Buddha-sci-fi-muayThai-history-astrology-superstition-language-yoga-music-art-agricuture-herb-food

...I believe that meditation and healthy food are an essential human experience and should be freedom to learn too................................ Buddha-Dharma-Sangha-science-fiction-MuayThai-History-Astrology-Superstition-religion-Language-math-mind-universe-meditation-Yoga-Music-Art-Agricuture-Herb-Food...this is good health and life. All give us be Oneness. I will try to understand you and everybody around the world................ WE ALL ARE FRIENDSHIP......Truth me

Thursday, December 29, 2016

2.Breaking Dharma PART 2





......


หลักของความเพียร ในพระพุทธศาสนา เรียกว่า สัมมัปปธาน ๔
ประกอบด้วย ;

๑.ความชั่วที่ยังไม่เกิด  อย่าให้เกิด (สังวรปธาน)

๒.ความชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว  ต้องกำจัด (ปหารปธาน)

๓.ความดีที่ยังไม่เกิด  ต้องทำให้เกิด (ภาวนาปธาน)

๔.ความดีที่เกิดขึ้นแล้ว  ต้องทำให้เจริญยิ่งๆขึ้น (อนุรักขนาปธาน)





...นักการเมือง นักการทหารและนักวิชาการที่ร่วมกันทำแผ่นดินไทยถือเป็นความชั่ว มีผิดต่อประมวลกฏหมายอาญา  ว่าด้วยอธิปไตยของชาติและแผ่นดิน มาตรา ๑๑๙  
ต้องโทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต   แต่โดยหลักธรรมแห่งความเพียรของพระพุทธศาสนา   ต้องโทษประหาร (ปหานปธาน) สถานเดียว

...ช่วยรับรู้หลักธรรมที่เด็ดขาดของพระพุทธศาสนาด้วยครับ!!!

...มาตรา ๑๑๙ โดยหลักธรรม โทษประหารสถานเดียวเท่านั้น ...กี่รัฐบาล  กี่ ผบ.ทบ. กี่ รมต.กระทรวงต่างประเทศ  กี่ รมต.กระทรวงกลาโหม  ไล่ดูกันเอาเองครับ...ไอ้ที่สอนธรรมเอะอะๆๆๆ  แผ่เมตตา  ให้อภัย...พระพุทธศาสนาถึงไม่ก้าวหน้า   กลับมาศึกษาความเพียร  ที่มีพระพุทธวจนะตรัสอุปมาเหมือนล้อที่ขับเคลื่อนยานแห่งอารยะธรรมใหม่กันด้วย   ก่อนที่จะนำพระพุทธศาสนาไปสู่การล่มสลายอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์

....ขอบิณฑบาตรด้วย ..การสอนประเภท  ชั่วช่างชี  ดีช่างสงฆ์...เอาตัวให้รอดก่อน...ทำร้าย
พระศาสนากันทั้งนั้น...

มีตรงไหน  สอนให้แผ่เมตตาให้คนชั่วและความชั่ว

มีตรงไหน  สอนให้อโหสิกรรมคนชั่วและความชั่ว...หยุดทำลายและทำร้ายพระศาสนาอย่างอำมะหิตกันได้แล้วววว...

...เพราะทำไม่ได้  ไม่มีความชัดเจนนี่แหละ   ที่ทำให้พระพุทธศาสนาหายไปจากอินเดีย  หายไปจากเอเชียกลาง และกำลังหายไปจากสยาม

... ผู้รู้ทั้งหมดไม่ยอมเข้าถึงประวัติศาสตร์ตอนพระพุทธศาสนาอุบัติขึ้น...เป็นการอุบัติขึ้นท่ามกลางสงครามทั้งนั้นครับ   กำจัดคนชั่วเพื่อรักษาผู้บริสุทธิ์จำนวนมหาศาลกว่าคนชั่วไม่รู้กี่พันเท่า...พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังกินบุญเก่ากันเลยอ่อนแอไม่เด็ดขาด   ร่มพระบรมโพธิสมภารจึงย่อยยับ เลือกเอาครับ..ชะตากรรม   ในแง่หลักธรรมพระพุทธศาสนา..กำหนดได้ทั้งหมด...ไม่ใช่กำหนดไม่ได้..

โหดธรรมชาติ  ก็ไปดูสัตว์ป่าในอาฟริกา..หลายคนต้องร้องไห้   ที่ลูกกวางหรือลูกควายเกิดใหม่ต้องตายกับสิงโต...เพราะอะไร...

ไม่สังเกตุหรือ  ในเถระเถรีคาถา ในอัปทาน    ถ้าอ่านเอาเรื่องจริงๆ   อริยะบุคคลชั้นสูงสมัยพุทธกาล  ล้วนได้อานิสงส์เป็นราชา  มหาราชา  เป็นจักรพรรด์ ทั้งนั้น

...แล้วก็ลงนรกหมกไหม้เพราะฆ่าคนตายเป็นเบือ..เช่นท่านพระทัพพมัลลบุตร  ท่านพระสีวลี ยกทัพล้อมเมืองข้าศึก 7 ปี 7 เดือน 7 วัน   จนกรรมในภพสุดท้ายก็ต้องชดใช้...ลำดับเรื่องให้ดีๆ  คนที่ฆ่าคนแล้วชดใช้สั้นที่สุด  ก็คือท่านพระองคุลีมาลองค์เดียวเท่านั้น

...แล้วคำว่า ฆ่า (ปหาร)  ยังปรากฏมีในสัมมัปปธาน ๔ ขนาดนี้

...นี่เป็นศาสนาของนักรบผู้ชนะ (ชินสีห์, ชินราช) นะครับ...อย่าลืม....

พระพุทธศาสนาไม่ใช่ศาสนาของนายทุนที่นั่งเสพสุขในห้องแอร์..ครับ

วิถีของการประหาร   ไม่ได้หมายถึงต้องเอาให้ตาย นะครับ  ในสังคมพุทธที่เข้มแข็งมากแล้ว ท่านใช้ "เนรเทศ"   ถ้าตีความปัจจุบันก็คือ "ถอนสัญชาติ" ครับ.




                                                                                            ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
  

* Story & Photos by  Atthanij Pokkasap


No comments: