ปรากฏการณ์
ล็อค เวลา
... ... ...
ปรากฏการณ์
ล็อคเวลา ในบันทึกของชาวพุทธโบราณ มีมากมายหลายสิบครั้ง แต่ครั้งสำคัญที่สุด มี ๒
ครั้ง..
ครั้งที่
๑ เจ้าชายสิทธัตถราชกุมาร ตอน ชันษา ๗ ขวบ กำลังนั่งดูราชพิธีแรกนาขวัญ
จิตเกิดเป็นสมาธิชั้น ปฐมฌาน ได้ ล็อคเวลา คือมณฑล
ที่เป็นควงเงาต้นหว้าที่พระองค์ประทับนั่งอยู่ เวลาภายในปริมณฑลร่มเงาต้นหว้า ถูกล็อคไว้จากเที่ยงถึงยามเย็นจนราชพิธีเสด็จ เป็นเหตุให้พระบิดาพระองค์ต้องอัญชลีไหว้ราชกุมารพระองค์เองเป็นครั้งที่ ๒
...และประสบการณ์อันสูงส่งในวัยเด็กอันนี้เองที่ทำให้ท่านหวนคิดถึงเป็นเส้นทางสู่การตรัสรู้
พระอนุตตรสัมมาสัมโพธญาณ...
ครั้งที่
๒ บัณฑิตสามเณร เณรน้อยอายุ ๗ ขวบ ในสัทธาวิหาริกของท่านพระสารีบุตร บำเพ็ญ
สมณะธรรมช่วงที่เชื่อมต่อระหว่าง
อนาคามิผลกับอรหัตผล ปรากฏการณ์ล็อคเวลาขณะที่
บัญฑิตสามเณรกำลังบำเพ็ญสมณะธรรม
ทำให้ช่วงเวลาเช้าจนถึงบ่ายของชมพูทวีปชะงักคงที่เป็นเวลาร่วมๆ
๖ ชั่วโมง จนสามเณรท่านบรรลุพะอรหัตผล เวลาก็เปลี่ยนจากเช้ามาเป็นบ่ายทันที....
...ในบันทึก
เรื่องบัณฑิตสามเณร บัณฑิตวรรค วรรณนา พระธัมมปทัฏฐกถาแปล ภาค ๔
บรรยายไว้แต่เพียงว่า....
...ท้าวสักกะเทวราชตรัสเรียกมหาราชทั้ง
๔ มาตรัสว่า
"พวกท่านจงไปไล่นกที่บินจอแจอยู่ในป่าใกล้วิหารให้หนีไป แล้วยึดอารักขาไว้โดยรอบ"
ตรัสกะจันทระเทพบุตรว่า
" ท่านจงฉุดรั้งมณฑลแห่งพระจันทร์เอาไว้"
ตรัสกะสุริยะเทพบุตรว่า
" ท่านจงฉุดรั้งมณฑลแห่งพระอาทิตย์เอาไว้"..
ดังนี้แล้วแม้ท้าวสักกะเทวราชเอง ได้เสด็จไปประทับยืนอารักขาอยู่ที่สายยู....
...เด็ก
อายุ ๗ ขวบ บวชแล้ว ในวันที่ ๘ บรรลุพระอรหัตเหมือนดอกปทุมที่แย้มแล้ว ในขณะนั้นเอง ได้นั่งพิจารณาที่เป็นที่ใส่ภัตร ทำภัตกิจแล้ว ในขณะที่เธอล้างบาตรเก็บไว้ จันทระเทพบุตรก็ปล่อยมณฑลแห่งพระจันทร์ สุริยะเทพบุตรก็ปล่อยมณฑลแห่งพระอาทิตย์ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ปล่อยอารักขาทั้ง ๔ ทิศ ท้าวสักกะเทวราชเลิกอารักขาที่สายยู พระอาทิตย์ได้เคลื่อนคล้อยไปแล้วจากที่ท่ามกลาง (คือเลยเวลาเที่ยงตรงไปแล้ว...
...ภิกษุทั้งหลายโพทนาว่า
"เงา บ่ายเกินประมาณแล้ว พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยไปจากที่ท่ามกลาง ก็สามเณรฉันเสร็จเดี๋ยวนี้เอง นี่! เรื่องอะไรกันหนอ...??!"
...Subjectivity of Time ควบคุมโดยจริยธรรมระดับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์!!!
Participater..ที่วิทยาศาสตร์สัมพัทธภาพแห่งคริสตศตวรรษที่ ๒๐ ค้นพบ มีอธิบายเฉพาะในประสบการณ์ทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น...วิทยาการทุกสาขาของโลกทุกวันนี้ยังติดอยู่ในอยู่ระบบผู้วิจัยเป็น
Observer...กลางอุปโลกน์ ที่ไม่มีอยู่จริง!!!
…สจิตฺตปริโยทปนํ...การทำจิตให้ขาวรอบในประสบการณ์การค้นพบของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องปรากฏการณ์เวลาล้วนๆ....ที่แสดงให้เห็นว่า...ใครก็ไม่รู้จริง!!! ไม่มีนักปราชญ์สมัยใหม่คนไหนขยายผล
อัทธานปัญหาที่ท่านพระนาคเสนวิสัชนาคิงเมนันเดอร์ เมื่อ พ.ศ.๓๙๒ ได้เลยว่า เหตุใดเวลา จึงเกิดจาก
ปฏิจจสมุปปาท....!!! เรา...กำลังตกอยู่ท่ามกลาง...ความรู้ลวงโลก ทั้งหมด!!!
…จริยะธรรมของระดับสวรรค์ดาวดึงส์งัย....แต่ของเจ้าชายสิทธัตถะ
เป็นอำนาจปฐมฌาน (รูปพรหมขั้นที่ ๑..กายิกาพรหม
มีสนามเวลารองรับอายุขัยเท่าดาราจักรทางช้างเผือก..)…จริยะธรรมที่พระพุทธศาสนาประยุกต์อยู่ในประเพณี
เป็นปรากฏการณ์จิตแบบเดียวกะปรากฏการณ์พลังงานยึดอนุภาคในนิวเคลียร์...สังคมจะพัฒนาเป็นจักรวรรดิ..ถ้ายึดมั่นในจริยะธรรมที่พระพุทธศาสนาประยุกต์มาดีแล้วจากปรากฏการณ์พลังงานยึดอนุภาคในปรากฏการณ์นิวเคลียร์ ฉะนั้นที่สังคมมันแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ เพราะมันทำลายกฏเกณฑ์ธรรมชาติกัน...จากความรู้ลวงโลกนั้นๆนั่นเอง!!!
....ปรากฏการณ์ล็อคเวลาและย้ายมิติ...มีเต็มคัมภีร์พระพุทธศาสนา...เรียนพระพุทธศาสนาแบบวิทยาศาสตร์ภาษาอะไร
ไม่มีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์กันเลย...ปาฏิหาริย์ในพระพุทธศาสนาเค้าเล่นกันในสนามเวลาและสนามแรง (Time
Field and Force Field) กันทั้งนั้น....เป็นภาคปฏิบัติการของ สจิตฺตปริโยทปนํ
ล้วนๆด้วย...พระไม่รู้หน้าที่นำเสนอและนำพิสูจน์...มัวแต่ไปเรียนทางโลก...คอร์รัปชั่นเวลานักบวชกันทั้งนั้น...
…ภูมิศาสตร์สนามแรงและสนามเวลา
ก็คือ ภาพจักรวาลไตรภูมิ...ไม่เรียนกัน..ไม่ยอมทำความเข้าใจกันอีก...วิทยาศาสตร์ระดับนิวเคลียร์ฟิสิคส์ล้วนๆเลย
....เห็นแสดงภูมิอธิบายภาพมัณฑละคลาสสิค (ลิขสิทธิของพระพุทธศาสนานิกายสรรวาสติวาทตั้งแต่สมัยพุทธกาล)...ปฏิจจสมุปปาทกันโครมๆ
...แต่ไม่เคยเชื่อมโยงถึงวิสัชนาที่ท่านพระนาคเสนตรัสต่อคิงเมนันเดอร์ (พ.ศ.๓๙๒) เลยว่า
ปฏิจจสมุปปาทเป็นต้นกำเนิดของกาลเวลาได้อย่างไร....โมเม...นี่...ไม่ใช่การจับผิดครับ แต่บอกว่า ท่านไม่รู้เรื่องเลยเกี่ยวกะรหัสนัยของ
...เหตุเกิดเเห่งทุกข์ (ทุกขสมุทัย)!!!
…เริ่มต้น
อริยะมรรค ๔ ทุกข ทุกขสมุทัย...ก็ไปไม่เป็นแล้ววว....สนามเวลา...เป็นทุกขสมุทัย...ไม่เคยมีนักปราชญ์ใหนในโลกอธิบายออกมาให้สอดคล้องกับที่
ท่านพระนาคเสนวิสัชชนาไว้เมื่อ พ.ศ.๓๙๒ และที่ท่านพระพุทธโฆษาจารย์รจนาไว้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค
ได้เลย....ไม่รู้เรื่องอะไรในหน้าที่กันเลยนี่หว่า...
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
No comments:
Post a Comment