Atthanij Pokkasap :
"พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์"
เพราะอะไร ?
ทำไม ?!!
ท้าวเวสสุวัณ หรือท้าวกุเวร เทพเจ้าประจำทิศเหนือ ของ จาตุมหาราชิกา สรวงสวรรค์ของเหล่าเทพเจ้า
ผู้พิทักษ์โลกด้วย
"โลกบาลธรรม (หิริ-โอตตัปปะ)" จัดเป็น "สาโลหิต"ของพระพุทธเจ้า
อีกองค์หนึ่ง
(สาโลหิต คือ ผู้เคยปฏิบัติธรรมร่วมและคุ้นเคยกันมาในอดีตชาติ
แล้วบรรลุเป็น อริยะบุคคลล่วงหน้ามาก่อน จัดเป็นบุคคลประกอบภูมิทัศน์ในระหว่างการพิสูจน์ทุกขสมุทัย
คือ "ปฏิจจสมุปปาท" บนเส้นทางของ "บุพเพนิวาสานุสสติญาณ" ของพระพุทธเจ้า)
ท้าวเวสสุวัณ ได้แสดง บทพระปริตร ชื่อ "อาฏานาฏิยปริตร"..คือกล่าวทบทวนบุญกุศลที่ร่วมอดีตชาติ
มากับพระพุทธเจ้า นั่นเอง นับจาก พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ย้อนหลังไป ๙๑ กัปกัลป์
เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่... "เปรตเครือญาติพระจ้าพิมพิสารคอร์รัปชั่นของสงฆ์"
ด้วย
การนับกัปกัลป์ หรือ
ช่วงเวลาขนาดมหึมาของพระพุทธศาสนา ต้องเข้าใจด้วยว่า กัป
(บาลี..กปฺป สันสกฤต..กลฺป ไทยนำมาใช้คู่กันได้เลยเป็น "กัปกัลป์) เป็นหน่วยนับเวลาค่ามโหฬาร
ที่ใช้นับเวลาบนเส้นทาง เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย จุติ-อุบัติ
ของเหตุการณ์ใน
"ญาณอันเป็นเครื่องระลึกอดีตชาติ (บุพเพนิวาสานุสติญาณ)"....
เป็นเหตุและส่งถึงผล คือ
ญาณอันเป็นเครื่องเห็น จุติ-อุบัติทั้งหลาย ( จุตูปปาตญาณ) ที่ประมวล
การพิสูจน์ กฎแห่งกรรม นับ
ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ฯลฯครั้ง เป็นที่มาของ ธรรมอันเป็น "อกาลิโก" ครับ
"พระเจ้า ๗
พระองค์" ที่ไสยศาสตร์ไทยเรียก ก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง ๗ พระองค์ ที่
ท้าวเวสสุวัณตรัสถึง
ในพระอาฏานาฏิยปริตรนี้ ซึ่งก็มี..พระวิปัสสี พระสิขี พระเวสสภู
พระกกุสันธะ
พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ และพระอังคีรสผู้โคตมโคตร องค์ปัจจุบัน....
หมายถึง...เหล่าอริยเทวา ผู้เป็นสาโลหิตของพระพุทธเจ้า คือ
ผู้เคยปฏิบัติธรรมร่วมพระพุทธเจ้าแต่เมื่อครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงเป็นพระบรมโพธิสัตว์
แล้วบรรลุธรรมชั้นอริยะล่วงหน้าพระบรมโพธิสัตว์มาก่อน..
ทั้งหมดส่วนใหญ่นั้น...เคยเป็นสาวกประกอบอยู่ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทั้ง ๗ ยุคนี้ นั่นเอง
การนับหน่วยเวลาค่ามโหฬาร...ที่เรียกว่า กัป และกัลป์ ในพระพุทธศาสนา
นอกจากใช้นับช่วงเวลาเกิดเหตุการณ์ของอดีตชาติที่ได้สัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาในแต่ละยุคของ
พระสัมมาสัมสัมพุทธเองเจ้า
แล้ว ยังเกี่ยวข้องกับ จุติ-อุบัติ ของ สุริยจักรวาล และ
ดาราจักรทางช้างเผือก (แสนโกฏิโลกธาตุ)โดยตรงด้วย
แสดงถึง..
