87.พระพุทธเจ้า - พระธรรม - พระสงฆ์ - วิทยาศาสตร์ - นิยาย - มวยไทย - ประวัติศาสตร์ - โหราศาสตร์ -ไสยศาสตร์ - ศาสนา - ภาษา - คณิตศาสตร์ - จิต - จักรวาล - สมาธิ - โยคะ - ดนตรี - ศิลปะ - เกษตรกรรม - สมุนไพร - อาหาร = สุขภาพและชีวิตที่ดีงาม
Atthanij Pokkasap :
ข่าวสาร จาก...ทนไม่ไหวแล่ววว
ฟุ้ยยย!!!
ตอน เอะอะก็กำหนดจิต
เอะอะก็กำหนดสติ....
...คิดว่า จิต เป็นอะไร?
คิดว่าสติ เป็นอะไรกำหนดกันขึ้นมาลอยๆง่ายกันเหลือเกิน......
ข้อ (๓๘๘) ปฏิสัมภิทามัคค์ ขุททกนิกาย
บอกว่า...จิต มั่นคงดีในวัตถุใด สติย่อมปรากฏดีในวัตถุนั้น
สติปรากฏดีในวัตถุใด จิต
ย่อมมั่นคงดีในวัตถุนั้น!!!
ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก คือ
"วัตถุ" สติ กับ จิต จึงชื่อว่า..รู้เนื่องด้วยกาย!!!!!! !!!!!!!!
...ยังหายใจเข้า
หายใจออกไม่เป็นเลย มาเที่ยวกำหนดจิตกำหนดสติ....ภาษาไทยทำไมมันลบหลู่ศัพท์สูงของพระพุทธศาสนาขนาดนี้ ????!
..ครับ..จัดระเบียบลมหายใจอย่างที่ปรัชญาฝ่ายโยคะของท่านปตัญชลิว่า...
การหายใจเร่งเร็วขึ้นเพียงใด ความสงบของจิตก็ย่อมลดน้อยลงเพียงนั้น
และการหายใจสงบลงและละเอียดยิ่งเพียงใด ความสงบของจิตก็ย่อมเพิ่มทวีคูณขึ้นเพียงนั้น...
จาก คำอธิบาย สูตรที่ ๓๑
ปฐมบาทกล่าวด้วยสมาธิ(อรรถาธิบายโดย ท่าน สวามี สัตยานันทะ...)
...ในปฏิบัติและพัฒนาการ สติ
ชื่อเต็มก็บอกนี่ครับ...สติปัฏฐาน... คือ สติเป็นฐานของสมาธิ
สมาธิเป็นฐานของปัญญา(สัมโพธิ, โพธิจิต)
ใน..อานาปานสติ...ที่กล่าวว่า
รู้ชัด..รู้ชัด... ความหมายของ "รู้ชัด"...คือการปรากฏของจิตและสติ
แล้วจึงรู้ชัดเป็นญาณ เป็นปัญญา
การปรากฏก็กลับไปข้างต้น คือจิตหรือสติถูกทำให้มั่นคงโดย..ลมหายใจ
ที่มีคุณภาพ...
...แต่ที่สอนกันทุกวันนี้ ข้ามลมหายใจไปกำหนดจิต กำหนดสติได้เลย
...ลบหลู่ธรรมตรงนี้...ถ้าอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่อวดโอหังมาก่อนหน้า..มันอะไรล่ะ???!
แต่คนไทยเอามาพูดมันเอาไปมั่วกับ สัมปชัญญะ-ความรู้สึกตัว....ลบหลู่ศัพท์สูงของพระพุทธศาสนา
…เรากำลังวิพากษ์กระบวนการ
"สจิตฺตปริโยทปนํ" ที่สอนกันอย่างเลอะเทอะในประเทศไทย อาจมีผู้สนใจแต่รับไมได้...ต้องไปเอาปฏิบิติธรรมในหมวดศีลมากลบเกลื่อน อย่าให้ต้องย้อนกลับไปหาการวิพากษ์ศีลที่เป็นฐานของสมาธิเลยนะครับ...ถ้าถือศีลแล้วจิตไม่พัฒนามาเป็นสมาธิ…มันก็พวกไม่รู้ว่าศีลเค้าปฏิบัติกันตอนไหน....ถึงหาความก้าวหน้าทางธรรมไม่ได้อีกอยู่ดี เลอะเทอะทั้งฐานรากและเรี่ยราดทั้งบั้นปลาย
เป็นชาวพุทธประสาอะไรไม่ทราบ รับความจริงอะไรไม่ได้เลย...???!
…ถ้าวัยศึกษาเค้าได้จับออริจินัล แล้ววิพากษ์อย่างเป็นเสรีในหมู่เดียวกัน บ้านเมืองเราก้าวไกลกว่าเยอรมันเสียอีก...น่าเสียดาย...
ทุกวันนี้ขนาดคณิตศาสตร์มันยังยัดเยียดพิธีกรรมอย่างเอาเป็นเอาตายเลย...ขั้นตอนการคิดหาคำตอบต้องตายตัวตามที่
อจ.มันสอนงัยครับ ร้อย อจ. ก็ร้อยวิธี...ตายมั้ย...มันออกกฎหมายให้หมดแล้วครับ ในการแก้เกม...แต่รู้ไปแล้ว ให้ใครล่ะดำเนินการเอาผิดตามกฏหมายที่ออก
ผมจึงบอกว่านักวิชาการที่รับใช้นักการเมือง
คือ ตัวชั่วแท้จริง...
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
* Story & Photos by Atthanij Pokkasap
No comments:
Post a Comment