Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Wednesday, January 30, 2019

เท็คนิคการเจริญอิทธิบาท ๔ คือ เท็คนิคการพัฒนาข้ามระบบอายตนประสาทที่ประสิทธิภาพจำกัด




Atthanij Pokkasap 


เท็คนิคการเจริญอิทธิบาท ๔...
ซึ่งก็คือ เท็คนิคการพัฒนาข้ามระบบอายตนประสาทที่ประสิทธิภาพจำกัด ครับ !!!               

(จาก โพสต์ก่อนหน้า...จ. 18 เมษายน 2016)
การเป็นอิสระภาพไปจากข้อมูลประสบการณ์
ทางอายตนประสาททั้งระบบ
ในช่วง กวฬิงการาหารดับ เป็นปัจจัยให้ กามคุณ ๕ ดับ นี้แหละ คือการก้าวล่วงสู่
ปฐมฌาน...ฌานที่ ๑ ในสัมมาสมาธิ
ที่ชื่อว่า..

๑. วิมุตตายตนะ(๕)...อายตนะอันหลุดพ้นการครอบงำของอินทรีย์ ๕ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)
๒. อภิภายตนะ(๘)..อายตนะอันเหนือกว่าอายตนะสามัญ(Normal Senses)
๓. กสิณายตนะ(๑๐)...อายตนะที่มีพลังงานเหนือแรงเหนี่ยวนำของกามคุณ๕ จากประสบการณ์อาตนประสาทสามัญ(Sensation of Normal Senses) คือ..Mind over Force Field
๔. วิโมกข์ (๘)...อายตนะที่หลุดพ้นไปจากประสบการณ์ทั้งมวลของอายตนประสาทสามัญ
ฯลฯ

ถ้า เป็นภาษาอังกฤษ ก็คงประมาณเป็น...
Supramental Mind over Senses & Sensation
อะไรประมาณนี้ ล่ะครับ
เหล่านี้ เป็นศัพท์เทคนิคในการฝึกจิตให้ขาวสว่างรอบ (สะจิตตะปริโยทะปะนัง) ที่หายไปจากพจนานุกรมพระพุทธศาสนา ทั้งหมดในปัจจุบัน.....

และเป็น "ญาณ" เป็นประสบการณ์ทางจิต
"อุตริมนุสสธรรม"
ตามความหมายของพระพุทธศาสนา....
ที่ความรู้ในระบบอายตนะประสาทปกติ
เข้ามา "เสือก" ตัดสินพิพากษา...เพ่นพ่านเต็มไปหมด ในขณะปัจจุบัน นี้ ครับ



Atthanij Pokkasap  ฉะนั้น...การฝึกจิตให่ขาวสว่างรอบ...จึงเป็นอะไรไปไม่ได้ คือ
ขาวสว่างรอบเพราะเป็นอิสระเหนือข้อมูลของประสบการณ์ทางอายตนประสาททั้งระบบ...ที่ประมวลผลไว้ในสมองส่วนล่างหลังกระบอกตา และทำงานร่วมกับหัวใจ แต่ฝึกให้หัวใจเป็นผู้สั่งงาน ไม่ใช่ให้สมองที่อาศัยอายตนะแล้วมาสั่งงาน...ครับ


Atthanij Pokkasap  ที่ว่ายเวียนอยู่ในกิเลสตัณหา ก็เป็นหัวใจสั่งงานภายใต้การเข้าไปปรุงแต่งแล้ว คือ มโนธาตุจากหัวใจ ไปเป็น "มโนวิญญาณ" ที่เสพกามคุณ ๕ จากข้อมูลของสมองส่วนล่าง เป็นจิตที่ประกอบกิเลสตัณหา ไปแล้ว...


Panugon Pla    สาธุๆๆ


Atthanij Pokkasap  ที่ฝึก คือฝึกตัดตอน มโนวิญญาณ จากมโนธาตุ ไม่ให้เช้าไปมิกซ์ ข้อมูลประสบการณ์ของอายตนะในสมองส่วนล่าง ครับ


Atthanij Pokkasap  นี้คือ สมองส่วนล่างที่เก็บข้อมูลประมวลผลจากอายตนประสาททั่งระบบ...(ใจก็เก็บบันทึกตามไว้ด้วย แต่เป็นการเก็บภายใต้การสั่งการ..ที่ ต้องปลดเปลื้องด้วยเท็คนิคที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ)


Happy Joe    ที่มีผู้รู้กล่าว เรื่อง ปฏิสนธิวิญญาณ มิใช่ วิญญาณในขันธ์ ๕ ...
ท่านอาจารย์เมตตาขยายความด้วยขอรับ


Atthanij Pokkasap  ขันธ์ ๕ นับตอน เกิดนามรูป แล้ว
นามรูป และวิญญาณ เป็นปัจจัยอาศัยกัน เกิดพร้อมกัน ผู้รู้ท่านรู้ด้วยการคิดเอง เออเองแล้วครับ


Happy Joe    แล้วจิต ที่หลุดพ้น นี่อยู่ในขันธ์ ๕ หรือไม่ครับผม..


Atthanij Pokkasap  จิตที่หลุดพ้น...เป็น "วิญญาณ"ที่อาศัยนามรูป เป็นปัจจัย คือวิญญาณ ที่..ณ ที่นี้เรียกไปก่อนหน้าแล้วว่า เป็น "จิตสังเคราะห์กาย "..หลุดพ้น จะมี
๑. หลุดพ้นจากการครอบงำของข้อมูลประสบการณ์ทางอายตนะ ที่เรากำลังอยู่ในโพสต์ตอนนี้ แล้วก็มี..
๒. หลุดพ้นจาก ตัณหา แล้วก็มี
๓. หลุดพ้นไปจากอาสวะทั้งปวง
เราอยู่ใน ข้อ ๑. อยู่นะครับ


Atthanij Pokkasap  คือทั้งหมดยังอยู่และต้องอาศัยขันธ์ ๕ ครับ


Happy Joe    แต่มิใช่ขันธ์ ๕?


Atthanij Pokkasap  อย่าสับสนตามการคิดคดของพวกมันสิครับ


Happy Joe    ครับผม..สาธุ ผมหลงมานาน อาจารย์โปรดอดโทษด้วย วาทะพุทธแบบนี้มีเยอะจริงๆ ในกระแสเถรวาทบ้านเรา..


Atthanij Pokkasap  จิต ของคนพวกนั้น ...ความรู้สึก(เวทนา)ที่เป็นอุปาทาน(กำหนดขึ้นมาเอาเอง) ล้วนๆ....มะเร็ง พอกับ จักระ ทั้ง ๗ ของพวกคลั่งลัทธิโยคะ ครับ


Happy Joe    สาธุๆๆๆ แจ่มแจ้งแล้วครับกระผม


Pantipa Chanate    สาธุคะขอแชร์คะ


No comments: