ปรากฏการณ์ ความสุข
ที่พระพุทธศาสนาค้นพบ และตามพิสูจน์
จาก "สมาธิสูตร" และในบันทึกประสบการณ์ค้นพบอีกหลายๆที่ ที่แสดงถึง การพิสูจน์หา ความเป็นปัจจุบันประกอบ...
ความสุขที่ยิ่งกว่ากามคุณ จนเป็นสัจจพจน์ ว่า
"สมาธินี้ มีสุขในปัจจุบัน
และมีสุขเป็นวิบากต่อไป ฯ"
ที่เกี่ยวเนื่องเป็นพัฒนาการรายทางของ "ปฏิจจสมุปปาท" นั้น แท้จริงแล้วก็คือสถานภาพทั้ง ๔ ระดับของ "รูปฌาน" ที่ท่านนิยามเป็น "สัมมาสมาธิ" ใน อริยะมรรค ๘ นั้นเอง
ซึ่ง สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง คือ....
สมาธิทั้ง ๔ ระดับ เป็นฐานปฏิบัติการโยคะ
เพื่อปัญญาในการประจักษ์เห็น "ไตรลักษณ์"
ของพระอริยบุคคลชั้น อนาคามีขึ้นไป นั่นเอง
มีคุณสมบัติพิเศษให้พิสูจน์ได้ด้วย "ทักษิณาทาน"
ที่มีอานิสงส์สูงสุดเป็นไปตามคำอธิษฐาน ภายใน 24 ชั่วโมง
ที่ท่านยกเป็น "สัมมาสมาธิ"
ทั้งที่นอกศาสนาก็มีการค้นพบ
และบรรลุถึงได้เช่นกันนั้น
(ศึกษาเปรียบเทียบได้กับ โยคะสูตรของท่านปตัญชลิ)
เพราะมีเทคนิคเป็นคำสอนเฉพาะ ตามนัยะที่ท่านเรียก ดังนี้.....
ระดับ ที่๑ หรือปฐมฌาน ด้วยเทคนิคเฉพาะ
ท่านจึงเรียกความสุขชั้นนี้ว่า "เนกขัมมสุข"
แปลว่า สุขอันเกิดแต่การหลีกเร้นออกจากาม...(@)
สัจจพจน์ใน "อภิภายตนะ ๘" ที่ว่า
"ผู้มีรูปย่อมเห็นรูป" นั่นคือโยคาวจรผู้บรรลุขั้นนี้
จักต้องประสบ มหาชีวิต คลื่นความถี่เดียวกันนี้ด้วย
ซึ่งก็คือ "กายิกาพรหม" (ไตรภูมิ ไม่มีจึงใช้ภาพมหาพรหมาแทน)
ระดับ ที่๒ หรือ ทุติยฌาน
ท่านเรียกความสุขโดยเทคนิคเฉพาะว่า "วิเวกสุข"
แปลว่า สุข อันเกิดแต่ความสงัด..........@
และโดยสัจจพจน์ใน "อภิภายตนะ ๘"
ผู้บรรลุจิต ณ ระดับนี้ก็จักต้องประสบ..
มหาชีวิตคลื่นความถี่เดียวกันคือ "อาภัสสรพรหม"
ที่เป็นปฐมกำเนิดของมนุษย์ในต้นปฐมกัป...
(ที่ผู้รู้ทั้งหลาย..โมเม และเลี่ยงที่จะเปิดเผย ..ฯลฯ)
ระดับ ที่ ๓ หรือ ตติยฌาน
ท่านเรียกด้วยศัพท์เทคนิคเฉพาะว่า "สมาธิสุข"
แปลว่า สุขอันเกิดแต่ "สมาธิ"..........@
มหาชีวิตคลื่นความถี่นี้ คือ "สุภกิณหพรหม"
ระดับ ที่ ๔ หรือ จตุตถฌาน
ท่านเรียกด้วยศัพท์ตามเทคนิคเฉพาะว่า "สัมโพธิสุข"
แปลว่า สุขอันเกิดแต่การรู้แจ้ง........@
ที่มีการค้นพบแล้วเรียกว่าพรหมลงมาถ่ายทอดนั้นเอง
มหาชีวิตคลื่นความถี่นี้คือ "เวหัปผลพรหม"
นักปฏิบัติการโยคะผู้เข้าถึง
"สมาธินี้มีสุขในปัจจุบัน และมีสุขในปัจจุบัน"
ตามระดับที่กล่าวมาข้างต้น.
จะเป็นผู้มีคุณสมบัติตอบ โจทย์ ทักษิณาทาน..
ที่ให้อานิสงส์ใหญ่ได้ทันตาเห็นภายในวันเดียวกันนั้น
และ ตอบโจทย์ "ฌานวิสัย"
ระดับที่ ๒ แห่งอจินไตย๔ ที่ใครมันละเมิด
จักประสบกรรมตามพฤติที่ละเมิดนั้นๆทันที
และเป็นวิบากติดตัวไปทุกภพทุกชาติ
จนกว่าจะมีการมาขอขมาด้วยพิธีกรรมที่ถูกต้อง
พวกผู้รู้....ที่ศรัทธามีมลทิน
ไม่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์
อันหลากหลายมิติแห่งพระพุทธวจนะเหล่านี้ได้เลย...
จึงได้มีการ ปิดบัง บิดเบือน ตีความเลอะเทอะ
กล่าวหาพระพุทธวจนะที่ตนเข้าไม่ถึง
สร้างคำสอนใหม่ที่แปดเปื้อนต่อคำสอน
ที่ท่านสังคีติกาจารย์ได้ร้อยเรียงไว้ดีแล้ว
ดังที่ประจักษ์ได้ทั่วไป....
หมายเหตุ...
อภิภายตนะ ๘ หรือ อายตนะที่อยู่พ้นวิสัยประสบการณ์ทางกามคุณเป็น ระดับเดียวกับ วิโมกข์ ๘ กสิณายตนะ ๑๐ ล้วนเป็นศัพท์เทคนิคเชิงปฏิบัติที่ ไม่มีการนำเข้าไปบรรจุไว้ในพจนานุกรมพระพุทธศาสนาทุกภาษา นะครับ...บอกถึง ความไม่ซื่อสัตย์ และความไม่รู้จริงในภาค ปฏิบัติการทำจิตให้ขาวสว่างรอบของพระพุทธศาสนาโดยแท้....
ขอทวงคืน ซึ่งภาคปฏิบัติที่พวกเข้าไม่ถึงแล้วปิดบังเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
No comments:
Post a Comment