***
Atthanij
Pokkasap 3 hours ago
ในขณะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยการก่อการร้าย
จากกองกำลังติดอาวุธของเหล่านักการเมืองแก๊งค์ต้มตุ๋น
โดยที่ผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบไม่มีสติปัญญาตามอำนาจหน้าที่
นอกจากพร่ำบ่นแต่ว่า
เป็นความผิดของทั้งสองฝ่าย
คือทั้งประชาชนและนักการเมือง...
จงปล่อยให้มัน
พวกมัน เสวยอำนาจหน้าที่
ด้วยความไร้สติปัญญา
ไร้ความรับผิดชอบ ต่อไปจนกว่าบ้านเมือง
จะล่มสลายไป
ไปเถิด...
เรา..
จงมาสร้างอานุภาพแห่งลมหายใจเข้า ลมหายใจออก
คุ้มครอง
สถานภาพและชีวิตของเรา กันเองดีกว่า ดังนี้...
เมื่อในมหาสติปัฏฐานสูตรได้กล่าวเปรียบเทียบ
การรู้ชัดต่อลมหายใจเข้ายาว
ลมหายใจออกยาว
การรู้ชัดว่าลมหายใจเข้าสั้น
ลมหายใจออกสั้น
ว่าเสมอดัง.
ภุมการวาสี.. นายช่างกลึงผู้ชำนาญในการชักเชือกกลึง
ภุมการันเตวาสี..ลูกมือนายช่างกลึงที่ทำหน้าที่ชักเชือกกลึงผู้ชำนาญ
นายช่างกลึง
ชักเชือกกลึงนี้ เป็นนายช่างในหมวดวิชา โยโค..
คือวิศวสถาปัตยกรรม
ศิลปศาสตร์ที่เป็น ๑ ใน ๑๘ ศิลปศศาสตรแห่งนครตักสิลา เครื่องกลึงไม้
กลึงเครื่องปั้นดินเผาโบราณ
เป็นระบบเชือกชักเหมือนสว่านโบราณที่ใช้เชือกชักให้สว่านเกิด
การหมุนเจาะ
เป็นอุปกรณ์ที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก ทำให้ไม่เข้าใจความหมายของการชักเชือกกลึง
ที่ก่อให้เกิดการหมุนของดอกสว่านและหรือการเฉือนตัดของใบมีดกลึง
(ถ้าใครเคยดูภาพยนต์
อยู่กับก๋ง จะเห็นตอนหนึ่ง ก๋งใช้เชือกชักสว่านให้หมุน... ลองทบทวนความจำกันดู)
การหายใจยาวกว่าจะฝึกรู้ระดับความยาวว่าที่สุดของความยาวของการหายใจของแต่ละสรีระร่างบุคคลนั้น
ไม่เหมือนกัน แตกต่างกัน
ฉะนั้น
จู่ๆจะมากำหนดว่า ฉันหายใจยาวแล้วอย่างนี้ๆ
หายใจสั้นแล้วอย่างนี้ๆ...โดยยังไม่เคยเรียนรู้เลยว่าที่สุดตามธรรมชาติของสรีระร่างกายตนนั้น
ความยาวที่สุดจริงของลมหายใจของตนนั้นอยู่ที่ตรงไหน
พูดแบบสำนวนผู้ก่อการร้ายทางวิชาการปัจจุบันก็คือ..
ท่าน
ได้ "มโน" ไปเองแล้วว่าหายใจยาว(เอาเอง)..ฮ่าาาา
โดยเทคนิคที่ถ่ายทอดมาเป็นภายในแห่งสายปฏิบัติการโยคะฝ่ายพุทธ
การฝึกหายใจยาวนั้น
ต้องใช้เวลาพอสมควร
ในขณะที่ใช้เวลาฝึก...ไม่ได้สูญเสียเปล่า..
จะได้ความรู้เรื่องด้วยกาย
ที่ท่านเรียกว่า "กายานุปัสสนา" ไปพร้อม
ในอีกระดับหนึ่ง
เป็นตำนาน เป็นเรื่องปรัมปราที่มาของสายวิชาหนึ่งในวิชาไสยศาสตร์ไทยด้วย
นั่นคือวิชาคงกะพัน
พื้นฐาน
เทคนิคที่ว่า
มีดังนี้
(ปุกาด
ในวงเล็บ นี้คือลิขสิทธิ์ของ "นายขยะ" หนึ่งเดียวในโลก แต่ "นายขยะ" ปุกาดว่า
"กรูไม่หวง
โว้ยยยยย..")
