คนโบราณเสพสมเพื่อให้ได้บุตรธิดาดี โดยเฉพาะพวกถือศีล ๕ ถาวร ในทวีปทั้ง ๓ และ ถือลุ่มๆดอนๆในชมพูทวีป

Atthanij Pokkasap  

คนโบราณ...เสพสมเพื่อให้ได้บุตรธิดาดี (โดยเฉพาะพวกถือศีล ๕ ถาวร ในทวีปทั้ง ๓ และ ถือลุ่มๆดอนๆ ในชมพูทวีปก็มีประเพณีถือวัตรปฏิบัติตนเพื่อให้เกิด หรือให้ได้มาซึ่งบุตรธิดาดีๆ มีอยู่ในจารีตที่ยุบตัวลงมาเป็นความเชื่อปรัมปรา...ในที่สุด ที่เหล่า

อัปปรียปริญญา และอัปปัสสุตชน มันว่า เป็นความงมงาย น่ะล่ะครับ
อสุจิ...แปลว่า ไม่บริสุทธิ์ เมือ สุจิ แปลว่าบริสุทธิ์
แปลว่า ไม่ใช่เข็มแหลม เมื่อ สุจิ..แปลว่าเข็ม... เข็มไม่แหลมจิ้มๆแทงๆไม่เจ็บรึไง...ผู้หญิง(เท่านั้น?)มั้งที่รู้...
ปกติโบราณ เรียก น้ำที่ทำให้เกิด(ชาติ)ครับ...น้ำสัมภวะ...ครับ

(สัมภวะ ก็คือ "สมภพ"..แปลว่า เกิด)

ลุงรักชาติ ราชบุรี    สะเปิร์ม..sperm(spermatozue)....เทียบกับ อสุจิ..
เราน่าจะไม่เคยเห็นตัวของมันก่อนที่จะมีแว่นขยาย....

การกำเหนิดของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยเพศ...ไม่แน่ใจว่าจะสูงกว่าดีกว่าแบบไม่อาศัยเพศ..
คงเป็นการแตกย่อยของพัฒนาการในสภาวะที่ต่างกัน..

ความรู้เรื่อง จิต-กาย..(พลังงาน-สสาร)..คงต้องศึกษาค้นคว้ากันต่อไป นะครับ..

ฐิติยาพร พรวิริยางกูร    มี อ.นิช อธิบายแล้วค่ะ  มี อ.มาเปิดเผยแล้วค่ะ

ต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจค่ะ 

ธุลีแห่งดวงดาว (อาภัสสระพรหม)....แปลงกายมาเป็นมนุษย์...เป็น..อาภัสสระพรหมก็ดีแล้ว

นี่นา...ทำไม....อยากจามาเกิดเป็น...มนุษย์

พอดีมี..youtube แสดง..กายภาพ....กำเนิดกุมาร...ลงรายละเอียด...โครโมโซม.....อะไรทำนองนั้น...แล้ว อ.นิช..ก็อธิบาย.....โอ้โห.....ต้องฝช้เวลาทำความเข้าใจค่ะ...แต่ไม่เคร่งเครียดค่ะ....พุทธิปัญญายังไปไม่ถึงค่ะ

Atthanij Pokkasap  กัมมชรูป แปลว่า รูปเกิดแต่กรรม

ได้แก่ หทยรูป ๑ และ อินทรียรูป ๑๘
หมายถึง...หัวใจที่สอดคล้องกับระบบการหายใจ ๑
อินทรียรูป ๑๘ หมายถึง..
ระบบอายตนประสาท(ปสาทรูป) ๕...ตา หู จมูก ลิ้น กาย
ภาวรูป ๒ . คือ เพศจากฮอร์โมนเพศ
รูปตามความรู้สึกว่ามีตัวตนมีชีวิต (ชีวิตินทรียรูป) ๑
แล้วก็รูปตามระบบอายตนประสาทอีก ๕ เรียกว่า "อินทรียรูป" คือลักษณะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นกรรมที่ต้องอาศัยอาหารและสิ่งแวดล้อม(อุตุ หรือ ฤดู)ประกอบด้วย...ท.วิวัฒนาการ ของชีววิทยาปัจจุบัน..จิต และกรรม ที่ตรงกับกฏอนุกษกรรมแห่งพลังงาน ตกหายไปทั้ง ยวง ครับ

Atthanij Pokkasap  ละเอียดเกินกว่าจะพิมพ์ตอบในนี้หมดครับ แต่ถ้าเป็นมุขปาฐะอธิบายซึ่งๆหน้า....ข้อมูลที่ชัดเจน..เพียบ...

โม้ซะเล็ยยย

ลุงรักชาติ ราชบุรี    ไม่น่าเชื่อว่า ความรู้ในด้านชีววิทยาในพุุทธศาสนาจะก้าวหน้ามาหลายพันปีแล้ว..แต่บางสิ่งก็อาจมีรายละเอียดแตกต่างกับที่เรารับรู้จากตะวันตก..ความรู้คือพลัง..แม้จะแตกต่างไปตามยุคสมัย..น่าชื่นชมกับสติปัญญาคนในยุคก่อนซึ่งขาดแคลนทั้งเครื่องมือและวิธีสืบค้นจริงๆครับ..สาธุ..พระพุทธองค์ทรงมีพระปัญญาธิคุณหาผู้ใดเสมอเหมือน..

Panu Wongpanuvut    วิวัฒนาการเริ่มต้นที่ลมหายใจ

Atthanij Pokkasap  ไม่..ต้องบอกว่า เริ่มต้นที่ การปรากฏขึ้นของกระบวนการหายใจ ของตัวชีวิต ครับ

Panu Wongpanuvut    เมตาบอลิซึ่ม 

Atthanij Pokkasap  เมตาบอลิสม์ เป็นการพบกันอย่างน้อยของสองกระบวนการหลัก คือ กระบวนการหายใจ กับกระบวนการย่อยอาหาร...ครับ

Atthanij Pokkasap  จิต ตามพระพุทธนิยาม "อัสสุตวตาสูตร"...ท่านก็แสดงให้เห็นถึง...

จิต ที่สังเคราะห์กาย(มหาภูต ๔)เกิดขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน ....เซลล์วิทยา ก็ค้นพบ

เซลล์ร่างกายของมนุษย์มีการ จุติ-อุบัติ ต่อเนื่อง วินาทีละหลายล้านเซลล์...เช่นกัน ไวเบรชั่นการสื่อสารระหว่างเซลล์เป็นคลื่นพลังงาน(แสงสว่าง) อีกเช่นกันด้วย

Atthanij Pokkasap  ฉะนั้น...พื้นฐานการเรียนรู้...
จิตสรีรศาสตร์ฝ่ายพุทธและการแพทย์แผนไทย(ปัจจุบัน) ต้องค้นคว้าเรียบเรียงใหม่ทั้งเล่ม ครับ จึงจะสามารถเข้าถึง อาการ ๓๒ และ มหาภูต ๔ การการค้นพบดั้งเดิมที่เป็น "อกาลิโก" ได้....

Atthanij Pokkasap  เพราะ...วิธีการค้นพบของพุทธ ..เป็นเรื่องฟิสิคส์ชีวภาพ(Bio physics) ว่าด้วยพลังงาน ล้วนๆตรงๆ ...ไม่ใช่ดิน น้ำ ลม ไฟ...แบบที่เข้าใจตามๆกันมาว่าโบราณล้าหลัง.อย่างที่..วิทยาศาสตร์นิวโตเนียนยุคล่าอาณานิคมได้กล่าวหาไว้...ครับ

Atthanij Pokkasap  ครับ เพราะยุโรปนั้น รับสุดปลายทางเต๊มทีของกรีกที่ร่วมพุทธกาล...แล้ว กาฬโรคก็กวาดล้างซะศาสนาบูชาพระเจ้าไปไม่เป็น...วิทย์แห่งการฉวยโอกาสก็เข้ามาตีขุม รุ่งเรืองบนการฉวยโอกาสนั้นเกิดยุคล่าอาณานิคม และจับคนมาเป็นทาสขึ้น...

Panu Wongpanuvut    ไปแอบแห้งตายซะ 

Atthanij Pokkasap  ตอบพวกไม่มีสมอง...ไม่มีประโยชน์ใดๆนะ...

Atthanij Pokkasap  การค้นพบของพระพุทธศาสนา...เป็นการค้นพบปรากฏการณ์โลกของคลื่น มากกว่าโลกของอนุภาค...ที่พวกมันไม่ได้มีความรู้พื้นฐานอะไรเลยแม้เแต่น้อย