Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Monday, January 16, 2017

90.Breaking Dharma ; Special PART






Breaking Dharma ; Special PART !!!



แรม ๗ ค่ำ เดือน ๑๑ พุธ ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๗


เสนอ...

อีกหนึ่งเคล็ดลับ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด
ของ อานาปานสติสมาธิกรรมฐาน ที่สืบทอดมาเฉพาะ..ภายใน..ที่...
ต้องเปิดเผย เมื่อ..มีผู้สนใจไฝ่รู้จริงมาถึง..!!!










...กระหม่อม...ที่เป็นที่ตั้งของ ลมปราณจันทระกลา ศูนย์กลางโยคะธาตุเย็นที่รักษาสมดุลของทวารทั้ง ๙ ร่วมกับ 
ลมปราณสูรยะกลา..ซึ่งมีศูนย์กลางโยคะธาตุร้อนอยู่ที่สมองส่วนล่างส่วนที่ประมวลผล...
การประมวลผลที่ต้องใช้ข้อมูลเปลี่ยนถ่ายกันไปมานับล้านๆข้อมูลในเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยววินาที
ทำให้เซลล์เกิดความร้อน (เหมือนชิป คอมพิวเตอร์ ต้องมีพัดลมระบายความร้อนและประกอบด้วยพื้นที่รองรับข้อมูลที่เหมาะสม  มิฉะนั้นชิปจะระเบิด..เซลล์ในสมองส่วนล่างของมนุษย์ก็เช่นกัน)...


...อำนาจคิดหาเหตุผลเชิงคณิตศาสตร์  เป็นส่วนหนึ่งของอำนาจจิตพื้นฐาน...
การยอมรับของนักคณิตศาสตร์ในกลางคริสตศตวรรษที่ 20 
เป็นผลมาจากการพิสูจน์พบทฤษฎีควอนตัมสัมพัทธภาพ 
แต่ยังไม่มีการทราบว่า เวลา คือลำดับเหตุการณ์  ตัวเลขคือสัญลักษณ์ของลำดับเหตุการณ์  เป็นโครงสร้างของ จิต!!!




...หายใจถึงที่สุดแห่งธรรมชาติของสรีระร่างกาย ทั้งหายใจเข้า และหายใจออกได้เมื่อไหร่...สมาธิจะปรากฏเองโดยประสิทธิภาพของลมหายใจที่ละเอียดลึกยาวอย่างยิ่งยวดนั้นเอง..
เพราะประสิทธิภาพสูงสุดของลมหายใจเข้า+ลมหายใจออกเป็นคุณสมบัติโดยตรงของ...
จ ตุ ต ถ ฌ า น (ฌานที่ ๔) คือ..ที่เท็คนิคที่..ท่านเรียกว่า "กายสังขารสงบรำงับ" นั่นเอง...

...เราหายใจตามกิเลสมามากเกินไปแล้ว...จึงบอกว่าต้องสะสสม...ลมหายใจขนาดค่ามโหฬารมากที่ร่างกายขาด
เพราะมัวแต่หายใจตามกิเลส...ครับ

...ลมไอ...ลมขากเสลด...ที่ลำคอน่ะ...อานุภาพความเร็วแรงเท่าพายุทอร์นาโดนะครับ...
หลายคนไม่รู้...ความเร็วลมมากกว่า ๒๐๐ กม/ชม.
และนี่คือ สาระแท้จริงของลมหายใหญ่คุณภาพ..กายไม่ลำบาก ตาก็ไม่ลำบาก..หมายถึง 
โรคทางกาย โรคทางตา..จิตควบคุมได้หมด แม้จะมาจากกรรม..!!!




...เซลล์ทั้งร่างกายเราทำงานที่จำนวน 10 ยกกำลัง ๑๔ คือ ๑๐๐ ล้านล้านเซลล์นะครับ...ถ้าคุมการทำงานคือกระบวนการสันดาปเพื่อปลดปล่อยพลังงาน (Metabolism) ได้จำนวนกว่า ล้านเซลล์ขึ้นไป..พลังงาน ล้านหน่วย ไม่เล็กแล้วนะครับ....

สักกัตวา สังฆะระตะนัง, โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง
สงฆ์ คือรัตนะ อันเป็นโอสถประเสริฐสูงสุด

อาหุเนยยัง ปาหุเนยยัง, สังฆะเตเชนะ โสตถินา
ควรค่าแก่การกราบไหว้ แก่การเข้าหาใกล้ชิด มีความสวัสดีเป็นเดช

นัสสันตุปปัททะวา สัพเพ โรคา วูปะสะเมนตุ เต ฯ
ย่อมกำราบอุบาทว์ และ โรค ทั้งหลายในปราศนาการไป...!!!

ปฏิบัติการนี้...เพื่อการสัมผัสถึงคลื่นพลังงานแห่งพระอริยสงฆ์ ผู้เข้าถึงย้อมหายจากการเป็นโรค 
และอุบาทว์ทั้งหลายไม่อาจกล้ำกราย....สวดมนต์ คนละเรื่องกับปฏิบัติการเพื่อการพิสูจน์พบ ครับ!!!
ดีใจ ที่ทุกท่านสนใจ...




...ศาส์นแห่งพระชินสีห์..
เป็นศาสตร์ของนักรบ (โยธาชีวะ)
ถ้าต้องแพ้...ก็ขอไปตายในสนามรบ
ไม่มีปรองดองหรือทำตัวเป็นกลางกับกิเลส เด็ดขาด...
ราชอาณาจักรไทย...ผิดทิศทางไปจากยุทธศาสตร์และยุทวิธีแห่งการศึกของพระพุทธศาสนาอย่างสิ้นเชิงแล้ว...
สังเวชนัก! สังเวชนัก!




...ค่อยๆสะสมศักยภาพเอา..
ลมปราณเก้าอิมจินคี่...คัมภีร์ เก้าอิม กล่าวถึงความเย็นแห่งทวารทั้ง ๙ เมื่อลมปราณส่วนบนสมบูรณ์

...ปู่กะลา ย่ากาลี คือมนุษย์กึ่งยักษ์ผู้รักษาป่าช้าสมัยพุทธกาลมีหน้าที่ถือกระบองตุ้มใหญ่ เดินฟาดกระโหลกคนตายเพื่อให้ปราณที่คั่งค้าง กระจายวิญญาณจะได้ลอยออกจากร่างอย่างสมบูรณ์ มีพลังไปเกิดใหม่...เคยรู้เรื่องกันที่ไหน

...นั้นคือการปลดปล่อยพลังเย็น ออกจากทวารทั้ง ๙ แต่ตกค้างมากที่สุดที่กระหม่อม  
เพราะ ความลับของลมหายใจ...เป็นเรื่องของปราชญ์ชาวพุทธ...ที่รับการถ่ายทอดภายในเฉพาะ ไม่ทั่วไป....

...ธรรมชาติเกิดจากการฝึกสะสม ไม่ใช่มากำหนดเอาตามความรู้สึกที่เป็นอุปาทาน...




                                                                                                      ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
             
  


* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap

No comments: