Atthanij Pokkasap
ประวัติของ อาการ ๓๒(ทวัตติงสาการ)
แต่เดิมนั้น พระบาลีบันทึกไว้ เพียง ๓๑ อาการ โดยจัดให้
(มัน)สมอง เป็นส่วนหนึ่งใน
อาการ "อัฏฐิมิญชัง"...คือ เยื่อกระดูก
สมัยต่อมา หลังการแปลคัมภีร์ภาษาสิงหฬ กลับมาเป็นภาษาบาลี ที่มีท่านพระพุทธโฆสาจารย์เป็นประธานบดีในกลางพุทธศตวรรษที่
๑๐ จึงได้เพิ่ม (มัน)สมอง..ชื่อ "มัตถะเก มัตถลุงคัง"...เป็นอาการที่ ๓๒
สุดท้าย และห้อยท้ายสุด ใน "ปัญจกธาตุ" ...ธาตุดิน
กลุ่มห้าสุดท้ายต่อจาก..อาหารเก่า....กะรีสัง
เท่ากับว่า..
ในทางการแพทย์แผนพุทธโบราณดั้งเดิม.. เพียงแค่เห็นกากอาหาร
หรือขี้... ก็วิเคราะห์ได้แล้ว ว่า สมองของเจ้าของขี้...มีสภาพโครงสร้างเยี่ยงไร
!!!!
แต่ ...
รายละเอียดการค้นพบ เยื่อในกระดูก(อัฏฐิมิญชัง)...จากห้องกรรมฐาน
โบราณ โครงสร้างเยื่อในกระดูกเป็นผลมาจากการทำงานปฏิสัมพันธ์ระหว่าง กระดูก(อัฏฐิ)-เอ็น(นะหารู)-น้ำดีที่ไม่เป็นฝัก
(๑ ใน ๒ ของปิตตะ) เลือด(โลหิตัง) กับวาตะ..ธาตุลมภายในทั้ง ๖
ที่มีลมหายใจออกลมหายใจเข้าเป็นประธาน
ญี่ปุ่นโดยลัทธิชินโต
เป็นฝ่ายที่ได้รายละเอียดส่วนนี้ไปประยุกต์...ใส่ลงในปรัชญาแห่งกำลังของนักสู้ในประเพณีโบราณ
ที่รู้จักกันในนามของ "ซูโม่"
บรมครูแห่งซูโม่ สามารถ
ดึงพลังงานจากไขในเยื่อกระดูกมาเสริมกำลังเหนี่ยวปะทะด้วย
ค่ามหาศาลเกินการฝึกฝนทางกายภาพทั่วไป...เป็นปริศนาในทางปรัชญาการฝึกกำลังของ
ซูโม่...จนถึงปัจจุบันนี้
การที่วิทยาการปัจจุบันยึดมันสมองว่ามีค่าสูงสุดท้ายของตัวชีวิต
ถ้าผู้ศึกษาประวัติพ่อหมอชีวกะมาแล้ว...จะเห็นว่า...การแพทย์โบราณนั้นมองสมอง...แค่
เยื่อเก็บพลังงานในกระดูกเท่านั่นเอง...พ่อหมอชีวกะจึงผ่ากระโหลกเอาพยาธิ์ที่ไชสมองเศรษฐีออกอย่างง่ายๆ
...ชนิด ถามเศรษฐีเจ้าของสมองตัวเป็นๆ ด้วยว่า "ท่านทนไหวไหม..?" ก่อนลงมือ
เฉลียวใจกันบ้าง สิครับ
สมอง..ก็แค่เยื่อซับพลังงาน...
ที่สัมพันธ์กากอาหารสุดท้าย
......
?!!!
Atthanij Pokkasap สมาธิ...มาจากจิตที่หัวใจ
Atthanij Pokkasap สมองเป็นร่องรอยบอกจิตที่เป็นอิสระ...ยิ่งอิสระจากข้อมูลอายตนะมาก
รอยหยักละเอียดจะยิ่งมาก
Takeda Kosae วรยุทธซูโม่เนี่ย
ชื่อเหมือนวิชาชำระไขกระดูกของเส้าหลินเลยนะครับ
อาจาร์ย
Panu Wongpanuvut
หมอฮัวโต๋ก็ผ่าเปิดกะโหลกเอาสมองออกมาล้างเยื่อเมือกได้
แต่โจโฉไม่ยอม ก็งงมานาน วันนี้ ยูเรก้า!!!(แมลงสาบตัดหัวอยู่ได้ราว๙วัน
ไมค์ไก่ไร้หัวด้วย)
No comments:
Post a Comment