Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Tuesday, February 1, 2022

โลกาธิปไตย-อัตตาธิปไตย-ธรรมาธิปไตย ในนิยามของชาวพุทธโบราณ


*** ลูกผู้ชาย สายพุทธสายแข็งของจริง

คนไหน หว่าาา?!?!!
คิดถูกสิ..
อะไรที่ตัดสินใจไปแล้ว ทำไปแล้ว
มันต้องถูกทั้งนั้น อย่าลบหลู่ตัวเองดิ
เด่อว..หัดเข้าข้างตัวเองมั่ง รับผิดชอบต่อการกระทำทั้งหมดของตัวเองอย่างกล้าหาญสิ
มันจึงจะลูกผู้ชายสายพุทธ สายแข็งของจริง

แปะ..ทบทวน
จากโพสต์ 20 กุมภาพันธ์ 2014 เมื่อ 10:08 น.

เป็นชาวพุทธหัวโบราณ(มาก) ครับ!!!
ไม่รู้เรื่องหรอก...ประชาธิปไตย แบบที่พวกมันเท่านั้น เป็นเจ้าของ
ไม่รู้เรื่องเรื่องด้วย หรอกครับ ไม่รู้เรื่อง จริงๆ
คติของชาวพุทธ อธิปไตยมี อยู่สาม คือ
โลกาธิปไตย-อัตตาธิปไตย-ธรรมาธิปไตย

อันแรกใหญ่เพราะชาวโลกเขาถือ มีศรัทธา เป็นตัวตั้ง
ไม่เกี่ยวกะโง่ หรือ ฉลาด ไม่เกี่ยวกะเสรีภาพ หรือภราดรภาพ
เกี่ยวแต่กะว่า กูเชื่อแล้ว กูเป็นสุข คนรอบข้างกูก็เป็นสุข.. พอ!!!

อันกลาง(อัตตาธิปไตย) ใหญ่เพราะ กูกล้าทำ กูกล้ารับ ตามที่ "กูรู้" ตามที่ "กูมี" และตามที่ "กูเป็น" ในหน้าที่ที่รับผิดชอบ ตามกาละ ตามเทศะ ตามสถานะของการที่กำลังมีชีวิต
อยู่ ตามนาฬิกาชีวิตของตนเอง
ไม่เกี่ยวกะโง่ หรือ ฉลาด ไม่เกี่ยวกะเสรีภาพ หรือภราดรภาพเส็งเคร็งที่ไหนทั้งสิ้น

อันที่สามสุดท้าย(ธรรมาธิปไตย) ใหญ่เพราะ กูเคารพความจริงที่พัฒนามาจากรากฐาน
๒ อธิปไตยแรก อันนี้ กูต้องเลิกโง่ ต้องฉลาดสถานเดียว
ต้องเคารพเสรีภาพของธรรมชาติแห่งความเป็นจริง ภราดรภาพของธรรมชาติแห่งความเป็นจริง

ในปฏิบัติการโยคะฝ่ายพุทธ อธิปปไตย ๓ นี้ ไม่แยกกัน ต่างเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน

โลกาธิปไตย พัฒนามาจาก การเคารพในความเชื่อ ความศรัทธา ที่ทำให้ทุกคนเกิด
ความสงบ เกิดความเรียบร้อยเป็นระเบียบ( ศรัทธา> โลกาธิปไตย)

อัตตาธิปไตย พัฒนามาจาก ความมีสติ ความรู้สึกตัว ความรู้ตัวที่รู้ว่าตนเองมีชีวิตที่เป็นระเบียบเพราะลมหายใจที่เป็นระเบียบ(สติ > อัตตาธิปไตย)

ธรรมาธิปไตย พัฒนามาจาก ปัญญา ที่เกิดจากสมาธิที่สะสมประสบการณ์มาจากสติ(ปัญญา >ธรรมาธิปไตย)

อธิปไตย ๓ นี้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติใน พละ ๕ และอินทรีย์ ๕
ในโพธิปักขิยธรรม ๓๗
(พละ ๕ คือ ศรัทธา-วิริยะ-สติ-สมาธิ-ปัญญา)
(อินทรีย์ ๕ คือ สัทธิทรีย์-วิริยินทรีย์- สติทรีย์ -สมาธินทรีย์-ปัญญินทรีย์)
พละ ๕ คือ พลวัตที่ขับเคลื่อนความเป็นความมีของชีวิตแห่งความเป็นตัวตนของสัตวบุคคล
อินทรีย์ ๕ คือ ความรู้สึกที่สัมผัสถึง พละ ๕ ข้างต้น
ไม่มีเรื่อง ประชาธิปไตย ที่มี คน หรือคณะคนเป็นเจ้าของ ว่ะครับ
สรุป...กูไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยของมึงและของพวกมึงเลย
รู้แต่ว่า มันเป็นอุปาทานของพวกปัญญาวิปลาส วิปลาส วิปลาส ว่ะครับ!!!


++++

ประเทศไทย ไม่มีปัจจุบันและอนาคต
เพราะ.....
1. ปฏิเสธ ไม่ยอมรับความจริงของอดีต ตั้งแต่ พ.ศ.2475 ...เป็นต้นมา 85 ปีแล้ว และ
ต่อๆไป
2. ปฏิเสธ..ที่จะรู้ความมีอยู่จริงของอดีต(ประวัติศาสตร์) ตั้งแต่ พ.ศ.2394 ...เป็นต้นมา
166 ปี แล้ว และต่อๆไป

ฉิบหายละสิ บรรลุธรรมอยู่กับความไม่ยึดติด ความไม่มีตัวตน มาตั้งแต่เกิดแล้ว
นิหว่า....เห้ย.ยยย



********************************

No comments: