Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Saturday, December 31, 2016

18.Breaking Dharma PART 17






Breaking Dharma PART 17...!!!
....



องค์ประกอบบุญที่สำเร็จ ตามปรารถนา;


(๑) บุญทันตาเห็น (ทิฏฐธัมมเวทนีย์)  ท่านเรียกว่า ***สัมปทา ๔***    ประกอบด้วย ;

๑. วัตถุสัมปทา  มีบุคคลผู้เป็นทักขิไณยบุคคล คือ พระอรหันต์ หรือพระอนาคามี  ซึ่งเข้านิโรธสมาบัติได้ (ท่านเหล่านี้จะเข้าสมาบัติ ๗ วัน ๗ คืน  แล้วออกจากสมาบัติเพื่อเอาอานิสงส์สมาบัติ เป็นบุญทันตาเห็นไปให้ผู้มีโอกาส  ผู้ทำบุญทานถวายอาหารท่านในวันนั้นจะได้อานิสงส์ใหญ่ภายในวันนั้นเอง)

๒. ปัจจัยสัมปทา  ปัจจัยที่จะถวาย ทักขิไณยบุคคลในข้อ (๑) นั้น  ต้องเป็นสิ่งของที่ได้มาโดยชอบธรรมด้วย

๓. เจตนาสัมปทา...ทานในข้อสองที่ถวายให้ข้อหนึ่ง   เกิดจากเจตนาที่รู้ (ญาณ)   คืออิ่มใจในข้อ ๑ และข้อ ๒  ตั้งแต่ก่อนให้ กำลังให้ และให้แล้ว....

๔. คุณาติเรกสัมปทา  หมายถึงผลกุศลกรรมของทักขิไณยบุคคลในข้อ (๑) ที่ออกจากสมาบัติ


บุคคลตัวอย่างสมัยพุทธกาลที่ท่านบันทึกไว้ในคัมภีร์ มี ๗ ท่าน คือ

๑. นายสุมน มาลาการ  ท่านนี้ถวายดอกมะลิที่จะต้องเอาไปส่งวัง  แต่ยอมรับโทษประหารไม่นำถวายส่ง หากแต่เอามาบูชาพระพุทธเจ้าที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติและกำลังเสด็จบิณฑบาต
ราชาเลยประเคนรางวัลให้มหาศาล   และชาติภพสุดท้ายจะบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

๒. เอกสาฎกพราหมณ์  ท่านนี้ยากจนมาก  มีผ้าผืนเดียว  ผลัดกันนุ่งกะเมีย  ผลัดกันมาฟังธรรม
ฟังธรรมบรรลุถอดผ้านุ่งถวายพระพุทธเจ้าเลย   พระเจ้าปเสนทิโกศลเลื่อมใสในศรัทธาและ
การบรรลุธรรมนั้น   จึงถวายทรัพย์ยกย่องไว้อย่างยิ่งใหญ่

๓. นายบุณณะ  ลูกจ้าง...

๔. มัลลิกากุมารี..สาวน้อยวัย ๑๖ ปี  ถวายดอกมะลิ (จำไม่ได้ ว่าจะเป็นท่านพระมหากัสสปะหลังจากออกจากนิโรธสมาบัติ...?)   ได้เป็นอัครมเหสีพระเจ้าปเสนทิโกศลในวันนั้นเลย

๕. โคปาลมาตาเทวี

๖. สุปปิยอุบาสิกา

๗. นางปุณณทาสี


ส่วนบุญที่ทำให้เกิดเป็นสวรรค์ชั้นต่างๆ  คือคุณภาพของอานิสงส์แห่งบุญ  อยู่ใน 
"ทานสูตร" ข้อ (๔๙) สัตตกนิบาต  อังคุตตรนิกาย  ไตรปิฎก เล่ม ๒๓/๔๕   เล่าโดยสรุปคือ....

๑.สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา...เกิดจากบุญทานที่ถวายหรือให้แล้ว  มีจิตผูกพันกับการถวายการให้นั้นๆ

๒.สวรรค์ชั้นดาวดึงส์...เกิดจากบุญทานที่ถวายหรือให้แล้ว ไม่มีจิตผูกพัน ไม่มุ่งสั่งสม  แต่ให้เพื่อสร้างเป็นประเพณี (ปฏิวัติวัฒนธรรม)

๓.สวรรค์ชั้นยามา...เกิดจากบุญทานที่ถวายหรือให้แล้ว  ก็ไม่ได้ผูกพันว่าดีหรือเลว  แต่ถือตามประเพณี (ให้ตามประเพณี)...ให้ตามหน้าที่ตามความเชื่อของสังคม...

๔.สวรรค์ชั้นดุสิต...เกิดจาก..ให้ตามประเพณี..ตามรักษาประเพณี  เอื้อเฟื้อเพื่อให้ประเพณีดำรงมั่นอยู่ในสังคมมนุษย์

๕.นิมมานรดี...อันนี้คือ  ที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นคาถาในธรรมบทเบรคที่ 16  คือมีปัญญาจำแนกแจกบุญ จำแนกแจกทาน  เหมือนทำนาเลือกที่นาเป็นพวกมนุษย์ออกแบบสร้างสังคม...

๖.ปรนิมมิตตวสวัตดี...อันนี้ทำบุญถวายทานไม่สนใจที่จะจำแนก...แต่ให้เพื่อสร้างปีติสร้างความปลาบปลื้มปราโมทย์แก่จิต..ให้เพื่อให้จิตฟูฟ่องเกิดปีตินำไปสู่การมุ่งมั่นปฏิบัติสมาธิ...

๗.พรหม....ไม่มีอุเบกขาครับ ระดับนี้   มีแต่เมตตาและกรุณา  ให้และช่วยเกือกูลศีล  เกื้อกูลธรรมถือเป็นเครื่องปรุงแต่งให้เกิดสมาธิสูงยิ่งๆขึ้น


สามขั้นสุดท้ายนี้เป็นเรื่องบุญทาน  ที่เป็นองค์ประกอบการฝึกจิตให้ได้สมาธิที่ชัดเจนมากครับ.
เพราะ.....ขอบเขตชายแดนสูงสุดของบุญทาน  เป็นเรื่องของ...สจิตฺตปริโยทปนํ ...เพื่อการสำเร็จอย่างเร่งด่วนโดยตรง...!!!

...มีคำอธิบายอานุภาพแห่งจิตที่สำเร็จอานิสงส์  เป็นทั้งบุญ ทั้งทานและยิ่งใหญ่กว่าทั้งบุญและทั้งทาน
อยู่ในท้ายเรื่อง ท่านพระโสไรยเถระ (จากชายเป็นหญิงแล้วกลับเป็นชายในชาติๆเดียว)  
ดังฉะนี้ครับ....

...จริงอยู่  มารดาบิดา  เมื่อจะให้ทรัพย์แก่บุตรทั้งหลาย   ย่อมอาจให้ทรัพย์สำหรับไม่ต้องการทำงาน แล้วเลี้ยงชีพโดยสบายในอัตภาพเดียวเท่านั้น (ให้ได้แค่ชาติเดียว)...
แต่ว่า  จิตที่ตั้งไว้ชอบแล้ว  ย่อมอาจให้สมบัติแม้ทังหมดได้!!!

(หมายถึง สมบัติและความเป็นจักรพรรดิราชที่สูงสุดในความเป็นโลกียสมบัติ  รวมไปถึง โลกุตตรสมบัติด้วย...จิตที่ฝึกมาดีแล้วให้ได้หมด  แม้แต่ทรัพย์ที่ความฝันก็ฝันไปไม่ถึง...จิตก็ให้ได้ครับ!!!)

...ความยิ่งใหญ่ของจิตที่ฝึกมาดีแล้ว...



ดอกมะลิจะเป็นของพระราชาเมื่อพระราชาจ่ายตังค์แล้วครับ...มีหน้าที่เอาไปส่งทุกวันก็จริง...แต่ก็รับตังค์ทุกวันเหมือนกัน  ไม่ได้เหมาแต่เป็นรับสั่ง...รวมๆ... ของมัลลิกากุมารี ก็ประมาณนี้พอพระราชาปเสนทิโกศลสอบถาม...ก็ชื่นชม...ไม่ใจแคบจนเกิดกติกาอย่างทุกวันนี้...(ว่ารับสั่งแล้วก็ต้องเป็นเจ้าของ คือเหมาไว้แล้ว  ทั้งที่ยังไม่จ่ายตังค์)  แสดงว่ากติกาแบบวิญญูชนคนโบราณชัดเจนกว่ามาก...




                                                                                                     ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
  

* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap

No comments: