Atthanij Pokkasap
เท่าที่ปรากฏหลักฐานในชั้นพระบาลี(พระไตรปิฎก)
สกทาคามี...สมัยพุทธกาล...เป็นเหล่ายอดหญิงในราชสำนัก
ใช้ฤทธิ์ผ่านเมตตา..ชี้นำพระราชา...ไม่ให้ทำผิดต่อไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์...ครับ
เช่น
พระนางสามาวดี
ผู้ใช้เมตตาอธิษฐานฤทธิ์หยุดธนุรเวทของพระเจ้าอุเทน แล้วนำพระพุทธศาสนาเข้าประดิษฐานในแคว้นวังสะ
เผยแผ่ออกสู่ต้นทางสายไหม
พระนางมัลลิกามหาเทวีของพระเจ้าปเสนทิโกศล...ใช้ปัญญากรุณาประกอบฤทธิ์หยุดการบูชายัญที่ทำลายชีวิตพสกนิกรนับพันๆชีวิต...แล้วพระนางยังมีโอกาสพลาด...ทำผิดศีล...แต่..
ก็ยังคืนกลับไปจุติสรวงสวรรค์ชั้นดุสิตได้ตามธรรม(ปริศนามากๆ)...
จากนั้นก็เป็นธิดาของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐีหลายคนที่สำเร็จชั้นสกทาคามี...ล้วนมีบทบาทเผยแผ่พระศาสนา...ครั้งสำคัญๆเช่น
นางจุฬสุภัททา..ที่แต่งเป็นสะไภ้ของราชาเศรษฐีกรีกผู้ครองอุคคนคร
ทำให้พระพุทธศาสนาเข้มแข็งบนเส้นทางสายไหม... เป็นต้น
ครับเป็นประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาที่สนุกๆทั้งนั้นเลย
และไม่เคยมีใครได้ศึกษาใน
การเรียนตามระบบแบบเรียนแบบไทยๆ
ด้วย...
Piraphan Nonthaphan อยากเรียนรู้อีกค่ะ
อาจารย์อยากให้อาจารย์ลำดับเรื่องราวต่างๆเป็นบันทึก
เหมือนที่อาจารย์เคยลงในต่วยตูนพิเศษ เพื่อการศึกษาที่ถูกต้อง
ของอนุชนรุ่นนี้และรุ่นหลังๆต่อไป นะคะ อาจารย์
อาจารย์ใช้คำว่า...ศีลห้ามาโดยมรรค....ศีล
๘ มาโดยมรรค ขออาจารย์ช่วยอธิบายคำว่า "มรรค" คำนี้หน่วยค่ะ
ในแง่ขอชงการปฏิบัติที่ทำให้ได้ชื่อว่า มาโดย "มรรค" เมื่อได้แล้ว เป็นแล้วจึง
ไม่ต้องสมาทานหรือกำหนด หากแต่มาโดยอุปนิสัย...
Atthanij Pokkasap คือเมื่อปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมอย่างถูกต้อง ธรรมจะก้าวหน้าทำให้กระตือรือร้น
และเพลิน(เป็นสุข)กับการปฏิบัติ...ดีวันดีคืน...ไม่ใช่คงที่
ครับ...แล้วจะรักษาศีลเป็นวัตรเป็นนิสัยไปเอง...ท่านเรียกความก้าวหน้านี้ว่า
"มาโดยมรรค" ครับ...
Piraphan Nonthaphan ขอความกรุณาบอกวิธี
การปฏิยัติธรรมสมควรแก่ธรรมอย่างถูกต้องหน่อยค่ะ
แบบลงมือทำเลยเป็นขั้นตอนนะคะอาจารย์
Atthanij Pokkasap ควรเป็นมุขปาฐะ...
ที่ตัว อจ.ผู้จะแสดง...มองเห็น "ธาตุ"ธรรมชาติของผู้รับ..แล้วปลุก
"ธาตุ"
ธรรมชาติในตัวนั้นออกมาจนเกิดแรงดลบันดาลใจอย่างกระตือรือร้น...ที่ไฝ่ธรรม
อย่างมุ่งมั่น ...ไม่ง่าย ครับ
No comments:
Post a Comment