Atthanij Pokkasap
เมื่อพ่อแม่ เป็นแค่สัญญลักษณ์ของกิเลส
ราชาเป็นแค่สัญญลักษณ์ของความยึดมั่นถือมั่น
..ก็จำเป็นต้องฆ่าทิ้ง...
และเมื่อประชาขนเป็นสัญญลักษณ์ของ
Vibrations
ที่มีสมรรถนะจำกัด
..ก็ย่อมสมควรทำลายทิ้งเพื่อปรากฏการณ์ที่สูงส่งกว่าจะได้เกิด...
ผู้ฆ่าราชาแห่งความยึดมั่นถือมั่น
และฆ่าพ่อแม่แห่งกิเลสตัณหา...ถ้าจำไม่ผิด คือ
เอตทัคคะผู้เลิศในเสียงไพเราะ
ท่านลกุณฏกภัททิยะเถระ มหาอรหันต์ร่างเล็กหลังค่อม
อดีตมหาราชากีกิ..ผู้สั่งลดขนาดเจดีย์พระกัสสปะทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า...
วันเวลาที่พระบรมศาสดาตรัสอุปมานี้
น่าจะเป็นช่วงเวลาที่
อมนุษย์เต็มพระนครทั้ง ของราชคฤห์แห่งมคธ และ สาวัตถีแห่งโกศล....มหาชนจะปลอดภัยและรุ่งเรื่องเป็นจักรวรรดิ์...มันจึงต้องฆ่า....ถ้าหวังความเจริญใหญ่จริง....
นอกจากฆ่าแล้ว ต้องทำลายแคว้นทิ้งด้วย...เพราะมันคือประชาชนที่เต็มไปด้วยความคับแคบแห่งความรู้ของระบบอายตนะ!!!
ปชช.ที่เสื่อมคุณภาพ ต้องทำลายทิ้งยกแคว้น(อายตนะ-คือสนาม
หรือแคว้น)...ครับ
คำสาปฤๅษี ใน
อุปาลิวาทสูตร(ไตร เล่ม ๑๓/๔๕) ทำให้อาณาจักร คือ แคว้นกุรุ
ล่มลงไปในมหาสมุทรถึงกว่า ๓๐๐ โยชน์(๕๐๐๐
กิโลเมตร)จึงไม่ใช่เรื่องแปลก...ที่แปลกคือ..อาณาจักรที่ล่มทั้งหมด เป็นตำนานที่ เทวทัตมาล้างผลาญพระบรมโพธิสัตว์ทั้งสิ้น(เทวทัตจองอเวจี
เป็นบ้านพัก บ่อยครั้งมาก)
น่าจะเป็น..ปฏิกิริยา
ร่วมระบบคะตะไลท์...สำหรับ สัมมาสัมพุทธอัจฉริยะแบบปัญญาธิกะ
ซึ่งไม่พบมีในสัมมาสัมพุทธแบบทั่วๆไป(ศรัทธาธิกะ
และ วิริยาธิกะ) ก็เป็นได้!!!
คำสอนของ อัจฉริยะในหมู่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...นะครับ...
ปฏิจจสมุปปาท
ฝ่าย ศรัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ สิ้นสุดแค่ วิญญาณ= นามรูป
และ มาไม่ถึง สังขาร
และอวิชชา ครับ!!!
ซึ่งลึกเข้ามาอีก ๒
ระดับ เป็นปรากฏการณ์กำเนิดเชิงซ้อนของสนามเวลาล้วนๆ....
ถ้าไม่จับประเด็นวิทยาศาสตร์สูงลิบลิ่วของ
ไอน์สไตน์มาเทียบเคียง...ไม่มีทางเกิดปัญญาญาณได้เลย...พวกมันมั่วอย่างบ้าคลั่งและไร้สติ
โดยเฉพาะยุครัตนโกสินทร์ตอนกลางที่บ้าคลั่งอยากเป็นฝรั่ง...บ้าคลั่งชัดเจนเลยครับ....
วิทยาศาสตร์บริหารและจัดการที่ล่าคนมาเป็นทาส..และสร้างอาวุธปล้นทรัพยากรโลก...เป็นแค่วิทยาศาสตร์ทาสนายทุนในระบบเสรีนิยมเท่านั้นเอง...ไม่ได้มีอะไรยิ่งใหญ่เลย...
ปัญหาโลกๆ ถ้าชาวโลกมันแก้ได้เหมิอนที่มันสร้างปัญหา
พระพุทธเจ้า พระศาสดาทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องมาเกิดแล้ว
No comments:
Post a Comment