Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Friday, December 14, 2018

ภูมิประวัติ...วิชาวัชระคงกะพัน กับ กักลมอัสมิตา



Atthanij Pokkasap 




ภูมิประวัติ...

วิชาวัชระคงกะพัน กับ กักลมอัสมิตา


เป็นภูมิประวัติ ปาฏิหาริย์โปรดโจร ๕๐๐ ของท่านสามเณรสังกิจจะ เยาวชนอรหันต์ศิษย์เอกองค์หนึ่งของท่านพระสารีบุตร ถือกำเนิดบนกองฟอนหลังมารดาถูกเผาร่างไหม้เป็นจุลไปแล้ว แล้วสัปเหร่อมาพบท่านบนเถ้าฟอนที่เผาในตอนเช้า ออกบวชเป็นสามเณรตอน ๗ ขวบ บรรลุ
พระอรหัตตผลขณะโกนผมเสร็จ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุตอน อายุ ๑๐ ขวบ
ภูมิประวัติวิชาวัชระคงกะพัน ท่านแสดงไว้ขณะโปรดโจร ๕๐๐ แสดงให้เห็นถึง อำนาจของลมในกองธาตุทั้ง ๖ ขณะจิตเป็นสมาธิดำรงอยู่ใน ฌาน ลมในกองธาตุได้แสดงประสิทธิภาพสูงสุดโดยเคลือบร่างกายทั้งหมดของท่านผ่านน้ำดีแบบไม่เป็นฝัก ทำให้อินทีย์ผ่อง ประดุจทองคำ..
สีเหมือนดอกกรรณิการ์ที่บานเต็มที่(น้ำดีไม่เป็นฝักมีสีเหลืองจางๆ และผู้มีลมหายใจเป็นสมาธิ.จะขับสีเหลืองสุกปลั่งออกมาเป็นแบริเออร์ปกคลุมตลอดกาย))

คมของดาบที่ตัดหิน ตัดเหล็กขาดราวหยวกกล้วย ถูกรังสีจากสีน้ำดีที่ขับด้วยลมในกองธาตุเป็นเกราะหุ้มร่างอันทรงประสิทธิภาพถึงกลับม้วนหากันเองเป็นม้วนใบตาล ดังที่ท่านพรรณนาไว้ดี
แล้ว....
อานุภาพลมในกองธาตุทั้ง๖ ที่ถักสานอย่างมีระเบียบขณะลมหายใจระดับละเอียดสูงสุดที่ ท่านเรียกว่า "กายสังขารสงบรำงับ" ได้ถูกถักสานเป็นถุงลมนิรภัยไร้รูปรอยครอบตลอดร่าง..ศรีษะจดเท้า เป็นที่มาของ วิชาวัชระคงกะพัน
และเพราะ..สูงสุดของสัมมาสมาธิ คือ"กายสังขารสงบรำงับ" อันหมายถึงภาวะหยุดหายใจ เป็นคุณสมบัติทางกายภาพของ จตุตถฌาน(ฌานขั้นที่ ๔)...การกักลมอัสมิตา จึงเป็นการฝึกสะสมประสบการณ์พื้นฐาน..ของการเข้าสมาบัติในกรรมฐานชั้นสูงของบทฝึกจิต..การทำจิตให้
ขาวสว่างรอบ(สจิตฺตปริโยทปนํ) นั่นเอง
(ผู้มีกายสังขารสงบรำงับ คือผู้บรรลุฌานขั้นที่ ๔..เป็นพระพุทธนิยามอยู่...ข้อ (๓๘)ปฏิลลีนสูตร จตุตกนิบาต อังคุตตรนิกาย)




ลุงรักชาติ ราชบุรี    ขออนุญาตแชร์ครับผม..


Atthanij Pokkasap  ครับ... หวังว่า คงเกิดปัญญาคิดได้กันกับอีกหลายๆท่าน ที่ต้องการเรียนรู้ปรากฏการณ์ที่โอกาสของปรมาณูเข้ามาประกอบเป็นอินทรีย์สารสร้างตัวตนที่มีชีวิตของมนุษย์ขึ้นมา ตามที่ นักคณิตศาสตร์เคยติติง นักวิทยาศาสตร์ลัทธินิวโตเนียนตลอดคริสตศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา

เสียดาย สังคมการศึกษาของไทย...เป็นทาสลัทธิวิทยาศาสตร์สายนิวโตเนียนจนโงหัวไม่ขึ้นรุ่นแล้วรุ่นเล่า...แม้กระทั่งที่หลงตนว่าเป็นคนยุคใหม่...แท้ๆ ก็ไม่ได้หลุดพ้นจากการเป็นทาสวิทยาศาสตร์ยุคล่าอาณานิคม เต็มไปด้วยความคิดที่ไร้ค่าแม้แต่กับตัวเองกัน ครับ




No comments: