Atthanij Pokkasap
เท็คนิคการเจริญอิทธิบาท
๔...
ซึ่งก็คือ เท็คนิคการพัฒนาข้ามระบบอายตนประสาทที่ประสิทธิภาพจำกัด
ครับ !!!
(จาก โพสต์ก่อนหน้า...จ. 18 เมษายน 2016)
การเป็นอิสระภาพไปจากข้อมูลประสบการณ์
ทางอายตนประสาททั้งระบบ
ในช่วง กวฬิงการาหารดับ เป็นปัจจัยให้ กามคุณ ๕ ดับ นี้แหละ
คือการก้าวล่วงสู่
ปฐมฌาน...ฌานที่ ๑ ในสัมมาสมาธิ
ที่ชื่อว่า..
๑. วิมุตตายตนะ(๕)...อายตนะอันหลุดพ้นการครอบงำของอินทรีย์ ๕ (ตา หู
จมูก ลิ้น กาย)
๒.
อภิภายตนะ(๘)..อายตนะอันเหนือกว่าอายตนะสามัญ(Normal Senses)
๓.
กสิณายตนะ(๑๐)...อายตนะที่มีพลังงานเหนือแรงเหนี่ยวนำของกามคุณ๕ จากประสบการณ์อาตนประสาทสามัญ(Sensation
of Normal Senses) คือ..Mind over Force Field
๔. วิโมกข์
(๘)...อายตนะที่หลุดพ้นไปจากประสบการณ์ทั้งมวลของอายตนประสาทสามัญ
ฯลฯ
ถ้า เป็นภาษาอังกฤษ
ก็คงประมาณเป็น...
Supramental Mind over Senses & Sensation
อะไรประมาณนี้ ล่ะครับ
เหล่านี้
เป็นศัพท์เทคนิคในการฝึกจิตให้ขาวสว่างรอบ (สะจิตตะปริโยทะปะนัง)
ที่หายไปจากพจนานุกรมพระพุทธศาสนา ทั้งหมดในปัจจุบัน.....
และเป็น
"ญาณ" เป็นประสบการณ์ทางจิต
"อุตริมนุสสธรรม"
ตามความหมายของพระพุทธศาสนา....
ที่ความรู้ในระบบอายตนะประสาทปกติ
เข้ามา "เสือก" ตัดสินพิพากษา...เพ่นพ่านเต็มไปหมด
ในขณะปัจจุบัน นี้ ครับ
Atthanij Pokkasap ฉะนั้น...การฝึกจิตให่ขาวสว่างรอบ...จึงเป็นอะไรไปไม่ได้ คือ
ขาวสว่างรอบเพราะเป็นอิสระเหนือข้อมูลของประสบการณ์ทางอายตนประสาททั้งระบบ...ที่ประมวลผลไว้ในสมองส่วนล่างหลังกระบอกตา
และทำงานร่วมกับหัวใจ แต่ฝึกให้หัวใจเป็นผู้สั่งงาน
ไม่ใช่ให้สมองที่อาศัยอายตนะแล้วมาสั่งงาน...ครับ
Atthanij Pokkasap ที่ว่ายเวียนอยู่ในกิเลสตัณหา
ก็เป็นหัวใจสั่งงานภายใต้การเข้าไปปรุงแต่งแล้ว คือ มโนธาตุจากหัวใจ ไปเป็น
"มโนวิญญาณ" ที่เสพกามคุณ ๕ จากข้อมูลของสมองส่วนล่าง
เป็นจิตที่ประกอบกิเลสตัณหา ไปแล้ว...
Panugon Pla สาธุๆๆ
Atthanij Pokkasap ที่ฝึก คือฝึกตัดตอน มโนวิญญาณ จากมโนธาตุ ไม่ให้เช้าไปมิกซ์
ข้อมูลประสบการณ์ของอายตนะในสมองส่วนล่าง ครับ
Atthanij Pokkasap นี้คือ
สมองส่วนล่างที่เก็บข้อมูลประมวลผลจากอายตนประสาททั่งระบบ...(ใจก็เก็บบันทึกตามไว้ด้วย
แต่เป็นการเก็บภายใต้การสั่งการ..ที่
ต้องปลดเปลื้องด้วยเท็คนิคที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ)
Happy Joe ที่มีผู้รู้กล่าว เรื่อง
ปฏิสนธิวิญญาณ มิใช่ วิญญาณในขันธ์ ๕ ...
ท่านอาจารย์เมตตาขยายความด้วยขอรับ
Atthanij Pokkasap
ขันธ์ ๕ นับตอน เกิดนามรูป แล้ว
นามรูป และวิญญาณ เป็นปัจจัยอาศัยกัน เกิดพร้อมกัน
ผู้รู้ท่านรู้ด้วยการคิดเอง เออเองแล้วครับ
Happy Joe แล้วจิต ที่หลุดพ้น
นี่อยู่ในขันธ์ ๕ หรือไม่ครับผม..
Atthanij Pokkasap จิตที่หลุดพ้น...เป็น "วิญญาณ"ที่อาศัยนามรูป เป็นปัจจัย
คือวิญญาณ ที่..ณ ที่นี้เรียกไปก่อนหน้าแล้วว่า เป็น "จิตสังเคราะห์กาย
"..หลุดพ้น จะมี
๑. หลุดพ้นจากการครอบงำของข้อมูลประสบการณ์ทางอายตนะ
ที่เรากำลังอยู่ในโพสต์ตอนนี้ แล้วก็มี..
๒. หลุดพ้นจาก ตัณหา แล้วก็มี
๓. หลุดพ้นไปจากอาสวะทั้งปวง
เราอยู่ใน ข้อ ๑. อยู่นะครับ
Atthanij Pokkasap คือทั้งหมดยังอยู่และต้องอาศัยขันธ์ ๕ ครับ
Happy Joe แต่มิใช่ขันธ์ ๕?
Atthanij Pokkasap อย่าสับสนตามการคิดคดของพวกมันสิครับ
Happy Joe ครับผม..สาธุ ผมหลงมานาน
อาจารย์โปรดอดโทษด้วย วาทะพุทธแบบนี้มีเยอะจริงๆ ในกระแสเถรวาทบ้านเรา..
Atthanij Pokkasap จิต ของคนพวกนั้น ...ความรู้สึก(เวทนา)ที่เป็นอุปาทาน(กำหนดขึ้นมาเอาเอง)
ล้วนๆ....มะเร็ง พอกับ จักระ ทั้ง ๗ ของพวกคลั่งลัทธิโยคะ ครับ
Happy Joe สาธุๆๆๆ แจ่มแจ้งแล้วครับกระผม
Pantipa Chanate สาธุคะขอแชร์คะ
No comments:
Post a Comment