Photo : https://en.wikipedia.org/wiki/Prat%C4%ABtyasamutp%C4%81da
Atthanij Pokkasap :
ท.วิวัฒนาการมันตกเรื่องกฏอนุรักษกรรมแห่งพลังงานทั้งดุ้น...พลังงานคลื่นจากอายตนะประสาทเป็นพลังงานคลื่นไฟฟ้าเคมีชีวภาพ...ทำให้สัตว์ต้องมี อายตนะประสาทคล้ายๆกันหมด แล้วแต่สัญชาตญาณ...ศาสนาพุทธละเอียดเกินกว่า IQ พวกมันจริงๆต่อให้มันมี IQ ทะลุ 300 ก็ยังไง่ดัดดานเมื่อมาเจอการค้นพบของพระพุทธศาสนา...สรุปเราฉลาดว่ะ....คนมาจากลิง เรา..เล่นโขนแสดงมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถนู้นน...(ปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๐)
…รูปอายตนะประสาททั้ง ๕ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)กลายสภาพ เพราะ...พฤติกรรม พลวัตจากกรรมที่สังเคราะห์รูป เป็นพลวัติในห่วงโมเบียสแห่งกรรม หน้าตาพลวัตกลุ่มนี้ซ่อนตัวอยู่ในปรากฏการณ์นิวเคลียร์สังเคราะห์ธาตุ...ครับ
…Vibration ที่มาจากคลื่นพลังงานไฟฟ้าเคมีชีวภาพ จากระบบอายตนะประสาทสัมผัส ถูกอธิบายด้วยศัพท์โบราณ ที่เราเรียกว่า อภิธรรมปิฎก...ครับ แล้ว...รูปของพลังงานสังเคราะห์ธาตุเหล่านี้ ซ่อนอยู่ในปรากฏการณืนิวเคลียร์สังเคราะห์ธาตุเท่านั้น...ยิ่งกว่านั้นพระพุทธศาสนานำมาออกแบบเป็นประเพณีวัฒนธรรมเกี่ยวกะสังคมด้วย
....อภิธรรมปิฎก ไม่เอา ปรากฏการณ์นิวเคลียร์สังเคราะห์ธาตุ จากภาพถ่ายใน "ห้องฟอง(Bubble Chamber)" ของปรากฏการณ์นิวเคลียร์มาเปรียบเทียบ...แล้วมันจะเกิดแตกต่างกระทั่งเป็นความรู้ได้อย่างไร...ถ้าความรู้ไม่เกิดจากการเปรียบเทียบ มันก็คือ...ไอ้บ้าที่...คิดเอาเอง...ครับ ไอ้บ้า...เยอะ เลยยย
...ท่านพระสารีบุตรเคยเกิดเป็นลิงต่อเนื่องถึง ๕๐๐ ชาติ...สุดท้ายในชาติพระอรหันต์ใหญ่อัครสาวก...ท่านก็มีนิสัยแบบลิงๆคละปะปนอยู่ เป็นเหตุให้มีพระเกเรหาเรื่องท่านว่าท่านเดินไม่สำรวมทำชายจีวรมาโดนศรีษะ...เป็นอธิกรณ์...เลย
....พลังงานกรรมเหล่านี้อยู่ในสถานะของ 1 = 1+1+1+1+1+....ไม่รู้จบ ด้วยครับ....ปรากฏการณ์นิวเคลียร์สังเคราะห์ธาตุอยู่นอกระบบภาษาสื่อสารของฝรั่ง...มันก็เลยถ่ายทอดไม่ออก.....สุดท้ายมันต้องเอาวิทยาศาสตร์นิวตันมาเล่น...ปรากฏการณ์ทางมิติเวลาเลยเละ...หมด....การเป็นมนุษย์ เป็นเรื่องของนายบุญคละ..ครับ เพราะเราล้างกรรมใหญ่ๆตอนที่ยังไม่รู้จักพระพุทธศาสนาแห่งอดีตไม่ได้....พวกเรียนอภิธรรม แต่ไม่มีความรู้ด้านฟิสิคส์นิวเคลียร์ ตอนปรากฏการณการเกิดอนุภาคใหม่ เข้าประกอบ
....ไอ้บ้า...คิดเอาเองทั้งนั้น..ครับ เป็นปรากฏการณ์ใน...ฌานวิสัย ๑ ใน ๔ อจินไตย ครับ
ตอนผลบุญผลกรรมเป็น 1=1+1+1+1+1....ไม่รู้จบ แต่มีช่วงกระเพื่อม...แบบควอนตัม...ผมสังเกตเห็นหลักฐานในคำสอนหลายพระสูตร แต่ยังไม่เคยรวบรวมครับ....ผมถึงกล้าเทียบกสิณสังเคราะห์ธาตุ= นิวเคลียร์สังเคราะห์ธาตุ แชร์...ลูกโซ่ หรือ ปฏิกิริยาลูกโซ่ ในปรากฏการณ์นิวเคลียร์ พระพุทธศาสนานำมาแสดงเต็มไปหมด...ครับ
...เหตุการณ์ต่างๆที่เราได้กระทำไปแล้วมันก็มีตำแหน่งบอกชัดอยู่แล้วเหมือนมีพิกัดบอกซึ่งจะส่งผลไปสู่ตำแหน่งในอนาคตอย่างใดออ่างหนึ่ง...ไม่ต่างจากตอนเราเกิดก็สามารถบอกพิกัดจุดกำเนิดและทำนายร่องรอยความน่าจะเป็นในอนาคตของเจ้าของพิกัดกำเนิดนั้นด้วยวิชาพุทธาโหราศาสตร์...มันคือผลสืบเนื่องมาจากการกระทำในอดีตที่ตำแหน่งและเวลาในอดีตนั่นเอง
...ไอ้แชร์เนี่ยมันปฏิกิริยาแห่งโลภะ555...แต่เรื่องลูกโซ่แบบอาจารย์เจ๋งกว่าล้วงตังค์หรือตักข้าวแจกขนมได้ไม่รู้หมด...ได้แบบนี้ล่ะประเสริฐแท้...
