Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Monday, December 26, 2016

๘๖.Buddha-Dharma-Sangha-Science-Fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-Religion-Language-Math-Mind-Universe-Meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food=Good Life Health.




86.พระพุทธเจ้า - พระธรรม - พระสงฆ์ - วิทยาศาสตร์ - นิยาย - มวยไทย - ประวัติศาสตร์ - โหราศาสตร์ -ไสยศาสตร์ - ศาสนา - ภาษา - คณิตศาสตร์ - จิต - จักรวาล - สมาธิ - โยคะ - ดนตรี - ศิลปะ - เกษตรกรรม - สมุนไพร - อาหาร = สุขภาพและชีวิตที่ดีงาม







Atthanij Pokkasap  :



ตันตระ..ตันตระ..ตันตระ..(๒)
หลักสูตร พุทธตันตระ
..... .....


ขั้นที่ ๑. การแนะนำคำสอนด้วยภาชนะ (รูปมณฑล หรือMandala...มัณฑละ) ต้นแบบมาจากภาพ มัณฑละ ปฏิจจสมุปปาท ที่ราชบรรพชิตฝ่ายวัชชีบุตรเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล (ภาพ มัณฑละ ปฏิจจสมุปปาท จำลองไว้ที่สวนโมกข์ ไชยา)  ผ่านความรู้พื้นฐานนี้แล้วจึงได้รับอนุญาตให้เรียน ตันตระโยคะ    สยามประเทศก็คือการหัดเขียนภาพจิตรกรรมไทยและผลิตสีให้สี (จิตรกรรมไทยสูงสุดคือ ปรากฏการณ์ช้อยนางรำ  ภาพเขียนเดินออกมาจากฝาผนังหนึ่งวนกลับอีกฝาผนังหนึ่ง)

...ตันตระโยคะ คือ ความรู้พื้นฐานในการออกแบบรูปร่างยันต์  เป็นพิ้นที่รูปทรงทางเรขาคณิตที่สัมพันธ์กับกำเนิดจักรวาล  แล้วจึงเริ่มเรียน คัมภีร์ปถมัง



ขั้นที่ ๒. การแนะนำคำสอนเรื่องรหัสยนัยเกี่ยวกับจิตสรีระ เรียกแบบทิเบตว่า ลมปราณโยคะ คือเกี่ยวกับเวลาภายในจิต(สูรยะกลา, จันทระกลา)หลังจากมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับปฏิจจสมุปปาทที่เป็นฐานกำเนิดเวลาใน ขั้นที่ ๑. แล้ว

..คัมภีร์ฝ่ายสยามประเทศตอนนี้ คือ คัมภีร์นวดแผนโบราณต่างๆว่าด้วยเส้นปธานทั้ง ๑๐ ที่มี
สูรยะกลา (เวลากลางวันในจิต) จันทระกลา (เวลากลางคืนในจิต) และศุสุมญา  ถูกก่อตัวขึ้นโดยสมาธิ



ขั้นที่ ๓. ว่าด้วยวิธีการแปรสถานภาพของ ลมปราณโยคะ มาเป็นโยคะแห่งปัญญา  เป็นขั้นตอนที่นำจิตที่สะสมประสบการณ์จากขั้นที่ ๑. และขั้นที่ ๒. ซึ่งเป็นสมาธิแล้ว  มาเปลี่ยนสถานะทางโครงสร้างให้เป็นปัญญา  คือนำเอา อาโลกสัญญา และอธิษฐานทิวาสัญญา มาประยุกต์เข้ากับ ลมปราณโยคะ

...พิเศษใน ขั้นที่ ๓.  จะมีเทคนิค อีก ๖ ชนิด  คือ โยคะไฟ ๑, โยคะฝัน ๒, โยคะ มีร่างลวง ๓,
โยคะระหว่างความเป็นและความตาย ๔, โยคะแห่งการจำแลง ๕, และสุดท้าย โยคะแห่งแสงสว่าง(สัมโพธิญาณ,วิชชา,ปัญญาสูงสุด)

...ฝึกหมดครับในอนุตรตันตระ...แต่ลำดับเป็น เอก- โท- เลือก อย่างหิมาลัยเขตหนาวก็จำเป็นต้องได้ โยคะไฟก่อน   ลามะสายฆยุปปะ(นิกายเสียงกระซิบ) นุ่งห่มขาวด้วยผ้าบางๆจะเก่งโยคะไฟ    
ส่วนที่ผมมีขณะนี้เป็นโยคะฝันกับโยคะแห่งแสงสว่าง  โยคะมีร่างลวงเทียบได้กับ นะหน้าทองและนารายณ์แปลงรูป ครับ

สำหรับโยคะระหว่างความเป็นกับความตาย  ทิเบตเรียก "บารโด" ก็คือเรื่องการกำหนดค่า "อวตาร"
วิเคราะห์มาจากการกำหนดภูมิเกิดของพระโพธิสัตว์  อยู่ในบันทึกเถรวาทชัดเจน ตอนที่พระเวสสันดรจะจุติ   พระอินทร์ไปอาราธนามีอยู่ ๔ ครั้งครับที่พระโพธิสัตว์จะลงมาเกิด   แล้วท้าวสักกเทวราชทูลอาราธนารวมทั้งภพชาติที่มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย.



ขั้นที่ ๔. คือ มหามุตตราโยคะ หรือ การบรรลุ สัมโพธิญาณ และสัมโพธิสุข.....






...ตำราไสยศาตร์ไทยและโหราศาสตร์ไทยมีครบ   แต่..ต้องนำหลักสูตรฝ่ายทิเบตมาปรับเทียบจัดกลุ่มและระดับการเรียนรู้   เนื่องจากของฝ่ายทิเบตยังรักษาสูตรเดิมของโบราณไว้อยู่...


...เรากำลังพูดถึงรายละเอียดที่มีหลงเหลืออยู่ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี   ถ้ารวบรวมได้ควรเป็นอย่างนี้...แต่ขณะเดียวกัน มันก็ใช้วัดความมักง่ายของพวกรู้ธรรมเอาเองทั้งหลายด้วย...มันเก่งเอง บารมีมันสูงมาก  ไม่ต้องเรียนรู้ก็บรรลุไปเรื่อยตามที่มันเชื่อเอาเอง...พฤติกรรมดูถูกพระไตรปิฎก  สู้มันรู้เองเห็นเองไม่ได้...พวกนี้อ้างไม่เทียบประเด็นเลย    บุคคลที่มีประสบการณ์ทางจิต..เค้าไม่เอามาคุยกันหรอก...เว้นแต่...จะเกิดโอกาสอย่างที่ผมเล่าให้ฟัง...ไม่ใช่เกริ่นขึ้นมาเอง...ผมต้องกลับมาเทียบสาระกับพระไตรปิฎกด้วยความระมัดระวัง....



พระศรีอารยะเมตไตรย สูง ๒๐ ศอก  อายุ ๘๐,๐๐๐ ปี   สังคมมนุษย์โลกใบนี้พัฒนาไปถึงแล้วหรือบังอาจฝันจะไปบรรลุยุคพระศรีอารยะ...ในพุทธกาล   ท่านเป็นพระชื่อ ท่านพระอชิตะ  ปัจจุบันท่านเป็นท้าวเทวราชอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต ชื่อ นารถโพธิสัตว์  คนขึ้นสวรรค์ไปเห็นคนล่าสุดคือ ท่านพระมาลัยเถระเจ้า



...เพลงดาบเทพเจ้าตอล้อ  ตอล้อ คือ ตาระ  ดาบเดือนโค้ง  
ตาระเทวี เกิดจากหยดน้ำตาแห่งความกรุณาของพระอวโลกิเตศวร..ครับ     
กระแสญาณแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ...ที่พุทธตันตระรับคลื่นและแปลความหมายเป็นองค์โพธิสัตว์...

