Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Tuesday, January 10, 2017

52.Breaking Dharma PART 51





Breaking Dharma PART 51...!!!
....


พระมหาโมคคัลลานเถระ เปิดประตูนรก
ตอน เปรตข้าวเปลือก เปรตข้าวสาร


ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระ ถาม เปรต ๔ ตน ว่า
..ท่านทั้ง ๔ นี้ ..
ตนหนึ่งกอบเอาแกลบข้าวสาลีที่ไฟลุกโชน โปรยใส่ศรีษะตนเอง
ตนหนึ่ง ทุบศรีษะของตนด้วยฆ้อนเหล็ก
ส่วนตนหนึ่ง ที่เป็นหญิงเอาเล็บจิกหลังกินเนื้อและเลือดตนเอง
ส่วนท่านกินคูถ อันเป็นของไม่สะอาด ไม่น่าปรารถนา
นี้เป็นวิบากกรรม อะไร?

ภรรยาของพ่อค้าโกง ตอบว่า
เมื่อชาติก่อน ผู้นี้เป็นบุตรดิฉัน ได้ตีศรีษะดิฉันผู้เป็นมารดา
(จึงต้องเป็นเปรตใช้ฆ้อนเหล็กทุบหัวตัวเอง)
ผู้นี้เป็นสามีดิฉัน
เป็นพ่อค้าโกงข้าวเปลือกปนแกลบ
ผู้นี้เป็นลูกสะไภ้ของดิฉัน  ลักกินเนื้อแล้วกลับหลอกลวงด้วยมุสาวาท

ส่วนดิฉัน เมื่อเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก
เป็นหญิงแม่เรือน เป็นใหญ่ในสกุล
เมื่อสิ่งของมีอยู่ เหล่ายาจกขอแล้ว
รีบเก็บของซ่อนเสีย ไม่ได้ให้อะไร จากของที่มีอยู่
ปกปิดไว้ด้วยมุสาวาทว่า
ของนี้ไม่มีในเรือนของเรา  ถ้าเราปกปิดของที่มีไว้
ขอคูถจงเป็นอาหารเรา
ภัตแห่งข้าวสาลีอันมีกลิ่นหอม ย่อมกลับกลายเป็นคูถ
เพราะวิบากแห่งกรรม  คือมุสาวาท ของดิฉัน

กรรมทั้งหลายไม่ไร้ผล
กรรมนั้นย่อมไม่สาบสูญ
เพราะฉะนั้น  ดิฉันจึงกินและดื่มแต่มูตรคูถอันมีกลิ่นเหม็น มีหนอน


จาก ข้อ(๑๑๔) ภุสเปตวัตถุ ว่าด้วยบุพกรรมเปรต ๔ ตน
เปตวัตถุ  ขุททกนิกาย  ไตรปิฎก สยามรัฐ เล่ม ๒๖/๔๕


Atthanij Pokkasap ถ่ายทอดหลักฐานชั้นบาลี
07:42 ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ วันอังคาร ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖


หมายเหตุย้ำ..บาลี คือแผนที่แห่งพระธรรม
มีภิกษุและผู้แอบอ้างเป็นผู้รู้ธรรมจำนวนมากกล่าวดูถูกเหยียดหยามการศึกษาธรรมจากพระไตรปิฎกและบาลีที่เกี่ยวข้ออยู่อย่างต่อเนื่องจนไม่รู้ว่า
บุคคลพวกนี้รู้ธรรมอะไรเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา  นอกจากพูดเอาเองและอ้างว่าเป็นคำสอนของพระศาสดา...ด้วยสัจจะแห่งการทรงจำการได้อ่านและศึกษาตามเป็นจริง..ขอให้บุคคลที่กล่าวเบียดเบียนพระบาลีทั้งหลาย จงพินาศ ไปทุกภพทุกชาติด้วย ครับ.




...ไม่มีการทำลาย ทำร้ายพระศาสนาเท่ากับพวกที่ห่มผ้าเหลืองอีกแล้ว
พวกอ้างไม่ยึดติดตำรา..ส่วนใหญ่มะเร็งกินสมอง  ก่อนตายอย่างทรมานตั้งแต่ชั้นพระอาจารย์  ยังไม่มีสติสำนึกสำเหนียกกันอีก...

...พวกสอนอานาปานสติผิด  ก็เป็นโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ  ทางเดินลมหายใจ จนถึงขั้นกระบวนการเผาไหม้ภายในผิดปกติ....ตายอย่างไม่ได้สติ

...พวกสอนกรรมฐานเพ่งธาตุ  เป็นมะเร็งหลอดลม...ตายทรมานทั้งนั้น..ในชั้นพระอาจารย์...พวกนี้ทำร้ายความศักดิ์สิทธิ์ของบทสวด สักกัตวา ที่ว่าถึงสงฆ์หมดโรค...ไร้สติกันทั้งระบบเลยผ้าเหลือง...

...ยึดติดในความว่างเปล่า ..เปรตทั้งนั้น...
ฉันข้าวชาวเมือง..แล้วปล่อยว่าง..ก็เปรต เท่านั้นเอง....
รู้จัก  สจติตปริโยทปนํ...เพื่อปลดหนี้ข้าวจากบาตรกันหรือเปล่า...ก็เปล่าทั้งนั้น...

...ชัดเจนครับ พวกโกงข้าว....เปรตเดินดินตั้งแต่เป็นมนุษย์นี่ล่ะ
เปรรรรตตตตตต..นั่งเมือง....

...มันคอร์รัปชั่นเรื่องน้ำ  ก่อนตายมันก็เป็นโลหิตเป็นพิษ  เลือดติดเชื้อ..ตาย          
มันคอร์รัปชั่น โดยไม่มีผลงาน  หายไปแต่ตัวงบประมาณ  ก่อนตายมันก็เป็น โรคเกี่ยวกับหัวใจ และระบบลมหายใจ..ตาย...

...ภายนอกฉันใด ภายในก็ฉันนั้น
ทำผิดธรรมชาติต่อ ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม ภายนอก                            
ธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลมภาย ใน ก็รับกรรมแห่งความผิดนั้น ฉันนั้นครับ...
ไม่เป็นหมอดูแต่เข้าใจกฏแห่งกรรม  ก็ทายได้แม่นยำเลย   และที่สำคัญ มันจะเป็นโรคต่อเนื่องไปทั้งโคตรจนกว่าโคตรตระกูลมันจะสูญพันธุ์ไปจากสังคมมนุษย์ด้วยครับ..กฏแห่งกรรมน่าเกรงขามอย่างยิ่งใหญ่ ตรงนี้...



                                                                                                      ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

  


* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap

No comments: