Breaking Dharma PART 67...!!!
....
ตอน
การทำตนให้ลำบากเพื่อกำจัดความชั่วช้าทั้งหลาย
เป็นหน้าที่โดยตรง
ของผู้ปฏิบัติธรรม
คำสอนของพระศาสดา
ย่อมงอกงามโอชา
แก่สาวกผู้มีศรัทธา
ผู้หยั่งลงในคำสอน
ของพระศาสดาแล้วประพฤติ
ด้วยตั้งใจว่า
เนื้อและเลือดในสรีระของเรา
จงเหือดแห้งไป
จะเหลือแต่หนัง
เอ็น และกระดูกก็ตามที
เมื่อเรายังไม่บรรลุถึงอิฏฐผลที่พึงบรรลุด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ
ด้วยความบากบั่นของบุรุษแล้ว
จักคลายความเพียรนั้นเสีย
จักไม่มีเลย
...
... ...
เมื่อเธอตั้งตนเพื่อความลำบากอยู่
อกุศลธรรมย่อมเสื่อม
กุศลธรรมย่อมเจริญ
เมื่อประโยชน์นั้นของเธอสำเร็จแล้ว
สมัยต่อมา
ก็ไม่ต้องตั้งตนเพื่อความลำบากได้
อย่างนี้
ชื่อว่า ความเพียรมีผล
...
... ...
จาก
กีฏาคิริสูตร มัชฌิมปัณณาสก์ มัชฌิมนิกาย
ไตรปิฎก
สยามรัฐ เล่ม ๑๓/๔๕
(เป็นเรื่องการขับ
พระอัสสชิ และพระสุนัปปุพพะ ๒ ใน พระกลุ่ม ๖...ฉัพพัคคีย์ ผู้สร้างวัดเป็นผับแห่งความรื่นเริงบรรเทิงสถาน
มีการดักเชิญผู้เดินทางผ่านไปมาด้วยการคล้องพวงมาลัยให้เข้าไปเต้นร้องรำทำกินอย่างเพลิดเพลินสนุกสนาน
ครึกครื้น
ทั้งกลางวันและกลางคืน ณ กีฏาคิริชนบท ห่างจากพระนครสาวัตถีไป ๓๐ โยชน์ พระพุทธเจ้าต้องส่ง อัครสาวกทั้ง ๒ องค์
ซึ่งเป็น อุปัชฌาย์ของพระอัสสชิ
และพระสุนัปปุพพะ เดินทางมาขับไล่ ให้ออกจากสถานที่ และจากพระศาสนา
แล้วพระศาสดาก็เสด็จตามมาโปรดพระและญาติโยมที่หลงผิดที่หลงเชื่ออยู่ในคำสอนของอลัชชี
ทั้ง ๒ รูปนั้น)
พระสูตรใหญ่นี้สอนให้รู้ว่า...
การยอมเหนื่อย
ยอมเจ็บตัว
เป็นมาตรฐานของฝ่าย
ธรรมะ ครับ
ขอความเจริญในธรรมอันยิ่งใหญ่
ตามประสบการณ์แห่งการค้นพบของพระพุทธศาสนา จงบังเกิดมีแด่ทุกท่าน
ขอให้ความจริงใจอันบริสุทธิ์เป็นเกราะคุ้มกันภัยให้ทุกท่านพ้นจากอุบาทวภัยของพวกพาลชนทั้งหลาย
เทอญ
Atthanij Pokkasap อธิษฐาน
04:48
น.ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑
ศุกร์
๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๖
...ที่น่ารำคาญ
คือ
พวกโลกสวยสมองฝ่อในกรงที่เห่าหอนลั่นเฟซสนั่นเน็ต....มีมากเหลือเกิน
...สัตว์สังคมที่ไร้คุณภาพ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
No comments:
Post a Comment