...ที่เจ๊ง นั่นมันเงา..ค่าย้อนกลับ ดู Torsion Bar ...เหล็กกันโครงรถยนต์ เกลียวบิดที่นำค่าแรงซับกระแทกไปสู่ความเป็นศูนย์ แต่ค่าเกลียวบิดที่นำจากศุนย์ไปสู่ไร้ขอบเขต...นั่นคือปรากฏการณ์ที่พระพุทธศาสนาบันทึกไว้...ครับ มี..ร่องรอยอยู่ในธนาคารแห่งความทรงจำ(Engram Bank)และอวกาศ รอวันสนองกลับคืนมา....อย่าแปลกใจ เพราะจักรวาลแบบปิด ไม่มีการกระทำใดๆที่จะไม่แสดงผล....พร้อมดอกเบี้ยกรรม สูตรปฏิกิริยาลูกโซ่ครับ
…ท่านพระนาคเสน ปุจฉาย้อนกลับ คิง เมนันเดอร์ว่า ผลกรรมก็เหมือนเช่น ผลไม้....ที่ปลูกและบำรุงมาดีแล้ว แต่ให้บอกว่าผลมันจะต้องออกที่ตรงนั้นตรงนี้ของต้น คงไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่มันออก มันก็เป็นผลนั่นเทียว...ครับ
…รูป ย่อมเกิดบนความว่าง(อวกาศ) ว่างมีขนาดเท่าใด รูปก็มีขนาดเท่านั้น ในปัวเยียกซิ่งกง(พลังเทพปัญญาบารมี) จึงมีเคล็ดว่า รูป คือ ความว่าง ความว่างคือรูป....@_@ 555
...ฉาด...(ตบหัวเข่าตัวเอง...ถูกใจน่ะ)!!! ฉะนั้น...อิทธิบาท ๔ ซึ่งปราดไทยไปตัดคำห้อยท้ายออกมันเลยไม่รู้เรื่อง...คำห้อยท้ายของอิทธิบาท ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ คือ (ตย.)
ฉันทะสัมปยุตตปธานสังขาร...สัมปยุตตปธานสังขาร คือรูปในร่องรอยอวกาศที่เป็นเสรีไปจากกาล และสนามกาล จึงอยู่เป็นกัปเป็นกัลป์...ท้าเลยว่าปราดทั้งหมดในประเทศนี้ไม่รู้เรื่องอิทธิบาทอยู่เหนือสนามเวลาอย่างไร....
...เรื่องในพระอภิธรรมบอกวิวัฒนการการเกิดของมนุษย์ครับ...มนุษย์พัฒนามาจากกลุ่มพลังงานที่ประกอบด้วยกรดอมิโนเรืองแสงในห้วงอวกาศ....พระที่สวดยังไม่รู้เลย อีกอย่างเป็นทฤษฎีสร้างระเบิดนิวตรอนด้วย...ตอนเหตุปัจโย...บอกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติหนึ่งๆ มี ๒๔ เหตปัจจัย ไม่ครบ ๒๔ ไม่เกิดปรากฏการณ์ครับ
...ครับ...๒๔ ควอนตัม ยุบตัวลงเป็น ๑ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ...การแตกฉานเรื่องนี้ไม่เกิดในหมู่นักอ่านคัมภีร์..แต่จะไปเกิดเฉพาะในหมู่นักปฏิบัติซึ่งเป็นผู้สัมผัสเห็น..อันที่เป็น เวทิตัพโพ วิญญูหิ...คือตรงนี้แหละครับ.
…สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะและสัมมาสมาธิครับ อยู่ในหมวด จตุกนิบาต
อังคุตตรนิกาย คือ กุศลกรรมบท ๑๐ กับสัมมาสมาธิ..ยืนยันได้จากตอนที่ท่านพระถังซัมจั๋งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากท่านข่านบูชาไฟ ท่านก็เทศน์กุศลกรรมบท ๑๐ นี้ ข่านท่านก็สลามรับอย่างอ่อนน้อม ตอนจาก ส่งกำลังรบคุ้มกันเป็นพันลี้เลยทีเดียว ครับ
…เล่าเป็นตุเป็นตะเลย...ข้อมูลจริง คือ อภิชฌา-อัพยาบาท-สัมมาสติ-สัมมาสมาธิ ครับ เป็นของเก่าไม่เคยสูญหายไม่เคยแตกกระจาย....ขออำภัย.....
++++++++++++++++
https://www.facebook.com/atthanij.pokkasap
Tel : 08-0742-5957 / 668-0742-5957
No comments:
Post a Comment