Atthanij Pokkasap
ภูมิประวัติ...
วิชาวัชระคงกะพัน กับ กักลมอัสมิตา
เป็นภูมิประวัติ
ปาฏิหาริย์โปรดโจร ๕๐๐ ของท่านสามเณรสังกิจจะ
เยาวชนอรหันต์ศิษย์เอกองค์หนึ่งของท่านพระสารีบุตร ถือกำเนิดบนกองฟอนหลังมารดาถูกเผาร่างไหม้เป็นจุลไปแล้ว
แล้วสัปเหร่อมาพบท่านบนเถ้าฟอนที่เผาในตอนเช้า ออกบวชเป็นสามเณรตอน ๗ ขวบ บรรลุ
พระอรหัตตผลขณะโกนผมเสร็จ
และอุปสมบทเป็นพระภิกษุตอน อายุ ๑๐ ขวบ
ภูมิประวัติวิชาวัชระคงกะพัน
ท่านแสดงไว้ขณะโปรดโจร ๕๐๐ แสดงให้เห็นถึง อำนาจของลมในกองธาตุทั้ง ๖
ขณะจิตเป็นสมาธิดำรงอยู่ใน ฌาน
ลมในกองธาตุได้แสดงประสิทธิภาพสูงสุดโดยเคลือบร่างกายทั้งหมดของท่านผ่านน้ำดีแบบไม่เป็นฝัก
ทำให้อินทีย์ผ่อง ประดุจทองคำ..
สีเหมือนดอกกรรณิการ์ที่บานเต็มที่(น้ำดีไม่เป็นฝักมีสีเหลืองจางๆ
และผู้มีลมหายใจเป็นสมาธิ.จะขับสีเหลืองสุกปลั่งออกมาเป็นแบริเออร์ปกคลุมตลอดกาย))
คมของดาบที่ตัดหิน
ตัดเหล็กขาดราวหยวกกล้วย
ถูกรังสีจากสีน้ำดีที่ขับด้วยลมในกองธาตุเป็นเกราะหุ้มร่างอันทรงประสิทธิภาพถึงกลับม้วนหากันเองเป็นม้วนใบตาล
ดังที่ท่านพรรณนาไว้ดี
แล้ว....
อานุภาพลมในกองธาตุทั้ง๖
ที่ถักสานอย่างมีระเบียบขณะลมหายใจระดับละเอียดสูงสุดที่ ท่านเรียกว่า
"กายสังขารสงบรำงับ"
ได้ถูกถักสานเป็นถุงลมนิรภัยไร้รูปรอยครอบตลอดร่าง..ศรีษะจดเท้า เป็นที่มาของ
วิชาวัชระคงกะพัน
และเพราะ..สูงสุดของสัมมาสมาธิ
คือ"กายสังขารสงบรำงับ" อันหมายถึงภาวะหยุดหายใจ
เป็นคุณสมบัติทางกายภาพของ จตุตถฌาน(ฌานขั้นที่ ๔)...การกักลมอัสมิตา
จึงเป็นการฝึกสะสมประสบการณ์พื้นฐาน..ของการเข้าสมาบัติในกรรมฐานชั้นสูงของบทฝึกจิต..การทำจิตให้
ขาวสว่างรอบ(สจิตฺตปริโยทปนํ)
นั่นเอง
(ผู้มีกายสังขารสงบรำงับ
คือผู้บรรลุฌานขั้นที่ ๔..เป็นพระพุทธนิยามอยู่...ข้อ (๓๘)ปฏิลลีนสูตร จตุตกนิบาต
อังคุตตรนิกาย)
Atthanij Pokkasap
ครับ... หวังว่า คงเกิดปัญญาคิดได้กันกับอีกหลายๆท่าน
ที่ต้องการเรียนรู้ปรากฏการณ์ที่โอกาสของปรมาณูเข้ามาประกอบเป็นอินทรีย์สารสร้างตัวตนที่มีชีวิตของมนุษย์ขึ้นมา
ตามที่ นักคณิตศาสตร์เคยติติง นักวิทยาศาสตร์ลัทธินิวโตเนียนตลอดคริสตศตวรรษที่ 20
ที่ผ่านมา
เสียดาย
สังคมการศึกษาของไทย...เป็นทาสลัทธิวิทยาศาสตร์สายนิวโตเนียนจนโงหัวไม่ขึ้นรุ่นแล้วรุ่นเล่า...แม้กระทั่งที่หลงตนว่าเป็นคนยุคใหม่...แท้ๆ
ก็ไม่ได้หลุดพ้นจากการเป็นทาสวิทยาศาสตร์ยุคล่าอาณานิคม เต็มไปด้วยความคิดที่ไร้ค่าแม้แต่กับตัวเองกัน
ครับ
No comments:
Post a Comment