บทฝึก กักลมอัสมิตา
กักลมอัสมิตา นั้น มีโครงสร้าง ๓ ระดับ
ระดับที่ ๑. เบื้องต้นสุด
เป็นการฝึกใช้ลมหายใจอย่างทีประสิทธิภาพที่สุด
ของกระบวนการหายใจภายนอก
กระบวนการหายใจภายนอก ได้แก่ การหายใจจากปลายจมูก ไปสิ้นสุดที่ปอด
ปอด ของมนุษย์ มีพื้นที่
เป็น ๑ ตารางวาของเจ้าของปอด
ทุกๆครั้งที่มีการหายใจ ออก/เข้า ๑ รอบ จะมีลมหายใจตกค้างอยู่ในปอด 5/6 ส่วน ถูกปล่อยคายออกมา เพียง 1/6ส่วน เท่านั้น
ทำอย่างไร จึงจะกระจายลมหายใจที่ตกค้าง 5/6 ส่วนนั้นออกมาให้ได้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ
เท่าที่สรีระร่างกายตามธรรมชาติของมนุษย์คนหนึ่งๆพึงพัฒนาไปถึง
เป็นที่มาของ การกระโดดเขย่าๆ เมื่อ กักและอัดขับภายในแล้ว
ระดับที่ ๒. เป็นเบื้องกลาง
มีความละเอียดประณีตในการหายใจเพิ่มมากขึ้น
เป็นการฝึกกระบวนการหายใจ..ภายในเบื้องต้น จาก ปอด สู่หัวใจ
ลมหายใจที้ตกค้างในปอด 5/6 ส่วน
ทุกรอบการหายใจ ออก/เข้า ๑ รอบ
หัวใจ ต้องการ ลมหายใจไปสร้างประจุไฟฟ้าอิสระ ๑
หน่วยติดไปกับเซลล์เม็ดเลือด เป็น
ไฟฟ้าเคมีชีวภาพ
๑หน่วยพิเศษ ที่มีอิทธิพลต่อการควบคุมพลังงานนิวเคลียร์ในธาตุคาร์บอน(C) จำนวน ๑๐๐ หน่วย
เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์เป็นเนื้อเยื่อของอินทรียสารที่มาของอาการ
๓๒(ทวัตติงสาการ)
การสังเคราะห์อินทรียสารจากธาตุคาร์บอนที่ร่างกายได้มาจากอาหาร
จะต้องแม่นยำ ด้วย อัตรา ไฟฟ้าเคมีชีวภาพจากลมหายใจ/แรงนิวเคลียร์ยึดเหนี่ยวภายในธาตุคาบอน
= 1/100 อย่างแม่นยำเที่ยงตรงที่สุด
การอัดเขย่าขณะกักลมในช่วงนี้จะต้องแน่น
ประณีต ลึกด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะธรรมชาคิของแต่ละสรีระ จึงต้องมีการเรียนรู้
ลมในกองธาตุ หรือธาตุลมภายใน ๖ กองตามการค้นพบในกรรมฐานพุทธ อย้างแม่นยำชัดเจนเสียก่อน
ระดับที่ ๓. เป็นเบื้องสูง มีความละเอียด ประณีต
และลึกล้ำที่สุด
เป็นการฝึกบริหารจัดการ กระบวนการหายใจภายใน จากหัวใจ
ผ่านเซลล์เม็ดเลือดไปสู่
การทำงานภายในเซลล์ที่สร้างเนื้อเยื่อขึ้นเป็นอาการ
๓๒ ประกอบขึ้นเป็นสรีระร่างกายทั้งหมด ที่มีจำนวนประมาณ ๑๐๐ ล้าน-ล้าน เซลล์
แต่ละเซลล์สื่อสารในระหว่างกันผ่านช่องว่างเรียกว่า
ซินแนปส์(synapse)ด้วยคลื่นความถี่ ตั้งแต่ 20
hz ถึง 1000 hz.และมากกว่า
ในระดับนี้ กองธาตุลมภายในทั้ง ๖ จะประสานงานกับ น้ำดี(ปิตตะ)
ทั้งแบบเป็นฝักที่อยู่ตอนล่างส่วนกลางของตับ กับแบบที่ไม่เป็นฝักที่เคลือบอาบตลอดสรีระร่าง
โดยเฉพาะน้ำดีแบบที่ไม่เป็นฝักที่กรรมฐานพุทธค้นพบว่าเคลือบอาบตลอดร่างเพื่อทำหน้าที่ส่งเสบียงฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง
คือลม(ออกซิเจน)และอาหารพร้อมเกลือแร่..ที่เม็ดเลือดต้องการอย่างต่อเนื่องในการสังเคราะห์ธาตุคาร์บอนเป็นอินทรียสารพื้นฐานของตัวชีวิตที่ทรงประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์ที่สุดตามธรรมชาติ
สรีระที่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์ที่สุดตามธรรมชาติของมนุษย์เท่านั้น
ที่จะสามารถรองรับปัญญาสูงสุด ตามที่พระพุทธศาสนาได้ค้นคว้าและพิสูจน์พบแล้ว
เรียกว่า "อุตริมนุสธรรม" ได้ หาใช่เรื่องปกติของกิเลสตัณหาทั่วๆไปจะมาค้นพบหรือพิสูจน์ได้
แต่อย่างใดไม่
อัสมิตา เอกะวัคคะปกิณกัง
นิฏฐิตัง ฯ
Cr. "นายขยะ" Atthanij Pokkasap
No comments:
Post a Comment