*** คุณคิดว่าโฆษณาทางทีวีพูดความจริงสักกี่ส่วน?
by นาคเฝ้าคัมภีร์ นาคพิกลจริต ปิโลติ on
Monday, November 5, 2012 at 5:32pm
๑.โฆษณาอาหาร
-หลายครั้งที่เราเห็นอาหารชิ้นโต สีสันสดใส ดูน่าซื้อ น่ากิน แต่! พอซื้อมาแล้ว มันหยอง สีตุ่นๆ
แห้งเหี่ยวยวบยาบไม่ดูดีดั่งในโฆษณาเลยสักนิด(สุนัขกับเงา!)
แต่ผู้บริโภคก็เอาผิดไม่ได้(บ่อยครั้งที่ไม่คิดจะเอาผิด ("ช่างเถอะไหนๆก็ซื้อมาแล้ว
กินๆไปเถอะ!") เพราะภาพในโฆษณามีตัวหนังสือเท่ามดที่มุมจอว่า "ภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น" (ถุย!)
๒.ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
-เทคนิคนึงในการตอ...เอ้ย!..โฆษณาที่ใช้คำกำกวมอันเป็นสโลแกนยอดฮิตว่าช่วยให้ "ผิวกระจ่างใส"
และตามด้วยภาพยอดฮิต คือภาพคนโดนของ...เอ้ย!...คนหน้าหมองที่ค่อยๆขาวขึ้นทีละสเต็ป
หากหลับตาฟังสักนิดจะรู้ว่า มันไม่ได้บอกว่า "ช่วยให้ผิวขาว" แต่มันบอกว่า "ผิวกระจ่างใส(ถึงบอกว่าใช้แล้วขาววอกยังมีคำว่ากระจ่างใสต่อท้ายอยู่ดี!)"
ทำให้คนดูคิด(เพ้อ)ไปเองว่าใช้แล้ว "ผิวขาว" (ตื่นซะนะลูกนะ)
อีกอย่างภาพคนที่มายืนเรียงไล่ระดับสีผิวกันเป็นตับนี้
ตอนส่งเอกสารขออนุมัติออกอากาศ ก็อาจเขียนแค่ว่า "เป็นภาพคนยืนเรียงกัน" โดยไม่เอ่ยคำว่า "ผิวขาว" เลย! (ถึงเขียนอะไรไปมันก็คงไม่อ่านอยู่ดีแหละ)
๓.ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม/บำรุงสมอง(เยอะมากในยุคนี้)
-หนึ่งในเทคนิคการโฆษณาที่ทำให้ผู้มีอายุไม่เกิน
๑๘ ปี(รึมากกว่านั้น) คิดว่า กินแล้วจะฉลาดปราดเปรื่องประดุจดั่งได้กินโอสถทิพย์ของไท่ซ่านเหล่าจิน
รึไม่ก็ได้กินเศษศิลาแตกจากเทือกเขาฮัวกั่วซาน กินแล้วรู้สึกมีกำลังวังชามอำนาจเหนือจินตนาการดุจได้ครอบครองลูกแก้วสี่วิญญาณ(ใครดูอินุยาฉะ
ยกมือ!) รึได้กินยาอายุวัฒนะน้ำอมฤตจากสรวงสวรรค์
ซึ่งเป็นเทคนิคง่าย(ที่หลอกได้หลอกดี) เช่น
การเอานักแสดง(ที่หน้าตาดูไม่โง่)มาใส่ชุดกาวน์แบบหมอ
แล้วออกมาพูดให้คนเข้าใจไปเองว่านี่คือหมอ(อย่ากินหญ้านะลูกนะ)
แล้วก็มีภาพสินค้าตามด้วยภาพเด็กกำลังคิดเลขอย่างคล่องแคล่ว(คำเตือน
ควรดื่มไม่เกินวันละ ๒ ขวด เด็กและสตรีมีครรภ์ บลาๆๆ...)
ทานโทษมันบอกตอนไหนว่า "กินแล้วฉลาด คิดเลขเก่ง" มันแค่เอาภาพมาตัดแปะกันเท่านั้นเอง
แล้วคนดูก็เพ้อต่อไปเองว่า "ผลิตภัณฑ์นี้ หมอ(ตี๋)แนะนำให้แด่...เอ้ย!...ดื่มแล้วลูกจะฉลาด" ทั้งๆที่โฆษณาไม่ได้พูดอะไรเลย(กินหญ้าดีกว่ามั้ย?)
และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่อวดอ้างสรรพคุณไว้สูงล้ำเกินคนธรรมดาจะเข้าใจนั้น
ถึงจะแปะโลโก้ อย. ไว้ก็ไม่ได้แปลว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะให้ผลตามโฆษณา
เพราะการมี อย. แปลว่า "กิน/ใช้แล้วไม่ตาย" ก็แค่นั้น
ทานโทษ(อีกที)
นักโฆษณาบางทีไม่จำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถอะไรเลยก็ได้
แค่คิดหาวิธีทำให้คนดู "คิดไปเอง" ตามที่นักโฆษณาต้องการโดยไม่ผิดกฎหมายแค่นั้นเอง
วันนี้เป็นอะไรนะเรา พิมพ์ผิดบ่อยจัง
(ไม่ได้เคืองกันเป็นการส่วนตัวนะแจ็ค
มันก็เป็นแค่เรื่องธุรกิจ-ลอร์ดคัตเลอร์ แบ็คเก็ต)
Atthanij Pokkasap จะเอาอันสวยๆในตู้โชว์มะ..ล่ะ อันนั้นเก็บเป็นปีก็ไม่เสีย..
ผู้บริโภคที่ฉลาดต้องพึ่งตัวเองให้มาก
หน่วยงานอะไรต่ออะไรนั่นมันแค่แนวกันไฟของ..ของ..? นู้นนน...ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ
ปชช.ทั่วๆไปเลย...
นาคเฝ้าคัมภีร์ ฉลาดกันนัก ประชาชน
No comments:
Post a Comment