การค้นพบ ปรากฏการณ์เวลา ของพระพุทธศาสนา เกิดจาก
วิชาการระลึกชาติ (อตีตังสญาณ
;บุพเพนิวาสานุสสติญาณ) และ
การวิเคราะห์โครงสร้างของเหตุเกิดแห่งทุกข์ (ทุกขสมุทัย) คือ "ปฏิจจสมุปปาท"
(หลักฐาน เวลาเกิดไปจากจิต ที่เรียกว่า "ปฏิจจสมุปปาท" อยู่ในอัทธานปัญหา คัมภีร์มิลินทปัญหา)
และ คำว่า "ไฟประลัยกัลป์" ...หมายถึง
ไฟที่เผาทำลายโครงสร้างเวลาขนาดใหญ่
เป็นคำทันสมัยเกินไปสำหรับวิทยาศาสตร์ที่ยังพัฒนามาไม่ถึงการพิสูจน์ค้นพบว่า
เวลาเกิดจากอะไร ครับ
วิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถค้นพบและพิสูจน์ได้ว่า เวลาเกิดจากอะไร ทำไม เพราะอะไร
หยุดแทรกแซงคำสอนของพระพุทธศาสนา ด่วนเลย
เพราะ ท่านโง่มาก กับการแสดงความเสือก
แตะต้องศาสนาที่ค้นพบในสิ่งที่ท่านไม่สามารถ ค้นพบตามได้ !!!
Atthanij Pokkasap แสนโกฏิจักรวาล คือ หมู่ดาว ๑๐ แสนล้านดวง
ปัจจุบัน ดาราศาสตร์ เชื่อว่า ดาราจักรทางช้างเผือก มีดวงดาวเป็นสมาชิกอยู่ 4 แสนล้านดวง
ขณะที่พระพุทธศาสนา นับเป็นจำนวนเต็มที่ ๑๐ ล้านดวง
สนามรองรับดาราจักรทางช้างเผือกนี้เอง...ที่พระพุทธศาสนากำหนดเป็นคาบชีวิต
๑ กัป (กัลป์)
แล้วนำไปเป็นหน่วยนับ...การ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย
จุติ-อุบัติ ของ "จิต"
ตามโครงสร้างปฏิจจสมุปปาท.
Atthanij Pokkasap การนับหน่วยเวลาค่ามโหฬารของ
กัป (กัลป์) พระพุทธศาสนาจัดให้อยู่ในรูปของคลื่น
Atthanij Pokkasap คลื่น จุติ-อุบัติ รอบใหญ่ของดาราจักรทางช้างเผือก
ที่มาของการประกาศการค้นพบทั้งหมดของพระพุทธศาสนาว่า เป็น
"อกาลิโก"...คือ
ไม่จำกัดกาล แสดงถึงการพิสูจน์การค้นพบ นับเป็น ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ฯลฯ ครั้ง ด้วยกันตามรูปคลื่นนี้
ยุคของพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านมา ๙๑ กัป ก็คือ ดาราจักรทางช้างเผือก จุติ-อุบัติ มาแล้ว
๙๐ รอบ โดยรอบที่ ๙๑ ก็คือยุคของ พระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน.
Panu Wongpanuvut พุทธประวัติศาสตร์ข้ามภพข้ามชาติข้ามกัปกัลป์
Atthanij Pokkasap
ศาสนาประจำดาราจักร
Atthanij Pokkasap เพราะ สำนวนโบราณว่า...
โลกธาตุแสนโกฏิรองรับพระอาชญา(อาญาเขต)แห่งพระปริตร..
หมายความว่า อำนาจพระปริตรแผ่ไปตลอดดาราจักรทางช้างเผือก
ก็คือกฎการค้นพบธรรมของพระพุทธศาสนา...มีแสนโกฏโลกธาตุ..รองรับ.. น่ะเอง
No comments:
Post a Comment