ตอน
ปฏิบัติการโยคะ ระดับห้องปฏิบัติการนิวเคลียร์ฟิสิกค์
โลกที่เราอาศัยอยู่นี้
เป็น
คอนตินิวอัมสี่มิติ ของอวกาศและกาล
(A
Four-Dimensional Space-Time Continuum)
...
... ...
คอนตินิวอัม
หมายถึงอะไรอย่างหนึ่งซึ่งมีความต่อเนื่องกัน
เช่น
ไม้บรรทัด เป็น คอนตินิวอัมหนึ่งมิติของอวกาศ
(a
one-dimensional space continuumm)
...
... ...
ในช่วงเวลาอันสั้นที่มนุษย์ได้ครอบครองโลกนี้
มนุษย์ได้จัดลำดับเหตุการณ์ต่างๆขึ้นในจิตของเขา
โดยกำหนดเป็นอดีต
ปัจจุบัน และอนาคต
โดยยึดตัวของเขาเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่..
เอกภพมิได้เพียงแต่ปรากฏอยู่ในสายธารแห่งความนึกคิด
ของมนุษย์เท่านั้น
โลกแห่งวัตถุนี้ มีอยู่จริง
และความล้ำลึกของเอกภพนั้น
จะเข้าใจได้
ก็ด้วยสติปัญญาอันสูงส่งเท่านั้น
เรา
จำเป็นที่จะต้องเข้าใจเรื่อง..
คอนตินิวอัม
๔ มิติ ของอวกาศก่อน
จึงจะสามารถเข้าใจความหมายของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปได้
และ..
จึงจะเข้าใจได้ถึงเรื่องเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง
ที่เรามองไม่เห็น
แต่เป็นตัวยึดเหนี่ยวสิ่งต่างๆในเอกภพเข้าไว้ด้วยกัน
และกำหนดรูปร่าง
และขนาดของเอกภพ.
จาก
บทที่ ๙ เอกภพและ ดร.ไอน์สไตน์
The
Universe and Dr.Einstein by Lincoln Barnett,1962
อะไรคือ
สติปัญญาอันสูงส่งเพื่อการเข้าถึงความจริงของธรรมชาติ
ตามที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าแห่งคริสตศตวรรษที่
20 นี้ได้กล่าวถึงไว้?
ขยายนัยโดยการเปรียบเทียบ (สัมพัทธ์)
;
พระพุทธศาสนาเรียก
ความต่อเนื่องว่า "สังขตะ (Sanฺkhata)"
เรียกการไหลเลื่อนของความต่อเนื่องว่า
"อิทัปปัจจยตา...Idappaccayata"
สังขตะ..เป็นที่มาของ
"สังขาร"
อิทัปปัจจยตา..มีศัพท์เทคนิคเรียกเป็นการเฉพาะขณะปฏิบัติการโยคะเพื่อค้นพบและพิสูจน์ว่า
*
ปฏิจจสมุปปาท (Patฺiccasamuppad) *...เป็นข่ายใยสืบเนื่องของ
เหตุเกิดแห่งทุกข์ (ทุกขสมุทัย..Dukkhasamudaya) ด้วย...
และเป็น เหตุการณ์กำเนิดเวลา, สนามเวลา (อัทธานปัญหา
มิลินทปัญหา) ด้วย
ฉะนั้น..
สิ่งที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าแห่งคริสตศตวรรษ
20 กล่าวถึงนี้..
คอนตินิวอัม
ก็คือ สังขตธรรม มีศัพท์เทคนิคเฉพาะว่า "อิทัปปัจจยตา"
และเป็นเหตุการณ์ที่ต้องค้นพบเพื่อการพิสูจน์
ในห้องปฏิบัติการโยคะฝ่ายพุทธที่ชื่อ
"ปฏิจจสุมุปปาท"
อวกาศ
ที่รองรับลำดับเหตุการณ์ พระพุทธศาสนาพิสูจน์โดยยกระดับจิต
สู่อรูปฌานขั้นที่
๑ เรียกว่า อากาสานัญจายตนะ (อายตนะ คือการสัมผัสเห็นความว่างที่เรียกว่า อากาส
สันสกฤตเรียก อวกาศ)
สู่อรูปฌานขั้นที่
๒ เรียกว่า วิญญาณัญจายตนะ (อายตนะ คือการสัมผัสเห็น วิญญาณ...คือจิต
ผู้ลำดับเหตุการณ์)
!!!
!!! !!!
การปรากฏของ
อรูปฌาน ๒ ขั้นข้างต้นเพื่อการค้นพบและพิสูจน์
ของพระพุทธศาสนานี้...มี
คำจำกัดความอยู่ใน มหาเวทัลลสูตร
(บทสนทนาระหว่าท่านพระมหาโกฏฐิตะกับพระท่านสารีบุตร)
ว่า...
"บุคคลควรนำอะไรไป
ด้วยมโนวิญญาณ
อันบริสุทธิ์
อันแยกจากอินทรีย์ ๕ แล้ว ?"
(ท่านพระสารีบุตรตอบว่า
อากาสานัญจายตนะ...ฯลฯ)
อธิบาย
;
บุคคล
หมายถึง ผู้ปฏิบัติการโยคะ (พระโยคาจาร)
มโนวิญญาณอันบริสุทธิ์
หมายถึง จิต (พลวัตที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำงานของหัวใจ)
ที่เป็นอิสระไปจากข้อมูลประสบการณ์ทางอายตนะที่สมองบันทึกไว้ทั้งหมด
อินทรีย์
๕ หมายถึง ระบบอายตนะประสาททั้ง ๕ คือ
ตา (จักขุนทรีย์) หู (โสตินทรีย์) จมูก (ฆานินทรีย์) ลิ้น (ชิวหินทรีย์) และกาย (กายินทรีย์)
ที่มาของ
การฝึกพัฒนาอายตนะชั้นสูงมีลำดับมาจาก..
ศีล
>
สันโดษฐ์ > อินทรีย์สังวร (เริ่มแยกให้เป็นอิสระ)
> โภชเนมัตตัญญุตา (ควบคุมการย่อยอาหารไม่ให้เหลือกาก)
> ชาคริยานุโยค (ตามประการการตื่นด้วยสติให้ต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน)
> โยนิโสมนสิการ (กำหนดเทคนิคเพื่อพัฒนาการและใช้พัฒนาการชั้นสูงของจิตที่ฝึก)
> วิเวก (วิเวกสุข
เป็น นิพพานขั้นที่ ๒ จาก เนกขัมมสุข ที่เป็น นิพพาน ขั้นที่ ๑
หรือเมื่อยังไม่เกิดปัญญาเห็นไตรลักษณ์
ก็คือ สมาธิระยะสุดท้ายของทุติยรูปฌาน แหล่งกำเนิดของ "อาภัสสรพรหม" ...ต้นกำเนิดของมนุษย์ตามการค้นพบของ
พระพุทธศาสนา)
ข้อสังเกต
;
โภชเนมัตตัญญุตา
คือขั้นการควบคุมการย่อยอาหารถึงระดับ ควบคุมกระบวนการเผาผลาญภายในเซลล์ (metabolism) ด้วย
ที่พระพุทธเจ้ากระทำไว้เป็นตัวอย่าง คือการรับอาหาร..ข้าวมธุปายาส
จากนางสุชาดา ก่อนตรัสรู้
แล้วได้ควบคุมการย่อยของอาหาร คือข้าวมธุปายาส
๔๙ ก้อน ให้ย่อยเลี้ยงร่างกายวันละก้อน
ตอนที่พระพุทธองค์กำลังเสวยวิมุตติสุข
ต่อเนื่อง ๔๙ วัน โดยไม่ต้องฉันอาหารอีกเลย
และ
รูปฌานขั้นที่ ๑ (ปฐมฌาน) ที่พระพุทธองค์แสดงไว้เป็นตัวอย่างถึงอานุภาพฌาน ได้แก่
ตอนเป็นราชกุมารอายุ
๗ ขวบขณะดูพิธีแรกนาขวัญ สามารถใช้สมาธิล็อคเวลาและร่มเงาต้นหว้าไว้ได้...
นี้คือ
โครงงานปฏิบัติธรรมระดับปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการนิวเคลียร์ฟิสิคส์
โดยเปรียบเทียบ...สาระของพระพุทธศาสนา
ก้าวหน้าและยิ่งใหญ่
ไม่ใช่เรื่องที่พวกเสรีชนประเภท Agnotics
ที่ไร้ความรู้ต่อการเรียนรู้ของปราชญ์โบราณ
จะมาเผยอแตะต้องอย่างโง่ๆและอย่างหน้าด้านๆ
คำเตือน..
อย่าบิดเบือน
และคอร์รัปชั่นธรรมด้วยความมักง่าย
อย่างที่กำลังกระทำกันอยู่...
พระพุทธศาสนา
เป็นศาสนาของผู้มีปัญญา
และละอายต่อการละเมิดทั้งหลาย
ครับ.
Atthanij Pokkasap
9:19
น.แรม ๓ค่ำ เดือน ๓
เสาร์
๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗
...ผู้วิเศษ
(บุคคลในฌานวิสัย) มีขั้นตอนชัดเจน ท่านจึงเรียกคำสอนของท่านว่า..
อนุสาสนีปาฏิหาริย์...ที่ท้าให้ทุกคนเข้ามาดู
เข้ามาพิสูจน์ ศึกษาให้ถึงก่อนแล้วค่อยมาแตะพระศาสนา....
...ควบคุมแรงโน้มถ่วงดวงดาวเอา
โพล่าร์วอร์เท็กซ์ เข้าอิเควเตอร์...รับรองตายหมู่เป็นล้าน...เป็นตุ๊กตาน้ำแข็งกรอบ
อร่อย.
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
No comments:
Post a Comment