อัดอะไรให้แน่น

ตอบว่า..
อัด(รัด)อาการ ๓๒ (ดิน ๒๐/น้ำ๑๒)ให้แน่น ไม่ให้กระพื่อม...เมื่อมีการหายใจออก หายใจเข้า ขณะเคลื่อนไหว(เพราะมีชีวิต) เดินทางไปสู่ความไม่สิ้นสุด(อนมตัคคสังสารวัฏ) 
อาการ ๓๒ เป็นสัมภาระที่สัมผัสได้ ชัดเจนกว่า ขันธ์ ๕ (ปัญจขันธ์, เบญจขันธ์)
การเดินทางไกลที่สัมภาระไม่มีการห่อรัดให้แน่น หายนะ ง่ายๆ  ครับผม !!!



Atthanij Pokkasap  หนทางที่ขรุขระ คือ เส้นทางแห่งกิเลส ที่เต็มไปด้วยความไม่ราบเรียบ แห่งอารมณ์...เพิ่งคิด อุปมาได้ในวันนี้เอง ( 1 กุมภาพันธ์ 2559)



Pronsawan Pimpong    ลึกซึ้งมากครับ



Panu Wongpanuvut    ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ 



Sura Roy    อัดเข้า แล้วกักไว้..




No comments: