Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Wednesday, February 12, 2025

"Itipiso" On Magha Puja Day 🙏 🙏 🙏 * การค้นพบโลกของพระพุทธศาสนา *


🕯 🕯 🕯 🕯 🕯 🕯 🕯



"Itipiso" On Magha Puja Day
🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏 🙏





อ.อัตถนิชย์ โภคทรัพย์ 

12 กุมภาพันธ์ 2018  · 

#การค้นพบโลกของพระพุทธศาสนา

๏ เมื่ออายตนะภายใน และภายนอกเกิดขึ้น

โลกจึงเกิดขึ้น

๏ โลก ย่อมกระทำการเชยชิดในอายตนะภายใน และภายนอกฯ

๏ โลก เดือดร้อน เพราะยึดถืออายตนะภายใน และภายนอกฯ

๏ อุปาทานที่เป็นเหตุเดือดร้อนในโลก คือ กามคุณ ๕ มีใจ เป็นที่ ๖ฯ

๏ การคลายความพอใจในกามคุณ ๕ ย่อมพ้นทุกข์ เป็นธรรมชาติ เครื่องออกจากโลก ๚๛

จาก ข้อ (๓๐๙) ๏ #เหมวตสูต ๚๛ สุตตนิบาต ขุททกนิกาย พระไตรปิฎก สยามรัฐ เล่ม ๒๕/๔๕


ขยายความศัพท์เท็คนิค แบบ Bio-Quantum Physics :--

1. #อายตนะภายใน

อายตนะ แปลว่า สนามแรง (Force Field) คือ

พื้นที่-ที่เกิดคลื่นพลังงานสั่นสะเทือน (Vibration) ภายใน ได้แก่

ตา-จักขุ หู-โสต จมูก-ฆานะ ลิ้น-ชิวหา กาย-กายะ

พลังงานที่เกิด เรียกว่า

อาการรู้ทางตา-จักขุวิญญาณ

อาการรู้ทางหู-โสตวิญญาณ

อาการรู้ทางจมูก-ฆานวิญญาณ

อาการรู้ทางลิ้น-ชิวหาวิญญาณ

อาการรู้ทางกาย-กายวิญญาณ

เมื่อเรียกโดยขอบเขตหน้าที่การทำงานด้วยระบบประสาท พระพุทธศาสนาเรียกว่า

"#อินทรีย์ทั้ง๕"..

เป็นที่มาของ #กายสังเคราะห์จิต (นามรูปเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณในวงจรปฏิจจสมุปปาท) และการสร้างพลังงานรู้สึก ที่เรียกว่า #กามคุณ๕

มีใจเป็นที่ ๖ ( มโนวิญญาณ) ซึ่งเป็นอุปาทาน..อุบัติพร้อมๆกับ จักขุวิญญาณ โสต~...ฯลฯ เป็นตัวสร้างอำนาจเกาะเกี่ยว ที่มาของอุปมา #จิตเหมือนลิง


2. #อายตนะภายนอก ตรงกับศัพท์จิตวิทยาที่ว่า #สิ่งเร้า(Stimulus) ได้แก่ รูป-เสียง-กลิ่น-รส-โผฏฐัพพะ(สัมผัสทางกาย) ไม่ใช่ตัวกาม

แต่เป็นเพียง #วัตถุกาม ที่ก่อให้เกิด #กิเลสกาม...

คือ ความพอใจ-ไม่พอใจ-พอใจก็ไม่ใช่-ไม่พอใจก็ไม่ใช่

เป็นที่มาของอำนาจความคิดเชื่อมโยง แก่ #มโนวิญญาณ..

ใน #วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป โครงสร้างสำคัญของ #ปฏิจจสมุปปาท


3. การคลายความพอใจในกามคุณ ๕ จึงจำเป็นต้องเข้าถึง จุดกำเนิดของสนามพลังงาน

คืออายตนะภายในทั้ง ๕ กับ ใจที่ตั้งของ มโนธาตุ/มโนวิญญาณธาตุ

คือ #มนายตนะ ( Mind over Force Field) ที่มาของมโนวิญญาณ

ที่เกิดพร้อม จักขุวิญาณ-โสตวิญญาณ-ฆานวิญญาณ-ชิวหาวิญญาณ-กายวิญญาณ

#ปัญญาญาณตรงนี้ต้องอาศัยจิตบริสุทธิ์ที่ทรงพลัง

คือ มนายตนะที่ถูกตัดตอนไม่ให้เกิดมโนวิญญาณขึ้นมาพร้อมกับ วิญญาณของอายตนะภายในทั้ง ๕ ความสามารถตัดตอนได้

จึงเป็นที่มาของ #อุตริมนุสสธรรม กับโลกแห่งความแท้จริง ตามที่ปรัชญาวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าแห่งคริสตศตวรรษที่ 20 ฉงนฉงาย

และชาวพุทธโบราณเรียกการสื่อสารนอกขอบเขตอายตนะเหล่านี้ว่า #ปรมัตถสัจจบัญญัติ

(ในขอบเขต เรียกว่า #สมมุติสัจจบัญญัติ)





Thursday, November 14, 2024

Tuesday, October 1, 2024

ข่าวสารจากพระอรหันต์ ตอน ความเป็นกลางของจิตที่ควรแก่การงานตามคําสอนของพระพุทธศาสนา





ข่าวสารจากพระอรหันต์ 

ตอน ความเป็นกลางของจิตที่ควรแก่การงานตามคําสอนของพระพุทธศาสนา




Saturday, July 20, 2024

"Dhammachakkapavattana Sutta" on Asalha Puja Day





ทุกข์มีเพราะเป็นความจริงของโลก

แต่จิตที่รองรับทุกข์

ก็เหมือนความลึกของมหาสมุทร

ปุถุชนย่อมสำคัญว่าตนทุกข์ใหญ่หลวง

ประเภทมึงไม่เป็นกู มึงไม่รู้หรอก

 

ผู้ฝึกตนมาดีแล้วเท่านั้น

ที่รู้แก่ตนดี ว่า ทุกข์นี้ทนได้

และผู้ฝึกตนถึงธรรมแล้ว

ย่อมรู้ยิ่งกว่า ว่า...

ทุกข์นี้นอกจากทนได้แล้ว

ยังแก้ไขได้อีกด้วย

แต่ก็...เคารพในกรรม

ที่สะสมมาด้วยความเป็นธรรมดาของโลก

 

การฝึกตน

จึงเป็นอะไรไปไม่ได้

นอกจากการเข้าถึงการระงับ การดับ

ความรู้สึกและดับประสบการณ์ความรู้สึก

ของระบบประสาท ที่ต้องเข้าลึกถึง

การทำงานของกระบวนการทางอินทรีย์

ตามที่สำนวนพระบาลีบัญญัติสำเร็จรูป ว่า

"เวทนา" และ "สัญญา"

เวทนา คือความรู้สึกที่จัดระเบียบไว้ดีแล้ว

โดยผู้ฝึกตนถึงธรรม

สัญญา คือ ประสบการณ์ทรงจำ

ในความรู้สึกที่ชัดเจนดีแล้ว นั้น ๆ

 

นี้คือ เป้าหมายของการฝึกตน

เป็นที่มาของ "ฌาน"

ปฏิบัติการแห่ง การทำจิตให้ขาวสว่างรอบ

"สจิตฺตปริโยทปนํ"

Sacittapariyodapanam

 

* จากบทความ โดย อ.นิช อัตถนิชย์ โภคทรัพย์


Thursday, March 7, 2024

ข่าวสารจากพระอรหันต์ ตอน มารู้จักพุทธตันตระกันเถอะ ตอนพิเศษ ที่ ๑




ข่าวสารจากพระอรหันต์สมัยพุทธกาล  
ตอน มารู้จักพุทธตันตระกันเถอะ ตอนพิเศษ ที่ ๑


Tuesday, December 26, 2023

Traibhumikatha : Buddhism's Legendary in Space and Time



ไตรภูมิพระร่วง

(Traibhumikatha :- Buddhism's Legendary in Space and Time)

Tuesday, September 19, 2023

วิชาประกอบการฝึกกักลมอัสมิตา (Asmita Pressure Mindfulness)

 




#วิชาประกอบการฝึกกักลมอัสมิตา

(Body and Mind Phenomena of Buddhistic Smadhi)


1. วิชาโราศาสตร์ไทย ประกอบด้วย...

1.1 หลักการอ่านท้องฟ้าในไตรภูมิประกอบการคำนวณเวลาเป็นปฏิทินโดยคัมภีร์สุริยยาตร์
และอ่านดวงชะตาประกอบนรลักษณ์ ซึ่งมีท่านพระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นปฐมปรมาจารย์

1.2 หลักการสังเคราะห์มวลกระดูก และการอ่านคติตามเสียงกระโหลกศรีษะ
ที่มีท่านพระวังคีสะ เป็นปฐมปรมาจารย์

1.3 หลักการอ่านฤกษ์แห่งประโยชน์ประกอบท้องฟ้าในไตรภูมิ ที่มีท่านพระอุตตมราม
เป็นปฐมปรมาจารย์

1.4 หลักการพิสูจน์ปรากฏการณ์เวลา บนท้องฟ้าไตรภูมิ เท็คนิคการพิสูจน์ทุกขสมุทัย
ในสถานะของปฏิจจสมุปปาท ในอริยสัจ 4 ตามอรรถะและพยัญชนะทุกตัวอักษรแห่งบันทึกพระบาลี


2. วิชานวดแผนโบราณดั้งเดิมของไทย

2.1 ทฤษฎี เส้นปธาน 10

2.2 ทฤษฎี 80 ท่าบทฤาษีดัดตน

2.3 ทฤษฎีว่าด้วยศิลปมวยไทยพิชัยสงคราม
จากวิชาธนุรเวท ถึง วิชากำลังพระโพธิสัตว์
(นารายณพล)

3. ทฤษฎีแพทยศาสตร์จากพระโอษฐ์ ในพระบาลี ไตรปิฎก

4. วิชาฝึกจิต โดยหลักของพระอานาปานสติสูตร และพระมหาสติปัฏฐานสูตร ในพระบาลี ไตรปิฎก ชนิดตรงตัวอรรถะตามพยัญชนะทุกอักขระ




...บอกไปอาจเหลือเชื่อ กุญแจไขความลับทั้งหมดของพระอภิธรรม คือ คัมภีร์สุริยยาตร์ครับ เข้าใจสูตรในคัมภีร์สุริยยาตร์ จะจำทุกหมวดหมู่ของอภิธรรมได้แม่นยำทั้งหมด...ประหลาดมาก!
เพราะสูตรที่พ่อขุนพระญาลิไทยท่านเรียก "สรุปอัปปะ" คือประมวลหัวข้ออภิธรรมที่ใช้ในการคำนวณหาเวลาที่เป็นโครงสร้างในแต่ละส่วนของจิต ครับ ยิ่งใหญ่ลี้ลับมาก.
โหรไหนที่ว่าแน่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอกครับ ขนาดว่า ดาวทั้ง ๑๐ โคจรรอบเขาพระสุเมรุ-
ยังไปกันไม่เป็นเล้ยยย์ ยังท่องตามตูดฝรั่งอยู่ได้ว่าหมุนรอบดวงอาทิตย์....เฮ้อออยยย์


Atthanij Pokkasab
โพสท์เมื่อ ๔ ม.ค. ๒๕๖๐
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

Saturday, September 16, 2023

SEVEN BUDDHAS IN THE UNIVERSES : "พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์"

 




Atthanij Pokkasap  :


"พระพุทธเจ้า ๗ พระองค์"


เพราะอะไร

ทำไม ?!!

 

ท้าวเวสสุวัณ หรือท้าวกุเวร เทพเจ้าประจำทิศเหนือ ของ จาตุมหาราชิกา สรวงสวรรค์ของเหล่าเทพเจ้า

ผู้พิทักษ์โลกด้วย "โลกบาลธรรม (หิริ-โอตตัปปะ)" จัดเป็น "สาโลหิต"ของพระพุทธเจ้า อีกองค์หนึ่ง

(สาโลหิต คือ ผู้เคยปฏิบัติธรรมร่วมและคุ้นเคยกันมาในอดีตชาติ 

แล้วบรรลุเป็น อริยะบุคคลล่วงหน้ามาก่อน จัดเป็นบุคคลประกอบภูมิทัศน์ในระหว่างการพิสูจน์ทุกขสมุทัย 

คือ "ปฏิจจสมุปปาท" บนเส้นทางของ "บุพเพนิวาสานุสสติญาณ" ของพระพุทธเจ้า)

 

ท้าวเวสสุวัณ ได้แสดง บทพระปริตร ชื่อ "อาฏานาฏิยปริตร"..คือกล่าวทบทวนบุญกุศลที่ร่วมอดีตชาติ

มากับพระพุทธเจ้า นั่นเอง นับจาก พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ย้อนหลังไป ๙๑ กัปกัลป์ 

เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่... "เปรตเครือญาติพระจ้าพิมพิสารคอร์รัปชั่นของสงฆ์" ด้วย

 

การนับกัปกัลป์ หรือ ช่วงเวลาขนาดมหึมาของพระพุทธศาสนา ต้องเข้าใจด้วยว่า กัป

(บาลี..กปฺป สันสกฤต..กลฺป ไทยนำมาใช้คู่กันได้เลยเป็น "กัปกัลป์) เป็นหน่วยนับเวลาค่ามโหฬาร 

ที่ใช้นับเวลาบนเส้นทาง เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย จุติ-อุบัติ ของเหตุการณ์ใน

"ญาณอันเป็นเครื่องระลึกอดีตชาติ (บุพเพนิวาสานุสติญาณ)".... เป็นเหตุและส่งถึงผล คือ

ญาณอันเป็นเครื่องเห็น จุติ-อุบัติทั้งหลาย ( จุตูปปาตญาณ) ที่ประมวล 

การพิสูจน์ กฎแห่งกรรม นับ ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ฯลฯครั้ง เป็นที่มาของ ธรรมอันเป็น "อกาลิโก" ครับ

 

"พระเจ้า ๗ พระองค์" ที่ไสยศาสตร์ไทยเรียก ก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง ๗ พระองค์ ที่

ท้าวเวสสุวัณตรัสถึง ในพระอาฏานาฏิยปริตรนี้ ซึ่งก็มี..พระวิปัสสี พระสิขี พระเวสสภู

พระกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ และพระอังคีรสผู้โคตมโคตร องค์ปัจจุบัน....

หมายถึง...เหล่าอริยเทวา ผู้เป็นสาโลหิตของพระพุทธเจ้า คือ 

ผู้เคยปฏิบัติธรรมร่วมพระพุทธเจ้าแต่เมื่อครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงเป็นพระบรมโพธิสัตว์ 

แล้วบรรลุธรรมชั้นอริยะล่วงหน้าพระบรมโพธิสัตว์มาก่อน..

ทั้งหมดส่วนใหญ่นั้น...เคยเป็นสาวกประกอบอยู่ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง ๗ ยุคนี้ นั่นเอง

การนับหน่วยเวลาค่ามโหฬาร...ที่เรียกว่า กัป และกัลป์ ในพระพุทธศาสนา 

นอกจากใช้นับช่วงเวลาเกิดเหตุการณ์ของอดีตชาติที่ได้สัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาในแต่ละยุคของ

พระสัมมาสัมสัมพุทธเองเจ้า แล้ว ยังเกี่ยวข้องกับ จุติ-อุบัติ ของ สุริยจักรวาล และ

ดาราจักรทางช้างเผือก (แสนโกฏิโลกธาตุ)โดยตรงด้วย

 

แสดงถึง..


การค้นพบ ปรากฏการณ์เวลา ของพระพุทธศาสนา เกิดจาก

วิชาการระลึกชาติ (อตีตังสญาณ ;บุพเพนิวาสานุสสติญาณ) และ

การวิเคราะห์โครงสร้างของเหตุเกิดแห่งทุกข์ (ทุกขสมุทัย) คือ "ปฏิจจสมุปปาท"

(หลักฐาน เวลาเกิดไปจากจิต ที่เรียกว่า "ปฏิจจสมุปปาท" อยู่ในอัทธานปัญหา คัมภีร์มิลินทปัญหา)                                                                 

และ คำว่า "ไฟประลัยกัลป์" ...หมายถึง

ไฟที่เผาทำลายโครงสร้างเวลาขนาดใหญ่

เป็นคำทันสมัยเกินไปสำหรับวิทยาศาสตร์ที่ยังพัฒนามาไม่ถึงการพิสูจน์ค้นพบว่า

เวลาเกิดจากอะไร ครับ

 

วิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถค้นพบและพิสูจน์ได้ว่า เวลาเกิดจากอะไร ทำไม เพราะอะไร


หยุดแทรกแซงคำสอนของพระพุทธศาสนา ด่วนเลย


เพราะ ท่านโง่มาก กับการแสดงความเสือก


แตะต้องศาสนาที่ค้นพบในสิ่งที่ท่านไม่สามารถ ค้นพบตามได้ !!!

 

 

Atthanij Pokkasap  แสนโกฏิจักรวาล คือ หมู่ดาว ๑๐ แสนล้านดวง

ปัจจุบัน ดาราศาสตร์ เชื่อว่า ดาราจักรทางช้างเผือก มีดวงดาวเป็นสมาชิกอยู่ 4 แสนล้านดวง 

ขณะที่พระพุทธศาสนา นับเป็นจำนวนเต็มที่ ๑๐ ล้านดวง


สนามรองรับดาราจักรทางช้างเผือกนี้เอง...ที่พระพุทธศาสนากำหนดเป็นคาบชีวิต ๑ กัป (กัลป์)


แล้วนำไปเป็นหน่วยนับ...การ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย จุติ-อุบัติ ของ "จิต"

ตามโครงสร้างปฏิจจสมุปปาท.


Atthanij Pokkasap  การนับหน่วยเวลาค่ามโหฬารของ กัป (กัลป์) พระพุทธศาสนาจัดให้อยู่ในรูปของคลื่น


Atthanij Pokkasap  คลื่น จุติ-อุบัติ รอบใหญ่ของดาราจักรทางช้างเผือก

ที่มาของการประกาศการค้นพบทั้งหมดของพระพุทธศาสนาว่า เป็น "อกาลิโก"...คือ

ไม่จำกัดกาล แสดงถึงการพิสูจน์การค้นพบ นับเป็น ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ฯลฯ ครั้ง ด้วยกันตามรูปคลื่นนี้

ยุคของพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ่านมา ๙๑ กัป ก็คือ ดาราจักรทางช้างเผือก จุติ-อุบัติ มาแล้ว 

๙๐ รอบ โดยรอบที่ ๙๑ ก็คือยุคของ พระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน.


Panu Wongpanuvut    พุทธประวัติศาสตร์ข้ามภพข้ามชาติข้ามกัปกัลป์


Atthanij Pokkasap  ศาสนาประจำดาราจักร


Atthanij Pokkasap  เพราะ สำนวนโบราณว่า...

โลกธาตุแสนโกฏิรองรับพระอาชญา(อาญาเขต)แห่งพระปริตร..

หมายความว่า อำนาจพระปริตรแผ่ไปตลอดดาราจักรทางช้างเผือก 

ก็คือกฎการค้นพบธรรมของพระพุทธศาสนา...มีแสนโกฏโลกธาตุ..รองรับ.. น่ะเอง


 

 * Thank you for the pictures from Google.com