๑.หายใจออกให้สุด
แขม่วท้องไว้ พร้อมขมิบหูรูดของรูขี้รูเยี่ยว อึดการสุดของการหายใจไว้ ออกกำลัง
จะชกต่อยลมหรือเกร็งกล้ามเนื้อไปทั้งร่างก็ได้ นับ ๑ ๒ ๓.. ไปจน ถึงอย่างน้อย ๗
วินาที (ใหม่ๆควรทำที่ ๓ วินาที) แล้วคลายการอึด หายใจเข้าคืน ถ้าเหนื่อยนัก
หายใจแรงๆหนักๆก็ได้
สักพักใหญ่
แล้วเริ่มต้นใหม่ วันละ สอง สามครั้ง(โดยเฉพาะช่วงกำลังอาบน้ำ
ปลอดหุปลอดตาคนดีที่สุด)
ประสาช่างเครื่องยนต์อธิบายว่า..
นี่คือการบดวาล์วไอเสีย
หาพิกัด "ศูนย์ตายล่าง"
๒.หายใจเข้าให้(เกือบ)เต็มที่
แล้วทำพฤติกรรมตามแบบข้อแรกอีกคือ แขม่วท้อง กลั้น...ฯลฯ
ประสาช่างเครื่องยนต์อธิบายว่า...
นี่คือการ
บดวาล์วไอดี พาพิกัด "ศูนย์ตายบน"
ทำทั้ง
๒ ข้อ จนรู้ชัดว่า ที่สุดของลมหายใจเข้า
ที่สุดของลมหายใจออกตามธรรมชาติที่แท้จริงของสรีระร่างกายของตนเองนั้น
มันมีขนาดระยะเท่าไหร่กันแน่...ดังกล่าวแล้ว ต่อไปเราเองก็จะรู้ว่า
ที่ท่านว่าหายใจยาว ของเรานั้นควรมีความยาวกันสรีระใครสรีระมันนั้น
ควรยาวเท่าไหร่!!!
การรู้เนื่องด้วยกาย(กายานุปัสสนา)ขั้น
ปฐมตามนี้ถูกนำไปพัฒนาเกิดเป้นวิชาเรียกว่า
"ฤๅษีดัดตน"
นั่นเอง
ไม่เชื่อลองดัดตนตามท่านฤๅษี
ตามจังหวะอัดลมหายใจแบบในข้อที่ ๑ และข้อที่ ๒ ดู จะรู้ตัวเองว่า
เกิดอะไรขึ้นกับจิตใจและร่างกาย อาการเจ็บป่วยตามที่ท่านยืนยันจะหายเป็นปลิดทิ้ง
แทบจะทันที่ที่ทำดูเพียงครั้งเดียว
แผ่นเนื้อแผ่นหนัง
อาการ ๓๒ ที่ถูกฝึกตาม ๒ ข้อข้างต้น จะเกิดการรีดอากาศที่คาอยู่ที่ปลายประสาททั้งหมดออก...ทำให้กลับมาแข็งแรงกว่าเดิมทุกประการ
(เปรียบเทียบกับการไล่ลมในท่อน้ำมันเบรครถยนต์
แต่ร่างกายที่เราฝึกอัดลมหายใจตามกล่าวข้างต้น คือการไล่ลมที่คั่งค้างในปลายเส้นประสาทครับ ) สำเร็จเป็นวิชาที่กำลังภายในจีนเรียกว่า วิชาระฆังทองคลุมร่าง หรือ
วิชาเสื้อเหล้ก
ในบันทึกใบลานทางเหนือท่านเรียกวิชานี้ว่า
กัมมัฏฐานเกราะเหล็ก
แข็งแกร่งถึงที่สุดตามปรัมปราคงกะพันของไสยศาสตร์ไทยไม่มีอะไรให้กังขา....
"นายขยะ"
Atthanij Pokkasap
ถ่ายทอดจากประสบการณ์ความรู้เฉพาะตน
Atthanij
Pokkasap
ลมหายใจที่เป็นระเบียบตามธรรมชาติที่ฝึกข้างต้นจะสร้างสนามแรงที่เกิดจากการไหลเวียนที่ทรงคุณภาพของเลือดสานกับสนามแม่เหล้กดวงดาว
เป็นที่มาของการคุ้มครองร่างกายให้พ้นภัยพิบัติธรรมชาติได้ด้วย...
No comments:
Post a Comment