Atthanij
Pokkasap
ปริศนาการเข้ากรรมฐาน
จาก ท่านพระอุปคุต
การซ่อนเท็คนิคปฏิบัติการโยคะ
ของพระพุทธศาสนา ให้พ้นการตรวจสอบ
ของนักการเมืองการปกครอง แห่งแคว้นมคธ
ไม่มีใครเฉลียว...
ตำแหน่งสังฆราชนั้น
อุปโลกน์ขึ้นครั้งแรก ที่แคว้นมคธ
ผู้อุปโลกน์ที่มีอิทธิพลสูงสุดของคณะสงฆ์สมัยพุทธกาล
คือ..."ท่านพระเทวทัต"
แคว้นมคธ คือ
แดนอิทธิพลของท่านพระเทวทัต
แคว้นมคธ คือ
แดนที่ท้าทายว่าปาฏิหาริย์แห่งพระอรหันต์ และว่าพระอรหันต์ไม่มีจริงในโลก
แคว้นมคธ คือ
แดนสังหารโหดที่ทำร้ายท่านพระมหาโมคคัลลานะ
ทุบบดจนกระดูกรวมกระโหลกศรีษะของท่านพระมหาโมคคัลลานะแหลกละเอียดไปทั้งร่าง
แต่..มีบันทึก
การประทุษร้าย
เพียงไม่กี่บันทัดในพระไตรปิฎก อ้างด้วยว่า "เป็นกรรมเก่า"
แคว้นมคธ
คือแดนสังหารโหด ท่านพระอุบลวรรณาเถรี อย่างโหดอำมหิตไม่ต่าง
ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
ด้วยน้ำมือของ ท่านพระเทวทัต..โดยไม่การบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกอีกต่างหาก
อัครมหาสาวกผู้เลิศฤทธิ์ทั้งฝ่ายภิกษุ และภิกษุณี
ล้วนถูกประทุษร้ายอย่างอเนจอนาถจนต้อง
ดับขันธปรินิพพานก่อนเวลาอันควร...
แคว้นมคธ
คือแดนสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๓ ที่ทำให้ สถาบันสงฆ์แห่งแคว้นวัชชี
คู่ปรับแคว้นมคธล่มสลาย และพระพุทธศาสนา แตกยับเยินเป็น ๑๘ นิกาย....
ท่านพระอุปคุตผู้เปิดเผย
พิกัด ๘๔,๐๐๐ สถานเสด็จประทับของพระพุทธเจ้า สมัยพุทธกาล ในอีก ๓๐๐ ปีต่อมา
ภายใต้อุปถัมภกของพระเจ้าอโศกมหาราช ทายาทสายตรงแห่งแคว้นมคธ ท่านทำอย่างไร...
๑.เหตุที่ท่านผูกเรื่องว่า
เป็นคู่ปรับพระยามาร ก็เพื่อเปิดเผยอำนาจสกปรกของนักปกครอง
แคว้นมคธ
ที่อยู่ในสถานะมารทำลายพระพุทธศาสนา และท่าน...ทำสำเร็จ
สมญาท่าน คือ นาคกระหร่อง..
กีสะนาโค(Kisanago) ...ประจำอยู่ใต้สะดือทะเล...หมายถึง
เก็บความลับลึกเหมือนห้วงทะเล
นาคกระหร่อง...กีสะนาโค คือ การปราบมาร คือ กามคุณ ๕ ต้อง
"ดับอาหาร" หมายถึง...
กวฬึงการาหารดับ...กามคุณ๕ (มาร)ย่อมดับ
นาคกระหร่อง..ก็เพราะกินอาหารแต่น้อย
ร่างกายท่านจึงบอบบางซูบผอม(กีสะ.แปลว่า.บาง ผอม กระหร่อง)
มาร คือกามคุณ ๕
ย่อมอยู่ไม่ได้(ปฐมฌาน..ฌานที่ ๑ ในสัมมาสมาธิ สมาบัติชื่อว่า
"เนกขัมมสุข"
..เคล็ดว่า "กวฬิงการาหารดับ เป็นปัจจัยให้กามคุณ ๕ ดับ"
จึงเกิดสุข
จากการหลีกเร้นกาม...คือ กามคุณ ๕ ดับ)
๒.
เหตุที่ท่านปราบมารสำเร็จ ยังต้องทรมานมารต่อด้วยการนำซากหมาเน่า คล้องผูกคอมาร
คือความหมายที่ว่า...แม้จะดับกามคุณ ๕ ด้วยการดับ(กวฬิงการา)อาหารสำเร็จแล้ว แต่ยังไม่ดับสนิทจริง...พระโยคาวจรผู้ฉลาดยังต้องสำทับ
ซากหมาเน่า คือ "อสุภสัญญา" ซ้ำอีก เพื่อให้กามคุณ ๕ ดับสนิท
ไม่สามารถกำเริบได้ อีกต่อไป...
ท่านพระอุปคุต
สามารถใช้วงศ์กษัตริย์ผู้ทำลายให้ร้ายพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล
กู้พระพุทธศาสนากลับคืนมาได้ในระดับที่ทำให้พระพุทธศาสนาไม่สูญไปจากประวัติศาสตร์
พร้อมทั้งซ่อนเท็คนิคกรรมฐานไว้ในภูมิประวัติท่านพ้นการตรวจสอบจากนักการเมืองแคว้นมคธเจ้าแห่งลัทธิเดียรถีย์สำเร็จ
ก็จริง...
แต่ทายาทสาวกเดียรถีย์...มีมากมายหนุนเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น...ท่านจึงเก็บความลับของคำสอนเป็นภาษาสิงหล
อีกหลายร้อยปีถัดมา ทายาทสายตรงของพระพุทธศาสนาจากเอเชียกลาง(สายราชวงศ์ปาร์เธียนแห่งอิหร่านเหนือ
สถาปนาไว้โดยท่านพระอนรุทธะตามรับสั่งของพระพุทธเจ้า)ก็มากู้กลับคืน..จากภาษาสิงหล
เป็นภาษาบาลี(ภาษาที่รักษาพระพุทธศาสนา แต่มีคนเอาไปปนว่าเป็นภาษามคธ)..โดยท่านพระพุทธโฆษาจารย์
ศึกชิงคำสอนดั้งเดิมที่เกิดบนเกาะสิงหลถูกแปลงเป็นวรรณคดี
เรื่องรามเกียรติ์
ฉบับ
สยาม-จาม-ชวา-มะลายู ครับ
คำสอนดั้งเดิมนั้น มีชื่อทางวรรณคดีว่า...
"นางสีดา"
ยังไงล่ะครับ
ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
ฉบับ "นายขยะ" เป็นอย่างนี้เอง
สนุก มั้ยครับ.? สนุกกว่า ฉบับ งั่ว
& โม่
ที่ถือตามใบสั่งนักการเมืองแคว้นมคธ
ถึง 2,300 ปี มั้ยล่ะ....
?!?!?!?!!
No comments:
Post a Comment