พระพุทธวจนะ ที่มา
ของ การแพทย์แผนไทยดั้งเดิม
ที่มีหัวข้อเรียกว่า "ตรีธาตุ(ธาตุทั้ง ๓)" ประกอบด้วย :-
"ปิตตะ(ดี)-เสมหะ(เสลด)-วาตะ(ลม)"
จาก ตรีคุณ(ธาตุที่ให้คุณทั้ง ๓) เป็น
ตรีโทษ(ธาตุที่ให้โทษ ทั้ง ๓)...สภาวะที่เกิดโรค
และหนักสุดท้ายเป็น "ตรีทูต"...
อาการเจ็บป่วยที่กำลังไปสู่การตาย
การให้โทษร่วมกัน ของ "ตรีธาตุ"
คือ การไม่รักษาความเป็นปกติของอิริยาบท ตลอดจนการดื่มการกินในชีวิตประจำวัน
การร่วงโรยของสุขภาพ ตามอายุกาล
คือ โรค(วิปาก)กรรม
เป็น พระพุทธวจนะ ที่ยืนยันถึง สรรพนานาศาสตร์ที่มีอยู่จริง เป็นหลักฐานตั้งแต่ ชั้นพระบาลี คือ คัมภีร์ชั้นออริจินัล ของพระพุทธศาสนา ซึ่ง อัปปัสสุตชน...ผู้ไร้การศึกษา ทั้งหลาย ไม่ได้มีศักยภาพทางปัญญามาเรียนรู้ แล้วกล่าวร้าย บิดเบือน ไปทั่ว อย่างไร้ความละอาย และบ้างก็ด่วนย่อสรุป....เอาตามตวามคับแคบ ตามสติปัญญาที่ต่ำทรามของตนเอง
เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
อละเป็นความป่าเถื่อน ไร้มารยาททางปัญญา
อย่างเลวทรามที่สุด
เป็น รายละเอียดใน "ภูมิทัศน์" ประกอบ ธาตุ ๔ (ดิน-ปถวีธาตุ, น้ำ-อาโปธาตุ, ลม-วาโยธาตุ, ไฟ -เตโชธาตุ) ของอาการ ๓๒ จัดเป็น วิชา จิตสรีรศาสตร์วิภาค พื้นฐานของห้องปฏิบัติการโยคะ หรือห้องกรรมฐานของพระพุทธศาสนาที่ถูก ละเลย มาตลอด ร่วม ๑,๕๐๐ ปี แล้ว
อย่างนั้นแล้วหรือ ?
ตื่นตัว และรู้ สาระ ความเป็น "อกาลิโก"
ที่สูงส่งกว่า วิชาการแพทย์เชิงวิทยาศาสตร์
ของปัจจุบัน.. กัน เพียงไหน
อย่างไร กันบ้าง
ไม่ทราบ...?!!!
ผู้ไร้ใบรับรองความรู้ใดๆ...คนหนึ่งนี้...
ออกมากระชากหน้ากากแห่งอุปาทาน
กัน อย่างนั้น เลย..กระนั้น หรือ ?!!!
"ฌาน ๔ เครื่องอยู่สบายอันมีในจิตยิ่ง"...ปริศนา ความสุขอันเป็นปัจจุบัน...ที่นิยาม "ปัจจุบัน" ตามการค้นพบของพระพุทธศาสนา ออกมานะครับ...เพราะปัจจุบันๆ..ทีพูดกันอยู่และจำนั้น...อุปาทาน เพ้อเจ้อ ไร้ความเป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ครับ
No comments:
Post a Comment