ตอล้อเกี่ยมฮวบ..เพลงดาบเทพเจ้าตอล้อ   เป็นเทคนิคค่าบวกกับของกาฬสุตตนรก   เหมือนพายุเวรัมภาในอีกมิติที่สามารถพัดตัดพญาครุฑให้ขาดเป็นท่อนๆ   ฤทธิพญาครุฑระดับไหนๆก็ต้านไม่อยู่

....นารายณ์ตรึงไตรภพ ย้ายมิติลมพายุเวรัมภา  เข้าจัดการตายเป็นหมูบะช่อยกกองทัพ เป็นได้ได้...กำลังภายในอธิบายปรากฏการณ์นี้ในฉาก มังกรหยก ตอนเอี้ยก้วยผู้กล้าหาญนกอินทรีย์เทพยดา
ฆ่าพระเจ้ามงโกลฮ่องเต้ ครับ...เพราะโดยข้อเท็จจริง  ถ้าจีนเก่งอย่างในเวอร์ชั่นกำลังภายในเหมือนในภาพยนต์   ก็คงไม่มีราชวงศ์หงวนมาปกครองจีนหรอก...แต่การถ่ายทอดจินตนาการจากสาระในพระพุทธศาสนา   จีนทำได้ตื่นตาตื่นใจดี...ดูเอาบันเทิงครับ



...อนุตรมุตตระโยคะในหมวด ๕  คือเรื่องนี้ทั้งหมดครับ...สัญชีวนีน่ะแหละ   สมาธิแบบไทยที่จะรู้เรื่องพระโพธิตว์อวตาร    ต้องผ่านคัมภีร์ปถมังเท่านั้น...ของดีมีอยู่แต่ทำตัวเป็นไก่ได้พลอย
ลิงได้แก้ว  หัวล้านได้หวี...อย่างไม่น่าสมเพชเอาเสียเลย...



...เพราะ ..คัมภีร์ปถมัง ..Buddhatantric Book of Genesis ตามหลักสูตร ขั้นที่ ๑   ทิเบตไม่มีครับ    
มีเฉพาะที่สยามประเทศแห่งแหล่งเดียวในโลกเท่านั้น   พุทธตันตระจะสมบูรณ์ต้องรวมหลักฐานสยามกับทิเบตเข้าด้วยกัน   เป็นสายธุตวาท(ธุดงควัตร)ตัวจริงครับ...


สังหรณ์ใจว่าการผนึกรวมของพุทธตันตระจากสยามประเทศและทิเบต   หากเกิดเป็นเอกภาพขึ้นมาได้จริง   นั่นคือพลังปลดปล่อยที่ทำให้ทิเบตพ้นจากการครอบงำของจีน...





...ครับ..คาถาไสยศาสตร์ไทย   แต่พิธีกรรมการฝึกฝ่ายทิเบตรักษาเอาไว้ได้อยู่ครับ   ผมมาทำหน้าที่เชื่อมต่อ    เพราะนี่คือ กำลังภายในของพระพุทธศาสนาสากลในเอเชียกลาง   ที่ไศวนิกายและไวษณพนิกายจากลัทธิพระเวทเกรงใจมาก...เพราะภาคปฏิบัติ (การสร้างและจัดการพลวัตแห่งจิต)  พระพุทธศาสนาเหนือกว่าอย่างเด็ดขาดครับผมจึงยอมไม่ได้กับกระบวนการฝึกมักง่ายที่คนทุกวันนี้กระทำกับระบบ "สจิตฺตปริโยทปนํ"   




