Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Thursday, December 29, 2016

3.Breaking Dharma PART 3





Breaking Dharma PART 3...!!!
....



รีบกลับมาทำนากันด่วนเลย....



*** นา อมฤตธรรม ***

เรามีศรัทธาเป็นต้นข้าว

ความเพียร (ตบะ) เป็นฝน

ปัญญาเป็นแอกและไถ

ใจ (มโน) เป็นเชือก

สติเป็นผาลและปฏัก

การสำรวมอินทรีย์และรู้ประมาณในโภชนะ  คือการปราบวัชชพืช

การกล่าวคำจริงและการอ่อนน้อม (โสรัจจะ)  ทำให้การงานสำเร็จ

ความเพียร (วิริยะ) ของเราเป็นเครื่องนำธุระให้สมหวัง  นำไปสู่แดนเกษมจากโยคะ

ไปไม่มีการหวนกลับยังที่ซึ่ง  บุคคลไปแล้วไม่โศกเศร้า

เราทำนาอย่างนี้  นาที่เราทำย่อมมีผลอมตะ  บุคคลทำนาอย่างนี้แล้ว  ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง


จาก กสิภารทวาชสูตร (๒๙๘) สุตตนิบาต  ขุททกนิกาย  ไตรปิฎก เล่ม ๒๕/๔๕ ....
และ กสิสูตร ข้อ(๖๗๔)  สคาถวรรค  สังยุตตนิกาย  ไตรปิฎก เล่ม ๑๕/๔๕


พุทธจวจนะตรัส  แสดงแก่พราหมณ์ชาวนา ภาระทวาชะ (พราหมณ์หัวโล้นที่มีเปียน้อยหลังโหนกศรีษะ)





...พระพุทธศาสนา กับวัฒนธรรมชาวนา รากฐานสังคมขนาดใหญ่ของชาวมนุษยโลกครับ!!!

พระพุทธองค์ท่านทรงเปรียบเทียบไว้หมด  ทั้งการสร้างนคร  สร้างอาณาจักร..การผลิตรถศึก หรือแม้แต่กับการปลูกต้นไม้เพียงต้นเดียวครับ  กับการฝึกจิต...เป็นความหลากหลายในเชิงสร้างสรรค์ของพระพุทธศาสนาที่เป็นพระสัทธรรมประจำดาราจักร ..แสนโกฏิโลกธาตุครับ...

เป็นต้นแบบ ๑ ทฤษฎี กับสรรพเหตุการณ์ที่ร่วมประกอบเป็นองค์รวม ครับ.   เป็นความยิ่งใหญ่ที่ใครได้สัมผัสแล้ว   ต้องลุกขึ้นมาเปิดตัวปกป้อง ครับ    ที่สัมผัสยังไม่ถึง  แล้วแสดงตนก็ออฟไซด์...ควรตำหนิ (ขนาบ) และเตือนสติ...

อีกคำตอบหนึ่งที่พระพุทธองค์นำมาเปรียบเทียบอาชีพทำนา...เพราะสมัยพุทธกาล  การกสิกรรมเป็นภาระใหญ่ของพราหมณ์ระดับล่างครับ...ผู้ด้อยโอกาสทั้งหมดในสังคม  เป็นหน้าที่ที่อริยะบุคคลในพระพุทธศาสนาต้องเข้าไปปกป้องและอัฟ   ทำความด้อยโอกาสให้หมดไปด้วยครับ.

...หน้าที่ใหญ่ของพระพุทธศาสนาคือ  การกำจัดความยากจน (ทุคตะ) และความด้อยโอกาสของ
ผู้ยากในสังคมครับ...หน้าที่พระพุทธเจ้าและอริยสาวกในพระสูตรทำภาระเหมือนกันทั้งหมด

...นี่ไม่ใช่อุดมคติ   แต่เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนชั้นสูง...เพราะสังคมไทยวันนี้ไม่มีพุทธศาสนิกชนชั้นสูง   มันจึงแตกแยกด้วยคนชั่ว...





                                                                                                     ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
  

* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap


No comments: