82.พระพุทธเจ้า - พระธรรม - พระสงฆ์ - วิทยาศาสตร์ - นิยาย - มวยไทย - ประวัติศาสตร์ - โหราศาสตร์ -ไสยศาสตร์ - ศาสนา - ภาษา - คณิตศาสตร์ - จิต - จักรวาล - สมาธิ - โยคะ - ดนตรี - ศิลปะ - เกษตรกรรม - สมุนไพร - อาหาร = สุขภาพและชีวิตที่ดีงาม
ข่าวสาร จาก...พระอรหันต์(สมัยพุทธกาล)
ตอน มารู้จักพุทธตันตระกันเถอะ !!! (ตอนพิเศษ ที่ ๑)
...
...
ตันตระ (สันสกฤต เขียน ตนฺตร) แปลว่า ช่างทอผ้า ช่างถัก เส้นสายต่างๆที่ยึดเหนี่ยวให้เกิดรูปของเรือนร่าง(สรีรปัตราการนาฑี)
...ในพิธีกรรมปฏิบัติทางลัทธิ ศาสนา...เรียกว่า
ตันตรสูตรหมายถึงพิธีกรรมบูชาเทวะ เพื่อให้ผู้บูชาบรรลุทิพยศักดิ
มีสัญลักษณ์เป็นการทำ สันถวะ ระหว่างพระศิวะกับทุรคาเทวี(ปางหนึ่งของเจ้าแม่อุมา)
..ในฝ่ายพุทธ คือรูปสัญลักษณ์ระหว่าง เหวัชระ สันถวะ กับ
ไนราตมยาเทวี(นางอนัตตา) เกิดเป็นธิดา ๘ องค์ (ที่ขอมเรียก
อัปสรา)เป็นสัญลักษณ์ของ อริยมรรคมีองค์ ๘
...เนื้อหาของ ตันตระทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายพระเวทสายไศวนิกาย-ไวษณพนิกาย
ประกอบด้วย ๕ เรื่องหลัก คือ
๑. คัมภีร์ว่าด้วย จุติ อุบัติของ
จักรวาล-มหาจักรวาล(ของสยามคือคัมภีร์ปถมัง ปรากฏหลักฐานอยู่ในวรรณคดีเรื่อง
ขุนช้าง ขุนแผน)
๒.พิธีกรรม บูชาเทวะสัญญลักษณ์ธรรม(พระโพธิสัตว์ นานาองค์)
๓.เวทย์และศาสตราคมที่ให้บรรลุเป้าหมายตามความต้องการ
๔. มายามยวิธีเพื่อบรรลุ ศักติ หกประการ(ศักติ
พลวัตที่ขับเคลื่อนให้ผู้บูชาได้พบ ธรรม ดังที่พระศาสดาตรัสรับรองว่า
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นพระตถาคต) ของพระเวท นั้น ๖ ประการ
พระพุทธศาสนาฝ่ายเหนือ ก็บารมี ๖ แต่ของสยามเป็น บารมี ๑๐
๕. มนตร์สญชีวะ...ว่าด้วยการโคลนนิง สรรพชีวิต หรือจิตดวงใหม่ของผู้บูชาเอง
.....
....
ข้อ ๓. นั้นรวมถึง โหราศาสตร์รักษาโรค และ ไสยศาสตร์รักษาโรค
ที่สยามประเทศมีบันทึกโบราณเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด
มากกว่าชนชาติใดๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
เพราะพระพุทธศาสนาเมื่อเข้ามาเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมชาวนาของสุวรรณภูมิ
การประกอบเวชกรรมในสังคมอารยันเป็นวัตรที่ผิดศีล แต่สุวรรณภูมิจำเป็นต้องยกเว้น เพราะวัฒนธรรมชาวนาถือเรื่องนี้เป็นหลักของการดำเนินชีวิตประจำวัน
ข้อมูลเหล่าสร้างเนื้อเรื่องจากหลักฐานทางโบราณคดีที่มีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมทั้งที่วัดโพธิ์ด้วยโดยเนื้อหาหลักซ่อนอยู่ในเถรคาถา เถรีคาถา อัปทาน ภาค ๑
ภาค ๒ ของพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐทั้งสิ้น....
....เลอก(เปิดเผย)ทำให้พุทธศาสน์และไสยศาสน์ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ให้หม่น ไม่ให้หมอง
...ต้องเปิดเผยแล้วครับ...ว่าเอาไสยศาสตร์ออกจากเถรวาทเมืองไทยเมื่อใด...แม้พระก็ไม่เหลือสบงให้นุ่ง พวกที่คิดว่าไสยศาสตร์เป็นเรื่องงมงาย คือพวกไม่เคยเห็นกระดูกบรรพบุรุษมัน แล้วมันก็ยืนยันตัวเองว่ามีตัวตนจริง...
....ไสยศาสตร์อื่นเป็นอย่างว่า แต่ไสยศาสตร์ไทย...เคล็ดวิชา *สจิตฺตปริโยทปนํ*
แห่งหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาทั้งนั้น...ทั้งนั้น....ของพราหมณ์ที่ไหน เอาหลักฐานพราหมณ์มาแสดงด้วยอย่ามั่ว...มั่วมา
๑๕๘ ปีแล้ว.....จบได้แล้ว
…ดู ตย.
นวหรคุณ : อะ สํ วิ สุ โล
ปุ สะ พุ ภะ, จตุอริยสัจ ; ทุ สะ นิ มะ
ลอกพราหมณ์มาจากไหน พราหมณ์ไหนมีคาถาหัวใจเหล่านี้....?????????????????????!
...มีแต่ขอมไทย....มันต้องจับประวัติศาสตร์ตอนพ่อขุนผาเมืองมอบบัลลังก์กัมโพชให้
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ก่อนว่า พ่อขุนผาเมืองท่านสละแล้วท่านไปไหน
...พอรุ่นสาม ปรากฏว่าท่าน "ศรีสัทธา"
เป็นหลานปู่พ่อขุนผาเมืองเป็นสังฆราชศรีลังกา
แล้วกลับ
มาสยามเป็นคู่กับพ่อขุนลิไทย ก่อนหน้านั้นต้นราชวงศ์พระร่วงมีตำนานเป็นตำนานเดียวกะ
ราชวงศ์ปัลลวะและฟูนาน สุดท้าย จารึกของพ่อขุนลิไทยก็เผยว่า
ท่านคือวงศ์วานราชวงศ์ปัลลวะ...ศิลาจารึกที่อั้ยนักประวัิติศาสตร์ไทยมันไม่เอ่าน.....พ่อมันให้เขมรมาไล่มัน
ให้ออกจากบ้าน ให้เขมรอยู่เป็นเจ้าของเรียบร้อยไปแล้ว
...หลักศิลาจารึกหลักที่สอง(วัดศรีชุม) เรียกชาวเขมรด้วยสำเนียงเขมรว่า นักกเมรเทศ
ถ้าเทศคือประเทศ ก็หมายถึงชาว...นักกเมรก็คือชาวกเมร
ถ้ากเมรคือกุมาร แล้วเทศคือใหญ่
นักกเมรเทศก็คือพวกที่ไม่รู้จักโต คือ กุมารใหญ่ ไม่ได้มาจากเขมรินหรือกัษมีระ(ขเมระ-ขแมร์) อย่างที่เดามั่วในชั้นหลังๆ...แต่ที่แน่่ๆ
มันไม่ได้รู้ที่มาของมันเอง แล้วมาแต่งมั่วสร้างประวัติขึ้นมาเอง...ในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
No comments:
Post a Comment