Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Wednesday, January 11, 2017

59.Breaking Dharma PART 58





Breaking Dharma PART 58...!!!
....



(ทบทวน..)

มาเป็นชาวนา ทำนาอมฤตธรรม กันเถอะ
เหตุเกิดขึ้น ที่ ตำบลพราหมณคาม แขวงทักขิณาคิรี ชนบท
แคว้นมคธ


ขณะที่พราหมณ์ชาวนาทั้งหลายกำลังเอิกเกรกกับงานมงคลแรกนา
กสิภารัทวาชพราหมณ์หัวหน้า ผู้ไม่ยินดีในการใส่บาตร
ได้บริภาษ พระพุทธเจ้าซึ่งเสด็จมาบิณฑบาตร ถึงนาว่า

"สมณะ! เราย่อมไถ ย่อมหว่าน
ครั้งไถและหว่านแล้ว จึงได้บริโภค
สมณะ! ถึงแม้ท่าน ก็จงไถ จงหว่านเข้าสิ
ครั้นไถแล้ว หว่านแล้ว ย่อมจักได้บริโภค"

พระพุทธเจ้าตรัสตอบพราหมณ์หัวหน้าชาวนาว่า
"พราหมณ์! ถึงแม้เรา ก็ย่อมหว่าน ย่อมไถ
ครั้นไถแล้ว หว่านแล้ว จึงได้บริโภค เหมือนกันฺ"

พราหมณ์หัวหน้าชาวนาทูลว่า
"ก็พวกเรา ไม่เห็นแอก ไถ ผาล ปฏัก หรือโคของพระโคดม
แต่พระโคดมสิ มากล่าวอยู่ดังนี้..."

แล้วพราหมณ์ก็ผูกโจทย์เป็นกาพย์ขับถามพระพุทธองค์ต่อว่า
"ท่าน ปฏิญญาตนเอง เป็นชาวนา
แต่เราก็มิได้เห็นไถ ของท่าน
นี่แน่ะ! ท่านผู้เป็นชาวนา อันเราถามแล้ว
จงบอกวิธีที่เราจะรู้จักถึง
การไถหว่านของท่านเถิด"

พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า
"เรามี..ศรัทธา เป็นพืช,
ความเผาผลาญกิเลส เป็นน้ำฝน,
ปัญญาของเรา เป็นแอก และคันไถ,
หิริ เป็น งอนไถ, ใจเป็นเชือกชัก, สติ เป็นผาลและปฏัก,
การคุมกาย คุมวาจา คุมท้องในเรื่องอาหาร เป็นรั้วนา,
เราทำความสัตย์ ให้เป็นผู้ถากหญ้าทิ้ง,
ความยินดีใน พระนิพพาน เป็นกำหนดการเลิกทำนา,

ความเพียรของเรา เป็นผู้ลากแอกไป
ลากไปสู่ แดนอันเป็นที่เกษมจากโยคะ,
ไปอยู่ อยู่ที่ไม่เวียนกลับ,
สู่ที่ซึ่งบุคคลไปถึงแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก.
การไถนา ที่ไถแล้วอย่างนี้
นานั้นย่อมมี อมตะ คือความไม่ตาย เป็นผล,
ครั้นไถนานี้เสร็จแล้ว
ย่อมหลุดพ้น จากทุกข์ทั้งปวง"


จาก ข้อ (๖๗๒) กสิภารทวาชสูตร  พราหมณสังยุตต์  สคาถวรรค
สังยุตตนิกาย  ไตรปิฎก สยามรัฐ เล่ม ๑๕/๔๕
ฉบับ พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ถอดความโดย ท่านพุทธทาส
ชัดเจนกว่า ถอดความในพระไตรปิฎก ฉบับหลวง ครับ.


ยืนยันว่า..การเป็นผู้ถึงซึ่งการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา
รู้น้อย ไม่ได้ครับ....รู้น้อยแล้วบอกว่าปฏิบัติธรรม...เป็นการแสดงตนลวงโลก
และเป็นการถ่ายทอดที่บิดเบือนศักยภาพแห่งคุณภาพของพระพุทธศาสนาด้วย
ขอประณาม ครับ.


Atthanij Pokkasap อัญเชิญ
08:20 น.แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ พฤหัสบดีที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖




...พระ...ควรแสดงความเคารพต่อ ธรรม มากกว่าที่กำลังเป็นอยู่...ขณะนี้

...เนื้อหาอยู่คัมภีร์คนละเล่ม..
พระไตรปิฎกจะบันทึกในสไตล์นี้ทั้งหมด  ทำให้คนที่อดทนไม่จริง  อ่านแล้วจะไม่รู้เรื่องหรืออ่านแล้วเอามาต่อยอดด้วยความคิดเฉพาะตัวทำให้บิดเบือนไป..

สุดท้ายของเรื่อง พราหมณ์ก็สาธุการ  เตรียมตักบาตร แต่....พระพุทธเจ้าปฏิเสธว่า  ไม่ได้มาแสดงธรรมเพื่อหวังบิณฑบาตจากพราหมณ์ชาวนา ณ ตำบลนี้
พราหมณ์จึงทูลอาราธนาขอโอกาสในวันถัดไป   แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จไปบิณฑบาตร ณ ตำบลอื่นต่อไป (คล้ายๆ จะใส่ก็ใส่บาตรเลย  อย่ามากเรื่อง)   
แสดงให้เห็นจารีตของสมณะสมัยพุทธกาลด้วย....



...หลายคนบอกว่า เราปฏิบัติธรรม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด และพูดเหมือนดูถูกว่า เราไร้ซึ่งธรรม
คนที่ยังแบ่งแยก แล้วดูถูกคน  ต้องปล่อย   คนพวกนี้ไม่มีวันรู้เลยว่า พระพุทธศาสนาคืออะไร  ต้องปลงสังเวชมากๆ. 
เพราะพวกเขาได้เสียชาติเกิดไปแล้ว...




                                                                                                          ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

  


* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap

No comments: