Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Sunday, January 15, 2017

81.Breaking Dharma PART 80





Breaking Dharma PART 80...!!!
....


ตอน กำเนิดของพระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง
ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ.๒๑๓๓-๒๑๔๘)


ตำนานแห่งมหาวิชาธนุรเวท (Buddhatantric Myth of Scytheics)
๑ ใน ศิลปศาสตร์ ๑๘ ประการ ที่มีบันทึกคำบอกเล่าละเอียดที่สุด
กว่าศิลปศาสตร์ใดๆของตักสิลา โดยพระพุทธศาสนา คือศาสตร์ว่าด้วยเท็คนิคการสร้าง
อาวุธสงครามที่มีอานุภาพไม่จำกัดกาล

พระแสงปืนข้ามแม่น้ำสะโตง คือหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อม
ระหว่างตำนานจากสมัยพุทธกาล ก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑
เข้ากับ อานุภาพอาวุธสงครามสมัยกรุงศรีอยุธยาเรืองอำนาจ
ในช่วงกลางและปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๒

แล้วพัฒนาให้ราชอาณาจักรสยาม
กลายเป็นพ่อค้าอาวุธสงครามรายใหญ่รายแรกของโลก
พระแสงปืนฯ และดินปืนที่ทรงคุณภาพกว่า ของที่กำลังรบ
สัญชาติโปรตุเกส และฮอลันดา จากยุโรป
นำมาล่าอาณานิคมกลุ่มแรก ทำให้ชาวยุโรปสองชาติแรกนี้
ฉงนฉงาย ลดตัวลงเป็นเพียงกองทหารอาสาอยู่ในกองทัพ
ราชอาณาจักรสยาม เพื่อศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีอาวุธสงครามตัวนี้ !!!

สยามไม่ได้กระจอก ไม่ได้ปล้นวัฒนธรรมประเพณีชาติเล็กชาติน้อย
ที่เป็นเพื่อนบ้านทุกวันนี้อย่างที่นักวิชาการขายชาติบิดเบือน
เหยียบย่ำภูมิปัญญาแห่งบรรพชนผู้สร้าง "ร่มพระบรมโพธิสมภาร"
ที่มีขอบขัณฑสีมายิ่งใหญ่กว่า "ราขอาณาจักร" ใดๆในโลก
อย่างที่นักการเมืองที่มั่วสุมสร้างรัฐบาลขี้ขลาดตอแหลลวงโลก
อย่างที่กำลังเป็นอยู่...ฯลฯ

ถ้าไม่เคยรู้ว่า สยาม คือชาติที่หยุดความอหังการการเข้ามาล่าอาณานิคม
ของชาติยุโรป ๔ สัญชาติ ถึงสองครั้งใหญ่ๆ คือ โปรตุเกส ฮอลันดา
ที่เข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ.๒๑๓๓-๒๑๔๘)
กับฝรั่งเศสและอังกฤษที่พยายามเข้ามาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.๒๑๙๙-๒๒๓๑)
และทายาทขุมกำลังรบของกองทัพสมัยสมเด็จพระนารายณ์มีบทบาทมาจนถึง
สมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ.๒๓๖๗-๒๓๙๔)....ที่ยัน ฝรั่งเศสและ อังกฤษไว้...


ขอโทษครับ...!!!
อย่ามาแสดงภูมิว่ารู้ประวัติศาสตร์ของสยามกันเลย!!!!
แล้วก็ไม่ต้องมาว่า...ไอ้ "นายขยะ" คลั่งชาติด้วย!!!

(เค้าแค่คลั่ง...ความจริงตะหาก ว้อยยยย...)


Atthanij Pokkasap ละเมอ (ว่ะครับ)
08:24 น.ขึ้น๑๒ ค่ำเดือน ๓
วันอังคาร ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗




...กุมารสยามที่ขี่ม้าก้านกล้วย แก้ผ้าถือไม้วิ่งตีล้อวงขอบกระด้งก็มี แต่ที่ไปนั่งประดิษฐ์รีวอลเวอร์ลูกโม่ ได้พร้อมๆกะหัดนุ่งกางเกงก็มี....หอคอยงาช้างที่มากินแต่บุญเก่าจะไปรู้เรื่องอะไร

...มีหากินกับการผูกประวัติศาสตร์สนองสันดานตัวเองอยู่หนังสือพิมพ์มติชิน  มันแต่งเรื่องว่าลาวถูกสยามเผาพินาศในสมัย ร.๓ จนลาวฟื้นประเทศไม่ได้ถึงปัจจุบัน  ไม่รู้เลยว่ากองทัพสยามน่ะนะมันแตกแยกตั้งแต่สมัย ร.๑  ร.๒  ร.๓ คุมอยู่ที่ไหนล่ะ   
ร.๓ มีแต่กองกำลังรบของเจ้าคุณบดินทร์เดชาเท่านั้นหนุนหลัง...ความแตกแยกของกองทัพสยามต้นรัตนโกสินทร์ 
ทำลายประชาชนทุกชาติเผ่าพันธ์ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารจนถึงทุกวันนี้
ประวัติศาสตร์ที่เจ้าอนุวงศ์ประกาศพยายามแยกตนออกเพราะเจ้านายสยามที่แตกแยกนั้นมันระยำจริง....จุกยังไม่ทันตัดเลยก็กราดเกรี้ยวดูถูกเหยียดหยามกษัตริย์ประเทศราชอย่างถ่อยสถุล....แต่เมื่อโตขึ้นมันก็เอาเสบียงไปทิ้งอ่าวไทยจนทหารไทยที่ไปรบญวนที่กัมพูชาอดอาหารตายหลายหมื่นนาย  
แต่บั้นปลายก็ถูกวางยาพิษตาย.....สมควรแก่เหตุ....กองทัพสยามที่แตกแยกมาแต่ต้นยุครัตนโกสินทร์มันไม่ใช่ทำร้ายแค่ลาว..มันทำลายคนไทยทั้งชาติแบบรุ่นต่อรุ่น....
ถ้ามันจะหากินกับประวัติศาสตร์แบบไม่เอาเจ้า...มันก็ควรแยกแยะด้วย  เจ้าไทยมีชั่วมีเลว มีดี ยันกัน คละกันอยู่   ถ้าไม่มีดีเลย มันก็ไม่น่าจะได้อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารจนแก่แล้วบิดเบือนประวัติศาสตร์อยู่ในสารคดีช่อง ๑๑ หรอก....

...นักประวัติศาสตร์ขี้ข้า (Historist The Bond Slave)...ที่สารภาพไว้นับสิบปีมาแล้วว่ามันเองก็ไม่รู้ว่าสยามมาจากไหน...





                                                                                    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
   
  


* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap


No comments: