Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Thursday, December 29, 2016

๙๖.Buddha-Dharma-Sangha-Science-Fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-Religion-Language-Math-Mind-Universe-Meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food=Good Life Health.



96.พระพุทธเจ้า - พระธรรม - พระสงฆ์ - วิทยาศาสตร์ - นิยาย - มวยไทย - ประวัติศาสตร์ - โหราศาสตร์ -ไสยศาสตร์ - ศาสนา - ภาษา - คณิตศาสตร์ - จิต - จักรวาล - สมาธิ - โยคะ - ดนตรี - ศิลปะ - เกษตรกรรม - สมุนไพร - อาหาร = สุขภาพและชีวิตที่ดีงาม








Atthanij Pokkasap  :




ข่าวสาร จาก...พุทธกาลตอน
ปรากฏการณ์ ล็อค เวลา
... ... ...


ปรากฏการณ์ ล็อคเวลา ในบันทึกของชาวพุทธโบราณ มีมากมายหลายสิบครั้ง  แต่ครั้งสำคัญที่สุด มี ๒ ครั้ง..

ครั้งที่ ๑ เจ้าชายสิทธัตถราชกุมาร ตอน ชันษา ๗ ขวบ กำลังนั่งดูราชพิธีแรกนาขวัญ จิตเกิดเป็นสมาธิชั้น ปฐมฌาน ได้ ล็อคเวลา คือมณฑล ที่เป็นควงเงาต้นหว้าที่พระองค์ประทับนั่งอยู่ เวลาภายในปริมณฑลร่มเงาต้นหว้า  ถูกล็อคไว้จากเที่ยงถึงยามเย็นจนราชพิธีเสด็จ  เป็นเหตุให้พระบิดาพระองค์ต้องอัญชลีไหว้ราชกุมารพระองค์เองเป็นครั้งที่ ๒

...และประสบการณ์อันสูงส่งในวัยเด็กอันนี้เองที่ทำให้ท่านหวนคิดถึงเป็นเส้นทางสู่การตรัสรู้
พระอนุตตรสัมมาสัมโพธญาณ...


ครั้งที่ ๒ บัณฑิตสามเณร เณรน้อยอายุ ๗ ขวบ ในสัทธาวิหาริกของท่านพระสารีบุตร  บำเพ็ญ
สมณะธรรมช่วงที่เชื่อมต่อระหว่าง อนาคามิผลกับอรหัตผล   ปรากฏการณ์ล็อคเวลาขณะที่
บัญฑิตสามเณรกำลังบำเพ็ญสมณะธรรม  ทำให้ช่วงเวลาเช้าจนถึงบ่ายของชมพูทวีปชะงักคงที่เป็นเวลาร่วมๆ ๖ ชั่วโมง จนสามเณรท่านบรรลุพะอรหัตผล  เวลาก็เปลี่ยนจากเช้ามาเป็นบ่ายทันที....

...ในบันทึก เรื่องบัณฑิตสามเณร บัณฑิตวรรค วรรณนา พระธัมมปทัฏฐกถาแปล ภาค ๔ บรรยายไว้แต่เพียงว่า....

...ท้าวสักกะเทวราชตรัสเรียกมหาราชทั้ง ๔ มาตรัสว่า 
"พวกท่านจงไปไล่นกที่บินจอแจอยู่ในป่าใกล้วิหารให้หนีไป  แล้วยึดอารักขาไว้โดยรอบ"

ตรัสกะจันทระเทพบุตรว่า 
" ท่านจงฉุดรั้งมณฑลแห่งพระจันทร์เอาไว้"

ตรัสกะสุริยะเทพบุตรว่า 
" ท่านจงฉุดรั้งมณฑลแห่งพระอาทิตย์เอาไว้"..

ดังนี้แล้วแม้ท้าวสักกะเทวราชเอง  ได้เสด็จไปประทับยืนอารักขาอยู่ที่สายยู....

...เด็ก อายุ ๗ ขวบ บวชแล้ว ในวันที่ ๘ บรรลุพระอรหัตเหมือนดอกปทุมที่แย้มแล้ว  ในขณะนั้นเอง ได้นั่งพิจารณาที่เป็นที่ใส่ภัตร ทำภัตกิจแล้ว  ในขณะที่เธอล้างบาตรเก็บไว้  จันทระเทพบุตรก็ปล่อยมณฑลแห่งพระจันทร์  สุริยะเทพบุตรก็ปล่อยมณฑลแห่งพระอาทิตย์  ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ปล่อยอารักขาทั้ง ๔ ทิศ  ท้าวสักกะเทวราชเลิกอารักขาที่สายยู  พระอาทิตย์ได้เคลื่อนคล้อยไปแล้วจากที่ท่ามกลาง (คือเลยเวลาเที่ยงตรงไปแล้ว...

...ภิกษุทั้งหลายโพทนาว่า 
"เงา บ่ายเกินประมาณแล้ว  พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยไปจากที่ท่ามกลาง  ก็สามเณรฉันเสร็จเดี๋ยวนี้เอง  นี่! เรื่องอะไรกันหนอ...??!"




...Subjectivity of Time  ควบคุมโดยจริยธรรมระดับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์!!!
Participater..ที่วิทยาศาสตร์สัมพัทธภาพแห่งคริสตศตวรรษที่ ๒๐ ค้นพบ   มีอธิบายเฉพาะในประสบการณ์ทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น...วิทยาการทุกสาขาของโลกทุกวันนี้ยังติดอยู่ในอยู่ระบบผู้วิจัยเป็น Observer...กลางอุปโลกน์ ที่ไม่มีอยู่จริง!!!

สจิตฺตปริโยทปนํ...การทำจิตให้ขาวรอบในประสบการณ์การค้นพบของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องปรากฏการณ์เวลาล้วนๆ....ที่แสดงให้เห็นว่า...ใครก็ไม่รู้จริง!!!    ไม่มีนักปราชญ์สมัยใหม่คนไหนขยายผล อัทธานปัญหาที่ท่านพระนาคเสนวิสัชนาคิงเมนันเดอร์ เมื่อ พ.ศ.๓๙๒ ได้เลยว่า   เหตุใดเวลา จึงเกิดจาก ปฏิจจสมุปปาท....!!!    เรา...กำลังตกอยู่ท่ามกลาง...ความรู้ลวงโลก ทั้งหมด!!!

จริยะธรรมของระดับสวรรค์ดาวดึงส์งัย....แต่ของเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นอำนาจปฐมฌาน (รูปพรหมขั้นที่ ๑..กายิกาพรหม   มีสนามเวลารองรับอายุขัยเท่าดาราจักรทางช้างเผือก..)จริยะธรรมที่พระพุทธศาสนาประยุกต์อยู่ในประเพณี    เป็นปรากฏการณ์จิตแบบเดียวกะปรากฏการณ์พลังงานยึดอนุภาคในนิวเคลียร์...สังคมจะพัฒนาเป็นจักรวรรดิ..ถ้ายึดมั่นในจริยะธรรมที่พระพุทธศาสนาประยุกต์มาดีแล้วจากปรากฏการณ์พลังงานยึดอนุภาคในปรากฏการณ์นิวเคลียร์     ฉะนั้นที่สังคมมันแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ    เพราะมันทำลายกฏเกณฑ์ธรรมชาติกัน...จากความรู้ลวงโลกนั้นๆนั่นเอง!!!

....ปรากฏการณ์ล็อคเวลาและย้ายมิติ...มีเต็มคัมภีร์พระพุทธศาสนา...เรียนพระพุทธศาสนาแบบวิทยาศาสตร์ภาษาอะไร   ไม่มีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์กันเลย...ปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนาเค้าเล่นกันในสนามเวลาและสนามแรง (Time Field and Force Field) กันทั้งนั้น....เป็นภาคปฏิบัติการของ สจิตฺตปริโยทปนํ ล้วนๆด้วย...พระไม่รู้หน้าที่นำเสนอและนำพิสูจน์...มัวแต่ไปเรียนทางโลก...คอร์รัปชั่นเวลานักบวชกันทั้งนั้น...

ภูมิศาสตร์สนามแรงและสนามเวลา  ก็คือ ภาพจักรวาลไตรภูมิ...ไม่เรียนกัน..ไม่ยอมทำความเข้าใจกันอีก...วิทยาศาสตร์ระดับนิวเคลียร์ฟิสิคส์ล้วนๆเลย

....เห็นแสดงภูมิอธิบายภาพมัณฑละคลาสสิค (ลิขสิทธิของพระพุทธศาสนานิกายสรรวาสติวาทตั้งแต่สมัยพุทธกาล)...ปฏิจจสมุปปาทกันโครมๆ ...แต่ไม่เคยเชื่อมโยงถึงวิสัชนาที่ท่านพระนาคเสนตรัสต่อคิงเมนันเดอร์ (พ.ศ.๓๙๒) เลยว่า ปฏิจจสมุปปาทเป็นต้นกำเนิดของกาลเวลาได้อย่างไร....โมเม...นี่...ไม่ใช่การจับผิดครับ    แต่บอกว่า  ท่านไม่รู้เรื่องเลยเกี่ยวกะรหัสนัยของ ...เหตุเกิดเเห่งทุกข์ (ทุกขสมุทัย)!!!

เริ่มต้น อริยะมรรค ๔  ทุกข ทุกขสมุทัย...ก็ไปไม่เป็นแล้ววว....สนามเวลา...เป็นทุกขสมุทัย...ไม่เคยมีนักปราชญ์ใหนในโลกอธิบายออกมาให้สอดคล้องกับที่ ท่านพระนาคเสนวิสัชชนาไว้เมื่อ พ.ศ.๓๙๒  และที่ท่านพระพุทธโฆษาจารย์รจนาไว้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ได้เลย....ไม่รู้เรื่องอะไรในหน้าที่กันเลยนี่หว่า...



                                                                                                 ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
  

* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap


No comments: