***
Atthanij
Pokkasap about an hour ago
วันนี้
วันพระ วันอุโบสภ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔
ตรงกับวันอาทิตย์
๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๗
อานาปานสติสมาธิ
เป็นปฏิบัติการโยคะสายพุทธ ปรากฏขึ้นเพื่อแก้ปัญหา ปฏิบัติการโยคะ
แบบอสุภกรรมฐาน
อสุภสัญญาสมาธิ
ที่ทำให้นักปฏิบัติการโยคะทั้งหลายปฏิบัติแล้วเกิด
ความเบื่อหน่ายในรูปสังขารที่เป็นชีวิตปัจจุบันจนไม่อาจบรรลุขั้นสูงสุดต้องพากันฆ่าตัวตายบ้าง
วานให้ผู้อื่นฆ่าให้บ้าง
จนเลือดนองท้องน้ำแม่น้ำวัคคุมุทา แม่น้ำน้องพระนครเวสาลี แคว้นวัชชี
ผลของอานาปานสติสมาธิในขณะฝึกฝนนั้น
พระศาสดาท่านอุปมาเหมือนฝนในเดือนสุดท้ายแห่งฤดูร้อน
ที่ตกลงมาดับฝุ่นแล้งทั้งหลายที่คลุ้งกระจายทั่งบนแผ่นดินและอากาศ
ในการถ่ายทอดที่ผ่านมายังอยู่ในขั้นที่
๑ ๒ ๓ ๔ คือ มีสติหายใจยาว
มีสติหายใจสั้น
เข้าสั้น ออกสั้น เข้ายาวออกยาว
และเมื่อประกอบความรู้ในบันทึกทางการแพทย์สายพุทธเข้าไปแล้ว
ปรากฏว่า...การมีสติขณะุหายใจยาว หายใจสั้นนี้
ประกอบด้วยความรู้เนื่องด้วยกาย(กายานุปัสสนา)ลึกล้ำ มหัศจรรย์ มากมาย
หลายๆท่านคงใจร้อนอยากฝึกในขั้นต่อๆไปตามนิสัยที่ตามใจตนเองเสียเคยตัว
เคยชิน.....ทั้งนี้เพราะไม่รู้ว่า...ในขณะที่มีสติ หายใจเข้า-ออก ยาว-สั้น นั้น
เมื่อปฏิบัติสะสมไปอย่างต่อเนื่อง ที่สุดของ ๔ ขั้นปฐมแห่งอานาปานสติสมาธินี้
จะเกิดอะไรอย่างไรขึ้นกับร่างกาย
ความรู้อันเป็นที่สุดของ
๔ ขั้นปฐมนี้ เป็นรากฐานของวิชาโหราศาสตร์ไทย
ที่ทุกท่านไม่มีความรู้มาก่อนทั้งสิ้น ดังนี้ครับ
เมื่อหายใจอย่างมีระเบียบด้วยสติ.สะสมต่อเนื่อง..เลือด
เซลล์เม็ดเลือดจะทำงานอย่างมีคุณภาพเกิดการจัดกระแสแม่เหล็กชีวภาพในร่างกายที่เป็นระเบียบสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กโน้มถ่วงดวงดาวของโลก
เมื่อจิตใจเริ่มปรากฏพื้นฐานของความเป็นระเบียบสัมพันธ์ตามคุณภาพสรีรกายเนื้อ
ช่องว่างที่เชื่อมต่อยึดเหนี่ยว ระหว่างจิตใจกับกายเนื้อจะถุกกระทำให้ทะยอยชัดเจนขึ้น
ชัดเจนขึ้น
นั่นคือการปรากฏของเส้นปธานทั้ง
๑๐ ตามบันทึกวิชานวดแผนโบราณ
เส้นช่องว่างแห่งการยึดเหนี่ยวคู่แรกที่จะปรากฏ
คือ
เส้นสำนึกแห่งเวลาฝ่ายในแบบสุรยคติ
ที่เรียกว่า "สูรยะกลา"
และ
เส้นสำนึกเวลาภายในแบบจันทรคติ ที่เรียกว่า "จันทระกลา"
ปรากฎการณ์เส้นหรือช่องว่างของสำนึกแห่งเวลาภายในนี้จะทำงานผสานร่วมกับปรากฏการณ์เวลาภายนอก
ที่ปฏิทินไทยเราเรียกว่า
เวลาแบบ
สุริยคติ และ เวลาแบบจันทรคติ
ในปฏิบัติการโยคะฝ่ายพุทธตันตระนั้น
จะเรียกปรากฏการณ์เวลาภายในนี้ในสถานะของ
"สนามเวลา(Time
Field)"
คือ
เส้น สูรยะกลา จะถุกเรียกในสถานะสนามเวลาว่า
"ปิงคลา
นาภี(Pingla
Nabhi)"
เส้นจันทระกลา
จะถุกเรียกในสถานะสนามเวลาว่า
"อิทา
นาภี(Ida
Nabhi)"
เมื่อเส้นทั้งสองปรากฏสมบูรณ์ดีแล้ว
จะไปเหนี่ยวโน้มให้เกิดปรากฏการณ์ของช่องว่างแห่งสมดุล
เป็นที่มาของสถานะพ้นสนามเวลาที่เรียกว่า...
"สุศุมญา
นาภี (Sushumna
Nabhi)"
สถานะที่รองรับปรากฏเส้น
สุศุมญา นาภี นี้ คือ อานาปานสติขั้นที่ ๖ หรือขั้นที่กล่าวว่า
กายสังขารสงบ
หายใจเข้า...กายสังขารสงบหายใจออก...(กายสังขารสงบใน จตุตถฌาน ครับ !!!)
ฉะนั้น...อย่าใจร้อน
และ...อย่ามั่ว ออฟไซด์ คำสอนท่าน ในเมื่อท่านไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยในระหว่างการปฏิบัติที่เหมือนการเดินทางไปยังถิ่นที่ไม่เคยไปมาก่อน
เพราะเป็น
ความรู้เนื่องด้วยกาย(กายานุปัสสนา)รายทางที่ละเอียดอ่อนมาก จึงยังไม่สามารถถ่ายทอดพรวดๆๆๆๆๆๆ..อย่างที่ท่านผู้(ไม่)รู้(จริง)ในผ้าเหลืองทั้งหลายกระทำ...และจำเป็นต้องพึ่งอาศัยบันทึกวิชานวดแผนโบราณ
และวิชาโหราศาสตร์ไทยฝ่ายกายบำบัด(ภาพในฝนังศาลาราย
วัดโพธิ(เชตุพน
กรุงเทพฯ)ที่มีภาพแสดงเส้น การกดจุด ที่สัมพันธ์ข้างขึ้นข้างแรม
.....
....
เท่านี้
ก่อน..
ขอความเป็นจริงแห่งธรรม
คุ้มรักษาทุกท่านที่สนใจ.เทอญ
Atthanij
Pokkasap
ต้องใช้ภาพประกอบที่ลึกลับและละเอียดอ่อนมาก...ไม่อาจหยาบคาย
มักง่ายครับ..อานาปานสติสมาธิเป็นของสูงมาก
และหาผู้รู้จริง....ยากมากยิ่งกว่า
Atthanij
Pokkasap
อุปกรณ์ไม่พร้อม เครือ่งมือถ่ายทอดล้าหลัง มีปัญหา ครับ ไม่รู้คอมพ์จะน็อคตัดเมื่อใดทำให้การโพสต์ต้องพิมพืไปหวาดระแวงไป...ไม่เรียบร้อย
ต้องอขออำภัยเป็นอย่างยิ่งด้วยครับ
ภารต
ถิ่นคำ
สาธุๆๆ คับ
ชวลิต
หงอเทียด
ขอบพระคุณครับอาจารย์
นาคเฝ้าคัมภีร์
นาคพิกลจริต นาคปิโลติ
สาธุโน ภันเต...
No comments:
Post a Comment