ตันตระ คือ เส้นสายที่เป็นร่องรอยจากการเกิดดับของดวงจิตที่ยุบตัวลงมาเป็นสรีระร่างสัตวบุคคล
เรียกเป็นศัพท์เฉพาะว่า *ศรีรปัตราการนาฑี, ศรีรปัตราการธมนี* เป็นความรู้ว่าด้วย
*จิตสรีระ* จากการค้นพบโดยประสบการณ์ทางสมาธิของพระพุทธศาสนา...
ฝ่ายที่ได้รับการถ่ายทอดนี้มา เรียกว่า *พุทธตันตระ* ในสยามประเทศ มีหลักสูตร
๕ หมวด ด้วยกัน คือ
๑. นิรมานและวินาศของภูมณฑล หรือ อุบัติ-จุติ ของ
กัปกัลป์สนามเวลาที่รองรับจักรวาลทั้ง
แสนโกฏิ (การเกิด-ดับ ของดาราจักรทางช้างเผือกและระบบสุริยจักรวาล) หมวดนี้คัมภีร์ใน
สยามประเทศเรียกว่า *คัมภีร์ปถมัง* ของเดิม มี ๘ วรรค (บท)
แต่หลังจากสิ้นสุดรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นักปราชญ์พุทธตันตระสยามประเทศได้ขยายออกเป็น ๙ วรรค (บท)...หลักฐานนี้ ปรากฏอยู่ในหลักสูตรการเรียนไสยศาสตร์ ของ
พลายแก้ว (ขุนแผน) ตัวเอกในวรรณคดี เรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน
๒.การบูชาเทพยดา หมวดนี้เป็นคัมภีร์ฝ่ายโหราศาสตร์ไทย เรียกว่า
คัมภีร์เทพนพเคราะห์ ได้แก่ การจัดบวงสรวงบูชาเทวดานพเคราะห์
ที่เป็นผู้ควบคุมระเบียบการเคลื่อนโคจรของดวงดาวในระบบสุริยจักรวาล และยังมีคัมภีร์เกร็ดเกี่ยวกับการจัดบวงสรวงภูมิเจ้าที่ที่เป็นอริยะบุคคลตามตำนานและประสบการณ์การค้นพบของพระพุทธศาสนาต่างๆด้วย
๓.พิธีกรรมบันดาลให้สมมโนรถทุกประการ ได้แก่คัมภีร์ไสยศาสตร์ประเภทต่างๆ เช่น ครอบ
มหานิยม รักษาโรคภัย (ไสยศาสตร์รักษาโรค, โหราศาสตร์รักษาโรค)
สับเปลี่ยนกาลเทศะกรรม (นารายณ์ตรึงไตรภพ )
และทำลาย เป็นอาทิ
๔.มายามยวิธีเพื่อบรรลุถึง ศักติ (เบื้องหลังพลวัตที่ขับเคลื่อน
ธรรม)ในฝ่ายพุทธตันตระ หมายถึง บารมีแห่งพระโพธิสัตว์ ๖ ประการ
แต่ฝ่ายสยามประเทศหมายเอา บารมี ๑๐ ทัศ (พระเจ้า ๑๐ ชาติ) เพื่อการบรรลุ เนกขัมมสุข,
วิเวกสุข, สมาธิสุข และสูงสุดท้าย สัมโพธิสุข
ที่เป็นเทคนิคเฉพาะของศัพท์รวมที่เรียกว่า "นิพพาน"
๕.มหามนตร์สัญชีวะ ทั่วไปมักแปลว่า มนต์ปลุกชิวิต(สัญชีวนี) ในฝ่ายทิเบต
เรียกว่า อนุตระตันตระแยกออกเป็น
๕.๑ โยคะปฏิสนธิ หรือ โยคะจุติ หมายถึง การควบคุม และ/หรือพิสูจน์ปรากกฏการณ์การอวตาร
๕.๒ โยคะวิสุทธิ
เป็นคำสอนแห่งการสืบทอดแห่งความบริสุทธิ์หรือหลุดพ้น(มหานิพพาน หรือ ปรินิพพาน)
..นี่คือ หมวดหมู่ ไสยศาสตร์ไทย และโหราศาสตร์ไทย
ที่สยามประเทศมีบันทึกโบราณของ
พุทธตันตระมากไม่ด้อยกว่าฝ่ายทิเบตและบางคัมภีร์เก่ากว่าของฝ่ายทิเบตด้วย.
...พุทธตันตระแห่งสยามประเทศ คือหลักฐานชั้นโบราณคดีที่รองรับเถรวาทแบบศรีลังกา...ถ้าเอาพุทธตันตระออกจากวัด พระในประเทศไทยไม่เหลือแม้แต่สะบงจะนุ่ง แล้วก็ไม่มีวัดให้อยู่ด้วย!!! ไม่เปิดเผยไม่ได้แล้ว มักง่ายในคำสอนทางพระพุทธศาสนา...หนักข้อกันมากไปแล้ว
...พุทธตันตระเกี่ยวข้องกับคัมภีร์อาถรรพณ์เวทของพราหมณ์ไหม?
ขอตอบว่า...ของพราหมณ์นั้นมาบันทึกไว้โดยฝ่ายไศวนิกาย (ภูเขา) และไวษณพนิกาย (ทะเล) หลังจากที่ มิหิรกุล
แห่งซัยเธียนส์เผ่าฮั่นขาวขับเคลื่อนกำลังรบสู่ลุ่มแม่น้ำคงคาหลัง พ.ศ.๑๐๕๘ ครับ
ส่วนพุทธตันตระ บันทึกและพัฒนาหลังจากเถรวาทฝ่ายภาษาสันสกฤต (สรรวาสติวาท...ของกลุ่มพระกษัตริย์วัชชีบุตร) ปะทะสังสรรค์กับศาสนาโบราณแห่งบาบิโลเนียที่นำมาโดย
Mani of Babilon (พ.ศ.๗๕๒-๘๒๐) ผ่านการปรับปรุงโดยท่านนาคารชุนและลูกศิษย์ท่านนาคารชุน ชื่อ
"นาคโพธิ" แล้วพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงนิกายโยคาจารโดย อสังคะ-วสุพันธุ
ในพุทธศตวรรษที่ ๙...พุทธตันตระบันทึกเป็นเอกสารก่อนพราหมณ์ราว ๒๐๐ ปีครับ แต่เป็นแนวร่วมซึ่งกันและกัน(กลับไปดูหลักฐานจารึกฐานพระอิศวรกำแพงเพชร)
...นี่คือบุคคลิกของพุทธะ...ตันตระ...พุทธตันตระ ครับ ไม่ใช่โยคะ หรือให้ผมเอา
ออริจินัลของปรัชญาฝ่ายโยคะที่ท่านปตัญชลีแต่งมาตีแผ่อีก....
..หารู้ไม่โยคะแขกดัดหาเส้นสูรยะกลาและเส้นจันทระกลา กะเส้นสุศุมญา ดัดจน ๓๖๐ํ ก็ไม่เจอ แต่ฤๅษีดัดตนของพุทธตันตระดัดตนเพียง ๓๐-๔๐% ของโยคะแขก
ก็เจอเส้นปธานหลักทั้ง
๓ ที่ว่าแล้ว....นี่คือเหตุที่ต้องการให้ผมเขียนตำราโหราศาสตร์ไทยรักษาโรคออกมา...
…ผมถึงให้ถามหา
อจ.แอโรบิคด๊านซ์ คนแรกงัยว่า เป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันตายหมดแล้วไม๊ มีอย่างที่ไหนเอาจังหวะดนตรีไปกระแทกแทรกแซงจังหวะธรรมชาติของหัวใจ ชีวิตบั้นปลายจะไปเหลืออะไรก่อนวัยอันควรทั้งนั้น...โยคะก็เหมือนกัน โบราณเค้าเคลื่อนหาการปะติดปะต่อของสูรยะกลาและจันทระกลา...สองเส้นต่อเนื่อเป้นเอกภาพเมื่อใด
สุศุมญาก็จะปรากฎ (สุศุมญาคือสายธารพลวัตแห่งฌาน
ครับ) ใครที่ไหนล่ะผู้รู้...มีแต่ผมที่อยู่กะโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันตัวจริง ...
...คนเหล่านี้เขียนบนพื้นฐานความรู้ในกรอบวิทยาศาสตร์นิวตัน (Newtonian) ครับ...ถ้าอยู่ในกรอบของวิทยาศาสตร์สัมพัทธภาพจะมีอรรถะเป็นอีกแบบที่ลึกซึ้งและมีชีวิตชีวากว่านี้...อยู่บนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีความรู้เรื่องจิต แล้วมาอธิบายเรื่องจิต....การกระโดดข้ามของสติปัญญาตรงนี้เป็นรอยโหว่เหวอะหวะ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
No comments:
Post a Comment