Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Wednesday, January 30, 2019

ฤทธิหมัดดาวเหนือ ภาคตำนานราโอ...อธิบายเรื่องของ ปรัชญา "ไร้ใจ"


Atthanij Pokkasab
14 มีนาคม 2015

Amphoe Muang KhonKaen
ฤทธิหมัดดาวเหนือ ภาคตำนานราโอ
ผู้ประพันธ์ อธิบายเรื่องของ ปรัชญา "ไร้ใจ" ที่เป็นสภาวะสูงสุดของเพลงยุทธ ครับ ไร้ใจ ในสำเนียงญี่ปุ่น คือ มุ ชิน(Mu Shin) มาจากภาษาจีน วู ซิน (Wu Sin) หรือจีนแต้จิ๋วว่า ปุ้กซิม ตรงกับ บาลีว่า วิญญาณนิโรธ ในบทสวดปฏิจจสมุปปาท คือ การดับวิญญาณ เป็นสภาวะจิตในขณะสุญญตสมาธิ เคนชิโรมีชัยชนะเหนือราโอ เพราะ.. สุญญตสมาธิมีขนาดใหญ่กว่ามาก เพราะแบกรับวิญญาณแห่งความทุกข์ของคนจำนวนมากกว่าราโอที่คิดถึงเพียงตนเองผู้เดียว เป็นการแปลความหมายไม่ใช่แค่หน้าที่โพธิสัตว์ แต่เป็นหน้าที่ของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ที่ชาวพุทธไทยๆ ไม่เคยรู้เรื่อง และเข้าไม่ถึง ครับ

Brahma over Devata : Part 2


Atthanij Pokkasap



Brahma over Devata : Part 2

พระพรหม สูงกว่า เทวดา ตอนที่ ๒


มรรคา และสถานะแท้จริงของ พรหม นั้นถูกค้นพบและเปิดเผย โดยพระพุทธเจ้า แล้วแสดงต่อ พราหมณ์ ที่อ้างตัวว่า สืบเผ่าพันธ์มาแต่พรหม แต่ ไม่รู้ ที่มาและความเป็นไปของพรหม
พรหม เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง(มหาชีวิต) ในทฤษฎีวิวัฒนาการทางจิต ตามการค้นพบของพระพุทธศาสนา เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยจิตวิญญาณมีอิสรภาพเหนือประสบการณ์ทางอายตนะสามัญของมนุษย์ปกติ มี ๒ กลุ่มระดับ
ได้แก่ รูปพรหม และ อรูปพรหม
เป็นปรากฏการณ์สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่กับแสงสว่างในแสงสว่าง
ในสถานะของสิ่งมีชีวิต เปรียบเทียบกับปฏิบัติการโยคะเพื่อการพิสูจน์ค้นพบ สามารถเปรียบเทียบได้ ดังนี้


รูปพรหม ชั้นที่ ๑ มหาพรหมา
สถานะของสิ่งมีชีวิต เท่ากับ "กายิกาพรหม(Kayikabrahma)"
แปลว่า "ผู้มีหมู่อันประกอบเป็นรูป"
มีสนามพลังงานรองรับทางกายภาพ เทียบเท่ากับสนามรองรับ
ดาราจักร(Galaxy...แสนโกฏิโลกธาตุ)
มีปริศนา พรหมเพศหญิงในการค้นพบของพระพุทธศาสนา ที่นักการศึกษาไทยละเลยคือ
กลุ่มพรหมเหล่า มนาปกายิกา ที่แสดงถึงสตรีเพศบรรลุสมาธิสูงกว่าบุรุษเพศได้
ในขณะครองเรือนด้วย
= ฌาน ขั้นที่ ๑(ปฐมฌาน)ในสัมมาสมาธิ
(=ผู้ได้ปฐมฌาน ต้องเห็น "กายิกาพรหม" ด้วยตามกฎ "วิโมกข์ ๘" ที่ ผู้มีรูป ย่อมต้องเห็นรูป)
การเข้าสมาบัติในสมาธิชั้นนี้ เรียกว่า
"เนกขัมมสุข"...แปลว่า สุขอันเกิดจากการหลีกเร้นกาม"


รูปพรหม ชั้นที่ ๒ อาภัสสรพรหม(Abhassarabrahma)
แปลว่า " ผู้ยังแสงสว่างให้อุบัติขึ้นด้วยเหตุแห่งการเคลื่อนไหว"
เป็นชั้นลี้ภัยของมนุษย์เมื่อดาราจักร หรือระบบสุริยจักรวาลล่มสลาย ดังคำบอกเล่าของพระพุทธเจ้าใน "อัคคัญญสูตร"
= ฌาน ขั้นที่ ๒(ทุติยฌาน)ในสัมมาสมาธิ
ผู้ได้หรือบรรลุทุติยฌาน ต้องประสบเห็น อาภัสสรพรหมด้วย
การเข้าสมาบัติในสมาธิชั้นนี้ เรียกว่า
"วิเวกสุข"...แปลว่า สุขอันเกิดจากความสงัด


รูปพรหม ชั้นที่ ๓ สุภกิณหพรหม(Subhakinahabrahm)
แปลว่า "ผู้ส่องสว่างรุ่งเรืองด้วยความงดงาม"
= ฌาน ขั้นที่ ๓ (ตติยฌาน)ในสัมมาสมาธิ
ผู้ได้และบรรลุสมาธิชั้นตติยฌาน ต้องประสบเห็น สุภกิณหพรหม นี้ด้วย
การเข้าสมาบัติในสมาธิชั้นนี้ เรียกว่า
"สมาธิสุข"


รูปพรหม ชั้นที่ ๔ เวหัปผลพรหม(Vehapphalabrahma)
แปลว่า "ผู้มีผลส่องสว่างรุ่งเรืองตลอดฟ้า"
คล้ายเป็นพวก...กลุ่มกาแล็กซีขนาดใหญ่..
= ฌาน ขั้นที่ ๔(จตุตถฌาน) ในสัมมาสมาธิ
ผู้ได้และบรรลุจตุตถฌานนี้ ต้องประสบเห็น เวหัปผลพรหม นี้ด้วย เช่นกัน

ในอานาปานสติสูตร... ปรากฏการณ์ทางกายภาพของผู้บรรลุและประสบเวหัปผลพรหม
ก็คือ ขั้นที่ ๔ ของการหายใจที่สูตรกล่าวว่า "กายสังขารสงบรำงับ"...หายใจผ่าน
กระบวนการเมตาโบลิสม์ภายในเซลล์เองได้เองแล้ว
การเข้าสมาบัติในสมาธิชั้นนี้ เรียกว่า
"สัมโพธิสุข"...แปลว่า สุขอันเกิดแต่การรู้แจ้ง

ในสมาธิแต่ละชั้นดังกล่าว..
เป็น "สุขขณะปัจจุบัน" ที่พระพุทธศาสนาพูดถึง
ผู้เข้าสมาบัติได้ในแต่ละชั้น ชื่อว่า
"ทักขิไณยบุคคล"
เพราะ อานุภาพสมาบัติ สามารถบันดาลอานิสงส์บุญทานทั้งหลายของผู้มาทำถวายในขณะออกจากสมาบัติให้ได้ผลตามอธิษฐานสมปรารถนา เมื่อลับตา หรือคล้อยหลัง...ไปแล้วในพริบตานั่นเอง
เมื่อขยายดวงจิตแห่งพรหม จากขนาดใหญ่โดยธรรมชาติ คือ" มหัคคตารัมมณา ธัมมา"
เป็น "อัปปมาณารัมมณา ธัมมา"...ไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ
ก็จึงเป็นที่มาของ "วิหารแห่งพรหม"..อันเป็นที่ตั้งแห่งความเป็น "ผู้ใหญ่"
ที่ นักปราชญ์กำมะลอของไทย นำมาใช้แอบอ้างสร้างระบบอุปถัมภ์เอาเปรียบสังคมขึ้น

ชื่อเต็มๆของ มหาพรหม ผู้ประกอบด้วยดวงจิตไร้ขอบเขต หาประมาณมิได้นี้คือ
ฌานขั้นที่ ๑. เมตตาเจโตวิมุตติ
แปลว่า จิตอันหลุดพ้นไปจากข้อมูลของระบบอายตนประสาทอย่างสิ้นเชิงแล้วเปี่ยมเต็มไปด้วยความสงสารอ่อนโยนต่อสรรพสัตว์

ฌานขั้นที่ ๒. กรุณาเจโตวิมุตติ
แปลว่า จิตอันหลุดพ้นไปจากข้อมูลของระบบอายตนประสาทอย่างสิ้นเชิง แล้วประกอบไปด้วยความตั้งใจช่วยเหลืออย่างอ่อนโยน ต่อสรรพสัตว์
พระโพธิสัตว์ทั้งหลายที่เป็นสัญลักษณ์อารมณ์ของพระพุทธเจ้า อุบัติไปจาก ฌานของพระพุทธเจ้าชั้นนี้เอง โดยเฉพาะ...พระอวโลกิเตศวร หรือ เจ้าแม่...กวนอิม !!!

ฌาน ขั้นที่ ๓. มุทิตาเจโตวิมุตติ

ฌาน ขั้นที่ ๔. อุเปกขาเจโตวิมุตติ
เจโตวิมุตติ...จิตใหญ่ที่เป็นอิสรภาพเหนือระบบอายตนประสาทปกติ...
ถูกปราชญ์ผู้คิดคด ทรยศคำสอนตรงของพระพุทธเจ้า...
มันตัดออกจนคนรุ่นหลังก็เชื่อตามๆกันมาว่า...
พรหม คือผู้ใหญ่ ประกอบด้วย
เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา พอ
ไม่ต้องมีศัพท์เทคนิคต่อท้าย
ก็เพื่อมัน พวกมันจะได้เอามาสร้างระบบอุปถัมภ์อันเลวทราม เอารัด เอาเปรียบสังคมกลุ่มอื่นๆ
จน..ร่มพระบรมโพธิสมภาร วินาศ ฉิบหายวายวอด ในวันนี้ นั่นเอง.
!!!!!




Jaruvat Chanposri    ชัดเจนครับอาจารย์


Prirot Meepa    แสดงธรรมมีปาฏิหารย์ .ครับ


Atthanij Pokkasap  ใช่ครับ "คุณธรรม" ที่ภาษาไทยมันเอาไปใช้ ต่ำเละเทะครับ "คุณธรรม"ในพระพุทธศาสนาท่านหมายถึง การฝึกจิตมาถึงขั้น "เสพสุขอันเป็นปัจจุบัน" คือ...สุขในฌานสมาบัติและอภินิหารจากสมาบัตินี้ต่างหาก ที่พระบาลีเรียกว่า "คุณธรรม"...ครับ


Sura Roy    ท่านกล่าวว่าควรยินดีและชื่นชม...แต่ปัจจุบันมีคนบอกว่าอวดอุตริ....ผิดถึงขั้นปาราชิก.


Atthanij Pokkasap  คนแบบนั้นต้องกำจัดทิ้งด้วยอำนาจ " ฌานวิสัย" เด็ดขาดครับ...เพื่อพิทักษ์ความจริงแห่งธรรม....คุรุที่ไปถ่ายทอดเผยแผ่ธรรมที่ธิเบต..เรียกอำนาจพิทักษ์ความจริงแห่งธรรมนี้ว่า "ยิดัม" ครับ


Atthanij Pokkasap  ตอนนี้ ลองกลับไปอ่าน..ปฐมสมโพธิ ตอน มารพันธปริวัตต์...จะเข้าใจดีขึ้น..พวกนี้เอง คือ "มาร" ที่มาปิดบังธรรม แล้วก็มี มาร ที่บิดเบือนธรรม พวกที่กล่าวร้ายธรรมนั้น ท่านเรียก พวกเดียรถีย์ ครับ !!!


Atthanij Pokkasap  "ผู้ไม่เหินห่างฌาน ได้ชื่อว่า ผู้ปฏิบัติตามคำสอนเราตถาคต"....ยังหา..บทต้นกำเนิดที่มา ไม่เจอ ครับ.. เด๋วคงได้เปิดเผย ตีแผ่... พวกมารปิดบัง.. พวกมารบิดเบือน และพวก..เดียรถีย์ ที่กล่าวให้ร้ายคำสอน กัน ครับ


Chanasorn Suadprakorn    เอาด้วย ๆ ว่าง ๆ อ่านพระไตรปิฏก จากเว็บ 8400 ดีกว่า


พรหม อยู่สูงกว่า เทวดา




Atthanij Pokkasap 



Brahma over Devata : Part 1

พรหม อยู่สูงกว่า เทวดา



สถานภาพของพรหม แสดงถึงสภาวะจิตที่สูงส่งมีอิสรภาพ เหนือการครอบงำของประสบการณ์ทางอายตนะ(ตา หู จมูก ลิ้น กาย)

สังคมไทย ชอบนำความสูงส่งทางสภาวะจิตที่เป็นอิสระพ้นไปจากระบบอายตนะทั่วไปชี้นำ นี้ว่า เป็นความถึงความเป็นผู้ใหญ่ เป็นคติคำสอนที่มาของ ระบบอุปถัมภ์ อันเหลวแหลกเละเทะของสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย
เพราะ การอุปถัมภ์ โดยอาศัยข้อมูลทางใจที่พ้นไปจากการครอบงำของข้อมูลทางอายตนะ
คนแก่ไทย คนมียศศักดิ์สูงใหญ่ในสังคมไทย ไม่เคยพัฒนาปัญญาเรียนรู้ ความหมายของพรหม ตามนิยามเป็นจริงของโบราณ
พรหม...ตามคติไทย จึงเป็นคติความเชื่อที่บิดเบือนคติความจริงของพระพุทธศาสนา จนทำให้เกิดระบบอุปถัมภ์ข้ามขั้นตอน เป็นความเชื่อที่ผิดและเลวทรามอย่างที่สุด


พรหม เหนือกว่าเทวดา อย่างไร ?
เทวดา นั้น เป็นมหาชีวิต..มีสภาวะจิตอาศัยระบบอายตนะอันเป็นทิพย์ คือ อาศัยข้อมูลทางอายตนะที่ละเอียดอ่อนมากๆ ความประณีตละเอียดอ่อนมากๆที่ว่า "ทิพย์" นี้ เป็นที่มาของ....
หิริ = ความละอายต่อบาป, ความเคารพตนเอง และความรู้จักหน้าที่ตนเอง ตามจารีต ประเพณี วัฒนธรรม และตามกฎหมาย
โอตตัปปะ = ความสะดุ้งกลัวต่อบาป, ความเคารพผู้อื่น เคารพสังคม และความรู้จักหน้าที่ของตนเองที่พึงเอื้อเฟื้อต่อ จารีต ประเพณี วัฒนธรรม และต่อกฎหมาย


เพราะความสิ้นคิดไร้ปัญญา
เชื่อถือตามๆกันมาผิดๆ ไม่รู้ว่า...
เทวดาคือหน้าที่ตามธรรม(หิริโอตตัปปะ)คุ้มครองสังคม คุ้มครองโลก(โลกปาลธรรม) ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องยาก
มันจึงสร้างคติความเชื่อ...
ข้ามหัวเทวดา อวดอ้างตัวเป็นพรหมกันหมด
ตามสันดานระยำ...
คือ ชอบความเป็นใหญ่ แต่ไม่รู้หน้าที่
ระบบอุปถัมภ์ ที่มาจากพรหม...ด้วยความเชื่อผิดๆนี้เอง ทำลายสังคมไทย ทำลายความมั่งคั่งทั้งหมดของสังคมไทย
ความเหลวเละในสังคมไทยวันนี้
ใครและระบบใดๆมันก็แก้ไขไม่ได้ทั้งสิ้น
ถ้ายังไม่กำจัดความเชื่อบัดซบของพวกพรหมกากที่สร้างระบบอุปถัมภ์ไร้สมอง
เหล่านี้ออกไปจากสังคมไทย
เทวดายังเป็นไม่ได้...
สะเออะยกตัวว่าเป็นพรหม
ฉิบหายสูญชาติไปเลยเถอะครับ
เมื่อยังมีคติความเชื่อแบบผิดๆมากมาย
อยู่อย่างนี้


บุ๊ง ฟิสิกส์    สนับสนุน ถูกใจ


Seree Moto    คนทุกวันนี้ไม่รู้จักใช้ อุเบกขา ใช่ไหมครับ


Atthanij Pokkasap  เปล่าเลย..

มันไม่รู้หน้าที่ของความเป็นคนของมันเองต่างหากละครับ


หายใจแบบกักลมอัสมิตา สูตร ๒


Atthanij Pokkasap



สมดุล แห่ง อวัยวะทั้ง๕(หัวใจ ปอด ตับ ม้าม ไต) เอกภาพแห่ง ๓ ประสาน(หัวใจ น้ำดี ตับ) คือ

ประสิทธิภาพสูงสุดของ กาย-ใจ !!!

ใครกำลังป่วย ไม่สบาย ทั้งที่ออกกำลังกาย ...จนจะบ้าตายอยู่แล้ว..

เลิกออกกำลังกายตามหมอปัจจุบันมันแนะนำด่วนเลย....

หัดนอนหงายราบ...หายใจ แบบกักลมอัสมิตา สูตร ๒ คือ

นุ่ม-เบา-ยาว-ช้า ออก-ออกสุด เข้า-เข้าสุด วันละ 10-20 นาที... โรคที่ทำให้หมอมันมีงานทำ...หาย ได้ครับ

 


Atthanij Pokkasap  ใครกำลังป่วย ไม่สบาย ทั้งที่ออกกำลังกาย ...จนจะบ้าตายอยู่แล้ว..
เลิกออกกำลังกายตามหมอปัจจุบันมันแนะนำด่วนเลย....
หัดนอนหงายราบ...หายใจ แบบกักลมอัสมิตา สูตร ๒ คือ
นุ่ม-เบา-ยาว-ช้า ออก-ออกสุด เข้า-เข้าสุด วันละ 10-20 นาที... โรคที่ทำให้หมอมันมีงานทำ...หาย ได้ครับ


Chanasorn Suadprakorn    ก่อนนอน หรือระหว่างวัน วิธีนี้เหมาะดีครับ


Atthanij Pokkasap  แล้วแต่สะด๊วก


ญามาวิถี สมุนไพร    ขอแบ่งปันค่ะครู


Jeerapun Chomchoey    ขอเเชร์ด้วยครับ ขอเเบบวิธีฝึกเพื่อรักษาโรคด้วยครับ


Atthanij Pokkasap  อย่างง่ายที่สุด ก็ตามโพสต์ นี้ล่ะครับ


จิตที่เข้มแข็ง เสมือน อัศวินที่เป็นยอดขุนศึก และ ระบบการหายใจที่ทรงคุณภาพ เสมือน ม้าศึกที่ฉลาดทรหด ทรงพละกำลังและฝีเท้าจัด


Atthanij Pokkasap 



จาก..โพสต์ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗
ไต..เป็นแหล่งผลิตสารชื่อ..
อีริโทรพอยเอติน เป็นสารกระตุ้นการผลิต
เม็ดเลือดแดง

แต่ถ้าเม็ดเลือดแดงคุณภาพต่ำเหมือนรถบรรทุก
ไม่มีมาตรฐานบรรทุก(อ็อกซิเจนและเกลือแร่)
ทั้งการขับเคลื่อนก็สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมาก
เม็ดเลือดคุณภาพต่ำ การขนบรรทุกก็ไร้ประสิทธิภาพ
ยา และ อาหารเสริม ไร้ประโยชน์ทันที...!!!

อัศวินผู้ขี่ม้าเมื่อเป็นยอดขุนศึก ย่อมเลือกม้าศึก
สายพันธุ์ดีทรหดทรงพละกำลัง และฝีเท้าจัดฉันใด..
จิตที่เข้มแข็งย่อมเลือกระบบการหายใจที่ทรงคุณภาพ
และมีระเบียบวินัยเข้มแข็งมากเช่นกัน ฉันนั้น
และม้าศึก ที่ฉลาด เข้มแข็ง ทรงพลังฝีเท้าจัด
ก็ชอบที่จะเลือก อัศวินที่เป็นยอดขุนศึก ยอดฝีมือเช่นกัน
เม็ดเลือดแดง คือ อุปกรณ์การรบของอัศวินยอดขุนศึก
ที่มีแต่ม้าศึกที่ฉลาดทรหด ทรงพละกำลังและฝีเท้าจัดเท่านั้น
ที่จะเป็นภาระขนไปได้....
รู้จักอานุภาพแห่งลมหายใจเข้า ลมหายใจออก
ของความเป็นมนุษย์กันได้แล้ว...


ขี้โรคทั้งหลายเอ๋ย....
ยา และอาหารเสริมใดๆก็ช่วยเจ้าไม่ได้
หากจิตใจพวกเจ้ายังอ่อนแอ
ลมหายใจของพวกเจ้า
เจ้าก็ยังปล่อยปละละเลยให้ขาดหายเป้นห้วงๆ
นับว่า พวกเจ้าแท้จริง...
คือพวกทำลายคำสอนเรื่อง
การฝึกอบรมจิต(สจิตตปริโยทปนํ)ของพระพุทธศาสนา นี่เอง
หาใช่ใครแต่ที่ไหนไม่!!!




Atthanij Pokkasap  ปฏิบัติธรรมตามอุปาทานความรู้สึกคิดเอาเอง..บิดเบือน ความมีอยู่จริงของร่างกายที่ดำรงได้ด้วย กวฬิงการาหาร.มะเร็งมันถึงเจริญ...


Prirot Meepa   อุตะ.!


Atthanij Pokkasap  สมดุล แห่ง อวัยวะทั้ง๕(หัวใจ ปอด ตับ ม้าม ไต) เอกภาพแห่ง ๓ ประสาน(หัวใจ น้ำดี ตับ) คือประสิทธิภาพสูงสุดของ กาย-ใจ !!!


Prirot Meepa    คนเป็นโรคไต. ถึง มีผิวสีคล้ำ. แสดงว่าเลือดขาด
ประสิทธิถาพ. ใช่ไหมครับ. อ.


Atthanij Pokkasap  เลือดรอเวลาข้น หนืด...ไขมันพอก งาบๆๆ...ครับ


ฐิติยาพร พรวิริยางกูร    คนที่ป่วย..เป็นโรคไต...ถึงขั้นฟอกไต......ถ้ายังมีบุญบารมีพอ...จะมีโอกาสรู้จักฝึกกักลมอัสมิตา...แล้วเขายังมีแรงที่จะทำการฝึกกักลม.....จามีทางหายจาก....ทุกโรค....?


Prirot Meepa    หวังอย่างนั้นเหมือนกันครับ


จินตนิยายกำลังภายในของจีน...นำปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนานี้เองไปประยุกต์เป็นสารพัดวิทยายุทธ




Atthanij Pokkasap


วิทยายุทธ

เป็นเรื่องประสิทธิภาพจากความสัมพันธ์

ระหว่างกายกับจิตที่จะก่อบุญกรรม

ขนาดใหญ่...มีถ่ายทอดมาตลอดสาย

นวางคสัตถุศาสน์ กลุ่มชาดก ครับ


จินตนิยายกำลังภายในของจีน นำปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนานี้เองไปประยุกต์เป็นสารพัดวิทยายุทธ

วิชากำลังภายใน อย่างซื่อสัตย์ต่อรูปแบบที่มา แตกต่างจากบางชาติ ทีมีแต่ความคิดคดทรยศ 

บิดเบือน จนกระทั่งจากประเทศที่สังคมอุดมสุขมากล้นด้วยความมั่งคั่ง กลับกลายเป็น 

ดินแดนแห้งเหือด ไร้ป่า ไร้ต้นน้ำลำธาร ไปแล้ว...ก็ยัง ไม่หยุดอุบาทว์จัญไรในการกระทำที่มาจากการคิดคดนั้นๆ



Atthanij Pokkasap  สำนวนว่า "พระราชา ๑๐๑(ร้อยเอ็ด)"...ในพระบาลี หมายถึง กษัตริย์ทั้งโลกในยุคนั้น ครับ


Suphol Nilphet    ลุงละตอนจบเป็นยังไงนะ


Atthanij Pokkasap  พระยายักษ์โปริษาท ก็คือ พระเจ้าพรหมทัต รัชกาลก่อน ที่ฝึกวิชายุทธแล้วธาตุไฟแทรก ต้องดื่มเลือดกินเนื้อคนรักษาอาการเป็นระยะ...โดยเฉพาะ เลือดเนื้อของพวกนักการเมืองการปกครองชั้นหัวหน้า(พวกนี้กินอาหารดีๆแล้วคุณค่าอาหารดีตกค้าง )

ร้อนถึง พระโพธิสัตว์ มาเกิดเป็น หลานเข้ารับตำแหน่งพระเจ้าพรหมทัตองค์ถัดมา ต้องกำจัดภัยให้กับโลก...คือใช้ ลมปราณคุณธรรม หรือ ลมปราณปรัชญาปารมิตา(ทศบารมี) รักษา เสด็จลุง ที่ไฟธาตุแตก จนได้สติ...ฟื้นความเป็นปกติกลับคืนมา...ก็พากันออกบวชเป็นฤๅษี....จบประมาณนี้ นะ


Panu Wongpanuvut    นึกว่า ๑๐๑ คือทั่วชมพูทวีป(มิตินี้) 


"นะ โม (เมา) พุ ทธา ยะ"...พระเจ้า ๕ พระองค์ แห่ง "ภัทรกัป"


เอาที่ลอกเลียนกันผิดๆเลยดีกว่า

นะ โม(เมา) พุ ทธา ยะ

พระเจ้า ๕ พระองค์ แห่ง #ภัทรกัป...คือ ๑ คาบอายุขัยดาราจักรทางช้างเผือกนี้ แบ่งคาบอายุออกเป็น ๕ ส่วน แต่ละช่วงเวลาจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ๑ พระองค์ตามลำดับ
ส่วนที่๑ ก่อนใคร พระพุทธเจ้าองค์แรกคือ พระกุกกุจฉันโทสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนที่๒ คือพระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนที่๓..คือพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
และส่วนที่๔..คือพระโคตมะสัมมาสัมพุทธเจ้าของชาวเรา

ในอายุกาลของทางช้างเผือกนี้..
พระกุกกุจฉันโทสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คือ "องค์ปฐม" ของภัทรกัปนี้
มีภาวะทรงฌาน(ฌานิพุทธ)เรียกว่า พระมหาไวโรจนพุทธ(ต้า ยิก ยูไล..พระตถาคตตะวันดวงใหญ่) คือนาคปรกขอม ที่ทรงเครื่องสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่๗
มีเกจิที่ศึกษาไม่ถึงจับมามั่วแต่งเรื่องเป็นองค์ปฐมแรกสุดของพระพุทธเจ้าทั้งหมดขึ้น...เออเนอะ มันรู้มากกว่าพระพุทธเจ้า ครับ
พาสังคมไทยหลงทางลงนรกเป็นแถบๆอยู่ขณะนี้เกินเยียวยาไปแล้ว ครับ.

cr; ครูนิช

เท็คนิคการเจริญอิทธิบาท ๔ คือ เท็คนิคการพัฒนาข้ามระบบอายตนประสาทที่ประสิทธิภาพจำกัด




Atthanij Pokkasap 


เท็คนิคการเจริญอิทธิบาท ๔...
ซึ่งก็คือ เท็คนิคการพัฒนาข้ามระบบอายตนประสาทที่ประสิทธิภาพจำกัด ครับ !!!               

(จาก โพสต์ก่อนหน้า...จ. 18 เมษายน 2016)
การเป็นอิสระภาพไปจากข้อมูลประสบการณ์
ทางอายตนประสาททั้งระบบ
ในช่วง กวฬิงการาหารดับ เป็นปัจจัยให้ กามคุณ ๕ ดับ นี้แหละ คือการก้าวล่วงสู่
ปฐมฌาน...ฌานที่ ๑ ในสัมมาสมาธิ
ที่ชื่อว่า..

๑. วิมุตตายตนะ(๕)...อายตนะอันหลุดพ้นการครอบงำของอินทรีย์ ๕ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)
๒. อภิภายตนะ(๘)..อายตนะอันเหนือกว่าอายตนะสามัญ(Normal Senses)
๓. กสิณายตนะ(๑๐)...อายตนะที่มีพลังงานเหนือแรงเหนี่ยวนำของกามคุณ๕ จากประสบการณ์อาตนประสาทสามัญ(Sensation of Normal Senses) คือ..Mind over Force Field
๔. วิโมกข์ (๘)...อายตนะที่หลุดพ้นไปจากประสบการณ์ทั้งมวลของอายตนประสาทสามัญ
ฯลฯ

ถ้า เป็นภาษาอังกฤษ ก็คงประมาณเป็น...
Supramental Mind over Senses & Sensation
อะไรประมาณนี้ ล่ะครับ
เหล่านี้ เป็นศัพท์เทคนิคในการฝึกจิตให้ขาวสว่างรอบ (สะจิตตะปริโยทะปะนัง) ที่หายไปจากพจนานุกรมพระพุทธศาสนา ทั้งหมดในปัจจุบัน.....

และเป็น "ญาณ" เป็นประสบการณ์ทางจิต
"อุตริมนุสสธรรม"
ตามความหมายของพระพุทธศาสนา....
ที่ความรู้ในระบบอายตนะประสาทปกติ
เข้ามา "เสือก" ตัดสินพิพากษา...เพ่นพ่านเต็มไปหมด ในขณะปัจจุบัน นี้ ครับ



Atthanij Pokkasap  ฉะนั้น...การฝึกจิตให่ขาวสว่างรอบ...จึงเป็นอะไรไปไม่ได้ คือ
ขาวสว่างรอบเพราะเป็นอิสระเหนือข้อมูลของประสบการณ์ทางอายตนประสาททั้งระบบ...ที่ประมวลผลไว้ในสมองส่วนล่างหลังกระบอกตา และทำงานร่วมกับหัวใจ แต่ฝึกให้หัวใจเป็นผู้สั่งงาน ไม่ใช่ให้สมองที่อาศัยอายตนะแล้วมาสั่งงาน...ครับ


Atthanij Pokkasap  ที่ว่ายเวียนอยู่ในกิเลสตัณหา ก็เป็นหัวใจสั่งงานภายใต้การเข้าไปปรุงแต่งแล้ว คือ มโนธาตุจากหัวใจ ไปเป็น "มโนวิญญาณ" ที่เสพกามคุณ ๕ จากข้อมูลของสมองส่วนล่าง เป็นจิตที่ประกอบกิเลสตัณหา ไปแล้ว...


Panugon Pla    สาธุๆๆ


Atthanij Pokkasap  ที่ฝึก คือฝึกตัดตอน มโนวิญญาณ จากมโนธาตุ ไม่ให้เช้าไปมิกซ์ ข้อมูลประสบการณ์ของอายตนะในสมองส่วนล่าง ครับ


Atthanij Pokkasap  นี้คือ สมองส่วนล่างที่เก็บข้อมูลประมวลผลจากอายตนประสาททั่งระบบ...(ใจก็เก็บบันทึกตามไว้ด้วย แต่เป็นการเก็บภายใต้การสั่งการ..ที่ ต้องปลดเปลื้องด้วยเท็คนิคที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ)


Happy Joe    ที่มีผู้รู้กล่าว เรื่อง ปฏิสนธิวิญญาณ มิใช่ วิญญาณในขันธ์ ๕ ...
ท่านอาจารย์เมตตาขยายความด้วยขอรับ


Atthanij Pokkasap  ขันธ์ ๕ นับตอน เกิดนามรูป แล้ว
นามรูป และวิญญาณ เป็นปัจจัยอาศัยกัน เกิดพร้อมกัน ผู้รู้ท่านรู้ด้วยการคิดเอง เออเองแล้วครับ


Happy Joe    แล้วจิต ที่หลุดพ้น นี่อยู่ในขันธ์ ๕ หรือไม่ครับผม..


Atthanij Pokkasap  จิตที่หลุดพ้น...เป็น "วิญญาณ"ที่อาศัยนามรูป เป็นปัจจัย คือวิญญาณ ที่..ณ ที่นี้เรียกไปก่อนหน้าแล้วว่า เป็น "จิตสังเคราะห์กาย "..หลุดพ้น จะมี
๑. หลุดพ้นจากการครอบงำของข้อมูลประสบการณ์ทางอายตนะ ที่เรากำลังอยู่ในโพสต์ตอนนี้ แล้วก็มี..
๒. หลุดพ้นจาก ตัณหา แล้วก็มี
๓. หลุดพ้นไปจากอาสวะทั้งปวง
เราอยู่ใน ข้อ ๑. อยู่นะครับ


Atthanij Pokkasap  คือทั้งหมดยังอยู่และต้องอาศัยขันธ์ ๕ ครับ


Happy Joe    แต่มิใช่ขันธ์ ๕?


Atthanij Pokkasap  อย่าสับสนตามการคิดคดของพวกมันสิครับ


Happy Joe    ครับผม..สาธุ ผมหลงมานาน อาจารย์โปรดอดโทษด้วย วาทะพุทธแบบนี้มีเยอะจริงๆ ในกระแสเถรวาทบ้านเรา..


Atthanij Pokkasap  จิต ของคนพวกนั้น ...ความรู้สึก(เวทนา)ที่เป็นอุปาทาน(กำหนดขึ้นมาเอาเอง) ล้วนๆ....มะเร็ง พอกับ จักระ ทั้ง ๗ ของพวกคลั่งลัทธิโยคะ ครับ


Happy Joe    สาธุๆๆๆ แจ่มแจ้งแล้วครับกระผม


Pantipa Chanate    สาธุคะขอแชร์คะ


การเป็นอิสระภาพไปจากข้อมูลประสบการณ์ทางอายตนประสาททั้งระบบ คือการก้าวล่วงสู่ "ปฐมฌาน"


Atthanij Pokkasap 


การเป็นอิสระภาพไปจากข้อมูลประสบการณ์
ทางอายตนประสาททั้งระบบ
ในช่วง กวฬิงการาหารดับ เป็นปัจจัยให้ กามคุณ ๕ ดับ นี้แหละ คือการก้าวล่วงสู่
ปฐมฌาน...ฌานที่ ๑ ในสัมมาสมาธิ
ที่ชื่อว่า..

๑. วิมุตตายตนะ(๕)...อายตนะอันหลุดพ้นการครอบงำของอินทรีย์ ๕ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)
๒. อภิภายตนะ(๘)..อายตนะอันเหนือกว่าอายตนะสามัญ(Normal Senses)
๓. กสิณายตนะ(๑๐)...อายตนะที่มีพลังงานเหนือแรงเหนี่ยวนำของกามคุณ๕ จากประสบการณ์อาตนประสาทสามัญ(Sensation of Normal Senses)
๔. วิโมกข์ (๘)...อายตนะที่หลุดพ้นไปจากประสบการณ์ทั้งมวลของอายตนประสาทสามัญ
ฯลฯ

ถ้า เป็นภาษาอังกฤษ ก็คงประมาณเป็น...
Supramental Mind over Senses & Sensation
อะไรประมาณนี้ ล่ะครับ
เหล่านี้ เป็นศัพท์เทคนิคในการฝึกจิตให้ขาวสว่างรอบ (สะจิตตะปริโยทะปะนัง) ที่หายไปจากพจนานุกรมพระพุทธศาสนา ทั้งหมด
ในปัจจุบัน.....

และเป็น "ญาณ" เป็นประสบการณ์ทางจิต
"อุตริมนุสสธรรม"
ตามความหมายของพระพุทธศาสนา....
ที่ความรู้ในระบบอายตนะประสาทปกติ
เข้ามา "เสือก" ตัดสินพิพากษา...เพ่นพ่านเต็มไปหมด ในขณะปัจจุบัน นี้ ครับ



ส่วนบนของฟอร์ม
Chachval Halumjeg    สภาวะธรรม
ถึง แก่นแท้ ถึงเนื้อ ถึงกระพี้ ถึงเปลือก ถึงผิว
ถึงกิ่ง ก้าน ใน ดอก ผล แต่
ไม่ถึงลำต้น ย่อมไม่มีแก่น


บุ๊ง ฟิสิกส์    ขออนุญาติแชร์ ครับ


Atthanij Pokkasap  หลังจากที่เข้าถึง จิตที่เกิดจากกายสังเคราะห์ และจิตที่สังเคราะห์กาย นี้ไปแล้ว ยังมีเท็คนิคการพัฒนาแสงสว่างแห่งจิตและเท็คนิคกาอ่านค่าความหมายคลื่นแสงสว่างระดับต่างๆอีกยุบยับไปหมด... ครับ
ภูมิทัศน์แห่งมรรค
ภูมิทัศน์แห่งผล...
ไม่ใช่มีแต่หัวข้อ(อุเทศ)ตามที่เห็นในบันทึก กากแต่มีรายละเอียดอีกมากมายในแต่ละระดับ..
ครับ...


บุ๊ง ฟิสิกส์    ขอบพระคุณครับ ทำให้ผมมีเป้าหมายในการศึกษาจิต และฝึกจิตในชาตินี้


Atthanij Pokkasap  ปฏิบัติเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่า...ใครคือ บัณฑิตคัมภีร์เปล่า
ใครคือ โมฆะบุรุษ ในคำสอนขิงพระบรมศาสดา ครับ


Atthanij Pokkasap  เป็นภูมิทัศน์ ในมิติต่างๆของจิต ตามนี้ครับ


บุ๊ง ฟิสิกส์    หิมวันต์แปลว่าอะไรครับ


บุ๊ง ฟิสิกส์    ตอนออกจากสมาธิ นี่สำคัญ หากออกแบบฉับพลันมีปัญหาแน่นอน


Atthanij Pokkasap  ท่านพระมหาโมคคัลลานะถูกประทุษร้ายขณะเพิ่งออกจาก
นิโรธสมาบัติ อดอาหาร ๗ วัน ครับ


Atthanij Pokkasap  หมายถึงเทือกเขาหิมาลัย...จะมีการกล่าวชัดเจนว่าตอนไหน คือ
เขาหิมาลัย ตอนไหนคือ เขาพระสุเมรุ ครับ


บุ๊ง ฟิสิกส์    ขณะที่ถอยออกจากสมาธิ ถ้าถอยออกเร็วส่งผลเสียเรื่องไหนครับ ในความรู้สึกผม คือ เรื่องความจำ จะขาดเป็นช่วงๆ หากถอยออกมาเร็ว


Prirot Meepa    ตามอ่านอยู่ ครับ อาจารย์


บุ๊ง ฟิสิกส์    กระจ่างเลยครับ ขอบพระคุณครับ ธรรมะส่องใจ


Prirot Meepa    ปูชาจ ปูชนียานัง ฯ


Chinnapat Khemrat    อิเหนาแทงกริช


Prirot Meepa    บอกอย่างไม่อาย. หน้าด้านหน้าทน


Atthanij Pokkasap  ผลงานที่ออกมาจากสภา เยี่ยงนี้....
จะไม่ต่าง ฝนเหลือง ที่ อเมริกันใช้ในสงครามเวียดนาม

ส่วนล่างของฟอร์ม