...ท่านคุรุปัทมสัมภวะ...ตอนนี้ท่านอยู่ที่ ชัมพาหะลา..นครที่เก็บพระไตรปิฎก รวม ๑๘ นิกาย....จากการสังคายนาครั้งที่ ๔    ก่อนท่านพระอันสิโกว (เจ้าชายแคว้นปาร์เธียน) ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศจีน...บ้านเกิดท่านคุรปัทมสมภวะอยู่แคว้นอุทยาน  คือลุ่มแม่น้าสวาต   ต้นน้ำใหญ่สายหนึ่งของ
แม่น้ำสินธุที่กำเนิดคตินาคราชสร้างเมือง...การสวามิภักดิ์ของพญานาคราช อปาลาละ ครับ




...เห็นกว๋อชิง...ก๊วยเจ๋ง มั้ย   เคาะจังหวะป๊อกเดียว  เพลงทิพย์ของภูตบูรพาสะอึกเลย....คนที่รากฐานจิตบริสุทธิ์มากๆไม่เล่นดนตรีครับ   แต่จะแวดล้อมด้วยบริวารที่เล่นดนตรี...ชาติวรรณะมันต่างกันมหาศาลครับ..

...ตอนที่ได้โยคะภาพลวง  ที่ Astral Body เป็นร่างแก้วใสเลื่อนออกมาจากกาย..เสียงจีวรที่สีกันกระทบกันเป็นเสียงกังสดาลครับ....เหมือนใบโพธิ์บนต้นโพธิ์ล้อลม...กังสดาลโบสถ์ล้อลม...ซึ่งแตกต่างจากพวกต่ำกว่าจะได้ยินเป็นเสียงดนตรีสารพัด ครับ   
 
...ปกติเป็นหน้าที่ของคนธรรพ์กันครับ  ไม่ใช่เทพผู้ใหญ่    พิณของปัญจสิขร (คนธรรพ์ ๕ จุก)  เป็นพิณได้มาจากพระยามารปรนิมมิตวสวัตดีทำหล่น  เป็นโลกแห่งกามคุณครับ.... ชั้นพรหมเป็นแบบกังสดาล... (ต้องบอกออกมาจนได้...)




....สรุปวิถีพุทธ ที่พระอรหันต์ท่านวางรากฐานประเพณีและจารีตไว้  คือ...พอดีกับความต้องการที่น้อยที่สุดเท่าที่ร่างกายและจิตวิญญาณจะพอดำรงอยู่ได้....ครับ   ไม่ใช่พอดีของปุถุุชนที่เอาความสบายทางกิเลสตัณหามาตั้งค่ากำหนด....ถ้าบรรลุธรรมจริง   จะรู้สึกถึงศักดิ์ศรีแห่งธรรมที่บรรลุ    กินเงินค่าจ้างใครไม่ได้ทั้งนั้น   เพราะ.."อาตมัน" ที่บรรลุ    มันใหญ่เกินนายจ้างทั้งหลายมันจะจ้างได้..ครับ   หาเงินด้วยวิธีรับจ้างก็ไม่ได้ด้วย...ที่ไม่บรรลุจริง...ยังเห็นแก่ปากแก่ท้อง  ยอมทุกอย่างให้ตัวเองมีกินมีใช้ตามระบบความคิดทั่วไป...นั่นคือธรรมตอแหล....ครับ


โสดาบันคือผู้ตัดนรกและอบายแล้วอย่างสิ้นเชิง   มีอธิปไตยแห่งอารยธรรมทางจิตยิ่งใหญ่กว่าพระมหาจักรพรรดิ   ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชาสามัญ....ราชา  มหาจักรพรรดิ   ถ้ามีปัญญาจริง ต้องยกมือไหว้พระโสดาบันครับ   ไม่ใช่โสดาบันไปยกมือไหว้ก่อน....มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วที่วิหารเชตวัน  ที่อุบาสกอนาคามีท่านหนึ่งไม่สนใจพระเจ้าปเสนทิโกศล...



                                                                                                   ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap



No comments: